Tattoo Colour
เมื่อ 10 กว่าปี วงดนตรีจากห้องเล็กๆ เด็กหนุ่มจากขอนแก่น กับชื่อวงที่ฟังดูกวนๆ นิดๆ Tattoo Colour เปิดตัวด้วยสไตล์ดนตรี ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างสูง ทั้งเนื้อหา ตัวดนตรี จนไปถึงตัวตนวิธีคิด ใช้เวลาไม่นาน พวกเขาก็กลายเป็นยอดวงอันดับ 1 ในสายเด็กแนว อินดี้ ในเวลานั้นจะบอกแบบนั้นก็ได้ ทุกคนรู้จักเพลงของพวกเขาเพลงดังอย่าง ฟ้า, ขาหมู, ซินเดอเรลล่า, จำทำไม ฯลฯ กลายเป็นเพลงที่สัญลักษณ์แห่งความสนุก ความซึ้งในแบบที่ไม่มีใครเลียนแบบ ทำให้วงดนตรีนี้ขยายไปสู่วงกว้างได้ไม่ยากเย็น เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว การเดินทางมาถึงอัลบั้มที่ 5 ไม่ใช่เวลาที่ธรรมดา สำหรับวงดนตรีสักวง Tattoo Colour กับอัลบั้ม ชื่อ “สัตว์จริง” อัลบั้มที่เต็มไปด้วยแนวคิด รายละเอียด การผจญภัยใหม่ๆ ใช่แล้วพวกเขากลับมาหาแฟนๆ อีกครั้งกับ Tattoo Colour
ก่อนเริ่มทำอัลบั้ม “สัตว์จริง” วางแนวทางไว้ยังไงบ้าง
Tattoo Colour : อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ 5 ของเรา ก็อยากจะทำอะไรที่มันสดชื่น สดใส คึกคัก อัลบั้มที่แล้วจะดูจริงจังไปหน่อยทั้งดนตรี ซาวด์ เราเลยอยากกลับมาให้สนุกเหมือนอัลบั้มแรก ทำให้อัลบั้มนี้มีเพลงช้าค่อนข้างน้อยมี 2 เพลง เราเริ่มทำงาน ตอนกลางปี 2016 ได้คุยกับพี่รุ่งว่าอัลบั้มของเรามันห่างมา 2 ปี แล้ว ก็เลยเริ่มทำเพลง จนต้นมกราคม ก็เริ่มทำจริงจัง ตอนแรกคิดว่าจะงดรับงานทัวร์ แล้วทำจริงจัง แต่บ้านก็ต้องผ่อน รถก็ต้องผ่อน (หัวเราะ) ก็เลยทำไปควบคู่กันครับ ซึ่งอัลบั้มนี้พอเราทำเสร็จเราค่อยเลือกเพลงที่ปล่อย เพลงของเราทุกเพลงต้องสามารถทำเป็น Single ได้ ต้องทำให้คนฟังคุ้มค่าที่สุด ไม่ใช่ 5 เพลงดี อีก 7 เพลงลวกๆ อัลบั้มนี้รัฐร้อง 4 เพลง ดิม 6 เพลง มีตงร้องเพลงนึง จริงๆ จะมีเพลงที่จัมพ์ร้องด้วย แต่โควต้าเพลงหมดพอดี และเวลาก็กระชั้นเลยต้องยกไปก่อน อัลบั้มนี้ก็ทำที่บ้านรัฐ กับ Smallroom กีตาร์ทุกเพลงในอัลบั้มนี้เป็น Digital ล้วนๆ ไม่มีผ่านแอมป์อะไรทั้งนั้น ปกอัลบั้ม ตอนแรกพี่รุ่งกะจะถ่ายรูปสัตว์จริงๆ แต่พอคิดไปคิดมาก็ให้เราแต่งหน้าเป็นสัตว์ดีกว่า ก็เลยแต่งออกมาอย่างตงก็แต่งจากสัตว์เลื้อยคลานเป็นสิงโต (หัวเราะ)
ตง : กระต่ายไม่ใช่สัตว์เลื้อยคลานนะ
ดิม : นี่พึ่งผ่าตัดเย็บลิ้นมานี่ (หัวเราะ)
ทำไมต้องชื่ออัลบั้มนี้
ดิม : อัลบั้มของวงเรามันจะต้องมีความกวนตีนประมาณนึง คราวนี้อัลบั้มนี้ ผมก็คิดหลายชื่อแต่คิดไม่ออก ก็เลยตะโกนไปเรื่อย แบบ สัตว์เอ๊ย!! เอาสัตว์จริงไปเลยมั้ย สรุปพวกมันเอา (หัวเราะ) ปัญหาก็คือผมจะตอบสื่อยังไงให้มัน ออกอากาศได้ นี่ก็คือที่มา ไม่มีอะไรเลยฮะ (หัวเราะ)
ปล่อยเพลงทั้งหมดลง YouTube
Tattoo Colour : เราประชุมเรื่องนี้กันอยู่เหมือนกัน ว่าเราจะเอาเพลงเราลง YouTube ดีมั้ย ข้อดีทุกคนจะได้ฟังกันเต็มๆ ข้อเสียคือจะมีคนบ่นบ้าง เฮ้ย! ซื้อมาแล้วทำไมปล่อยให้ฟังฟรีล่ะ สุดท้ายเราเลยคิดว่าทำลงดีกว่า เพราะจากประสบการณ์ของเราพอเราปล่อยอัลบั้มปุ๊บ จะมีผู้หวังดี ปล่อยลง YouTube แล้ว (หัวเราะ) ก็เลยลงเองดีกว่า เวลาเราทำงานเราจะไม่ได้เน้นคิดแบบ Single เราคิดแบบองค์รวมก็เลยปล่อยทุกเพลงเพื่อให้ทุกคนฟังไปเลย ซึ่งแต่ละคนก็จะชอบต่างกันไป แต่ก็จะได้ฟังแนวทางรวมๆ ของอัลบั้มไปเลย
เจาะลึก “สัตว์จริง”
เผด็จเกิร์ล
Tattoo Colour : ตอนแรกที่เสร็จเพลงนี้ชื่อ No Reason เป็นภาษาอังกฤษ แต่เราก็หาวิธีทำยังไงให้มันเป็นภาษาไทย ในสไตล์วงเรา อีกแล้ว (หัวเราะ) ก็มีชื่อแบบเผด็จการ ฮิตเลอร์บ้าง แต่เพลงนี้พูดถึงผู้หญิงก็เป็นเผด็จเกิร์ลแล้วกัน ในส่วนดนตรี กรู๊ฟจะเป็นฟั้งก์ ไลน์เบส อลังการของพี่จัมพ์ และ Hi-Hat อลังการของพี่ตง เพลงนี้ดนตรีเสร็จก่อน แต่ยังไม่มีเนื้อ อยากได้เนื้อเพลงสนุก ไม่เครียด ก็เลยคิดว่าอยากแซวผู้หญิง ว่าทำไมเราไม่ชนะเลยนะ ถ้าเราเกิดในยุคโบราณอาจจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แบบมีบ้านชายาน้อยชายาใหญ่ (หัวเราะ) แต่มายุคนี้มันไม่ได้แล้วไง แถมยังต้องยอมมันอีก (หัวเราะ) เราก็เขียนแบเชิงแซวๆ สุดท้ายเรายอมเพราะเรารักนั่นแหละ หลายคนดู MV เพลงนี้เลยโดนโยงการเมืองด้วย ซึ่งเราก็ปรึกษาคุณตู่แล้ว (หัวเราะ)
ตง : ตู่ไหน
รัฐ : ผู้กำกับมิวสิคแกชื่อตู่ (หัวเราะ) คือใน MV เราพูดว่าผู้หญิงเนี่ยเป็นท่านผู้นำของเรา ต้องเชื่อหมด ซึ่งเรื่องของเรื่อง เราต้องการสื่อแค่นั้นแหละ แต่ผู้กำกับเขาบอกว่าให้มีความกวนนิดๆ ก็เลยใส่สัญลักษณ์ต่างๆ ลงไป ซึ่งเราก็มองว่า เออมันตลกดี หยิกแกมหยอกนิดหน่อย ก็เลยเอามาใส่ แต่โซเชี่ยลเขาไม่ตลกกับเราด้วย (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องที่คนชอบพูดเลี่ยงๆ แต่ก็พูดกันโคตรบ่อย (หัวเราะ) ภาพโดยรวมมันก็ดูสนุกดีครับ แล้วก็ไม่ได้กังวลอะไรมากครับ พวกเราไม่ได้เป็นสายการเมืองอยู่แล้ว
ดิม : สัตว์จริง (หัวเราะ)
วัยทอง
รัฐ : ต้องเท้าความไปก่อนว่าชื่อเพลงในอัลบั้มนี้ทั้งหมด จะพิเศษตรงที่ทุกคนในค่ายช่วยกันตั้ง เราเปิดเพลงให้ฟัง ให้ทุกคนโหวตชื่อ คนคิดชื่อเพลงนี้คือพี่แมว The Jukk เพลงนี้พูดถึงตัวพวกเราว่าตอนเด็กๆ เราเป็นเด็กอารมณ์ดี ไม่โกรธใคร ใครแซวอะไรก็ได้ ง่ายๆ แต่พอยิ่งโต ยิ่งเริ่มแย่ อะไรก็หงุดหงิดไปหมด เพลงนี้จบที่ว่าเราจะกลับไปเป็นคนเดิมได้หรือเปล่า เพราะเรารู้ว่ามันแย่ ที่โกรธไปทุกอย่าง ทั้งคนที่เรารักด้วย ก็เขียนเตือนใจตัวเอง เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งในวงเราก็เป็นนะ เพลงนี้เบสยากมาก อัดทั้งอัลบั้มสองรอบ จัมพ์ บอกว่าจบอัลบั้มนี้ เรื่องเบสในไทยจัมพ์ไม่กลัวใครแล้ว (หัวเราะ) ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ที่ไหน จัมพ์ก็ไม่กลัว
จัมพ์ : หรา
ยังอีก
รัฐ : เพลงนี้แต่งที่อุตรดิตถ์ แต่งก่อนไปเล่น เนื้อเพลงเกี่ยวกับผู้ชายคนนึงอยู่ในผับ แล้วก็มีผู้หญิงที่ชอบเดินเข้ามา แบบตัวนี้เด็ดเลย ก็เตือนผู้หญิงว่าอย่าเข้ามาใกล้กว่านี้นะ ไม่งั้นจะจีบนะ (หัวเราะ) ตอนแต่งผมคิดถึงหน้าดิมตลอด แต่งลื่นเลย
ดิม : กูรอมึงจบแบบนี้แหละ (หัวเราะ)
จัมพ์ : ดนตรีเพลงนี้ถูกเรียบเรียงโดยการซ้อมเป็นวง ดังนั้นดนตรี มันมีความเป็นวงเราอยู่มาก แล้วค่อยผสมรายละเอียดการเล่นอย่าง พวกซาวด์ การเล่น Unison ลงไป ก็เลยเป็นดนตรีของเราแบบที่คุ้นเคย
รัฐ : กีตาร์จะมีเทคนิคนิดหน่อยในการอัด ผมจะเล่นแบบตัวเดียว แล้วใช้การตัดแปะ หลายๆ ที ในการอัดเสียง เพื่อให้ได้เสียงเหมือนสับคอร์ดรัวๆ ซึ่งออกมาเจ๋งดี แต่เล่นจริงเดี๋ยวเปิด Data เอา (หัวเราะ) พูดเล่นฮะ ผมเตรียมวิธีการเล่นไว้แล้ว อาจจะเล่นกับเอฟเฟ็กต์ Slicer
เย็นไว้ก่อน
ดิม : เพลงนี้ feat. ละอองฟองด้วยครับ เพลงนี้รัฐโยนมาให้ผมดูว่าเนื้อเพลงควรจะไปทางไหน แต่อยากให้เป็นเพลงร้องคู่ ผมปิ๊งไอเดียตอนที่วันนั้นแฟนผมไม่อยู่ ผมก็ออกไปซื้อของกิน ซื้ออะไรไปเรื่อย คราวนี้เรารู้สึกว่าเออชีวิตการที่ไม่มีกันในบางจังหวะมันก็ดีนะ ก็เลยคุยกับรัฐว่าอยากแต่งเพลงแบบสมมติเราแยกกันอยู่ ชั่วครั้งชั่วคราวอาจจะสนุกสักพัก แต่อยู่คนเดียวแล้วไปไม่รอดจะเป็นยังไง
รัฐ : ชั่วครั้งชั่วคราวนี่มันทางคุณเลยนะ
ดิม : มึงนี่ (หัวเราะ) ก็เลยคิดถึงเสียงผู้หญิงด้วย ก็มีน้องอิมเมจ ใหญ่ดี ที่เสียงใหญ่ๆ (หัวเราะ) ก็มีน้ำชา หลายคน จนมาลงตัวที่ละอองฟอง เพราะแนวดนตรีของพี่ๆ เสียงพี่อร มันเข้ากับวง เข้ากับผมมาก ก็เลยเลือกไปที่ละอองฟอง
รัฐ : แล้วพี่ๆ เขาทำงานออกมาแบบตั้งใจมาก ไม่ใช่แบบเรามีโครงเพลงแล้วเขามาแค่เติมรายละเอียดไม่ใช่แบบนั้น อย่างใส่ท่อนร้องไปๆ กลับๆ ตั้งใจทำกว่าวงเราอีก (หัวเราะ) ละเอียดกว่าอีก นั่งอัดกันตั้งแต่ผมเปิดแบนแรก ยัน 4 แบน ยังไม่เสร็จ
ตง : แบรนด์ ซุปไก่ใช่ไหม
รัฐ : ใช่ๆ ขอบคุณมาก (หัวเราะ)
รถไฟ (Please)
ตง : เพลงนี้ถูกที่นี่ขนานนามว่าเพลงพี่แจ้ (หัวเราะ) ดิมร้องเพลงนี้มีส่วนคล้ายๆ
รัฐ : เราไม่ได้กะทำเพลงนี้ให้ดูผู้ใหญ่นะครับ เพลงนี้ เนื้อ ทำนอง มันมาแบบนี้ดนตรีก็ต้องมีความ Smooth Jazz นิดนึงเบสหนึบๆ กระเดื่องน้อยๆ แอบยากกีตาร์ตรงที่จะเล่นอะไรวะ ก็เลยใช้เอฟเฟ็กต์ Harmonizer บวกกับ Pitch นิดหน่อย มันไม่ได้มีโซโล่อะไร เพลงนี้ตงบอกตีกลองง่ายมาก
ตง : ง่ายเหี้..อะไรล่ะ (หัวเราะ)
ดิม : ตงใช้มือเดียวตีเลยฮะ ตีกลองเหรอ ป่าว..ตี ROV (หัวเราะ)
ตง : มึงก็ขยี้จัง
จัมพ์ : ความฉิบหายของเบสก็คือเพลงนี้ผมอัดโดยไม่ได้วางลูกฟิกซ์ไว้เลย คราวนี้พอจะเล่นก็ไม่รู้เล่นอะไรไปบ้าง แต่ตอนนี้พอได้แล้ว
รัฐ : เห็นมะ ผมบอกแล้ว จัมพ์ไม่กลัวอาจารย์คนไหนแล้ว (หัวเราะ)
ดิม : เนื้อเพลงมันจะเกี่ยวกับผู้ชายผู้หญิงที่เริ่มคบกันใหม่ๆ จะมีฝ่ายนึงที่ลืมคนรักเก่าไม่ได้ จะยังรู้สึกตลอดว่าเขาอยู่ตรงนั้น ก็เหมือนกับว่ารักของเราจะดีขึ้นแค่ขอให้ลืมคนเก่าไปได้ไหม
รัฐ : เรามาทีหลังคนเก่าก็รู้สึกว่าเราชนะไม่ขาดสักที เหมือนเรานั่งรถไฟท้ายขบวน ไอ้นั่นนั่งอยู่หัวขบวน มันก็จะถึงสถานีก่อน ทั้งๆ ที่ถึงเหมือนกัน มันนิดนึงที่คาใจ เจ็บใจฉิบหาย เหมือนแบบต้นไม้ ลมพัด กิ่งใบ ปลิวหมด แต่แม่งยังเหลือรากอีก
ดิม : โคตรเดือด นี่กูฟังสัมภาษณ์ Retrospect หรือเปล่าเนี่ย (หัวเราะ)
รัฐ : ก็ประมาณนั้นครับ เราก็อยากขอให้เขาลืมคนเก่าให้ได้นั่นเอง
Anyone Before
รัฐ : เพลงนี้เป็นแทร็คพิเศษ ก็เอาทำนองเพลง Morning Man มาส่วนนึง เพลงนี้พูดถึงผู้ชายกับผู้หญิงที่เลิกกันไปแล้ว ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ต่างคนต่างโสด มาเจอในที่ๆ นึง คือพอผู้หญิงโตขึ้นก็จะสวยขึ้นใช่ไหมครับ อ้าว ก็เหมาะเลย ก็เลยรู้สึกกิ๊ก กันอีกครั้งนึง คำนี้มันมาจากคำว่าฉันได้เจอคนมามากมาย แต่ตัวเราพิเศษกว่าคนอื่นก่อนหน้านี้ที่เคยเจอมาแน่ๆ เพลงนี้ได้พี่กอลฟ์ Caption มาช่วยแต่งเนื้อ ซึ่งร้องยากกว่าเพลงเนื้อไทยนิดนึง
เพลงไหนที่ทำแล้วรู้สึกว่าเป็นสไตล์ใหม่ของ Tattoo บ้างครับ
รัฐ : หลับลึก วงเราทำเพลง 2 จังหวะ ในเพลงเดียวมาหลายเพลง แต่เพลงนี้ผมชอบกรู๊ฟของมัน ชอบซาวด์กีตาร์เพราะมันปั้นยากมากเลย พอมาใส่กับจังหวะ และเนื้อเพลงมันลงตัว เป็นจังหวะที่ไม่เคยทำใน Tattoo Colour ก็เลยชอบ
ดิม : ตอนแรกเพลงนี้ชื่อ “รู้เยอะ รู้มาก” ด้วย คือประมาณว่าคนอกหัก เรารู้อยู่แล้วว่าต้องออกไปเจอคน มานอนซมทำไม ไปเจออะไรใหม่ๆ ชีวิตจะดีขึ้น หมายังรู้ แต่ไม่มีอารมณ์จะไปเข้าใจหรือเปล่า (หัวเราะ) คือรู้เยอะแต่ไม่ทำ เพลงนี้ส่วนตัวผมบอกเลยนะว่ารัฐมันท๊อปฟอร์มมาก
ตง : สำหรับผมเพลง No.1 เพลงนี้รัฐโยนมาให้ผมทำ ผมก็หาคนช่วยเป็นมือซินธ์ฯ เก่าวง Lomosonic ตอนแรกผมอยากทำเพลงแบบกีตาร์แบนด์ธรรมดา แต่พอคุยกับคนที่มาช่วย ลองเติมพวกซาวด์ซินธ์ฯ ดู พอส่งให้รัฐ รัฐก็ชอบมาก แทบไม่แก้อะไรเลย ได้ช่วยพี่บอล จารุลักษณ์ มาช่วยเรื่องเนื้อเพลง ก็เลยรู้สึกว่ามันใหม่
จัมพ์ : ผมว่า Morning Man ผสม 4 แนวไปเลย สะใจ ไปเลย มีทั้งจังหวะแบบ Tattoo มีเร้กเก้ มี Shuffle มีร็อคด้วย ถามเวลาพวกกูเล่นมั้ย (หัวเราะ) แต่เพลงนี้สนุกมากเวลาเล่น มันจูนจังหวะ จูนสไตล์ยาก
รัฐ : เนื้อเพลงนี้แก้เยอะมากครับ เอาตรงๆ เลยนะ เพลงนี้คิดถึงหน้าไอ้ดิมอย่างเดียวเลย (หัวเราะ) คือเวลามันกินเหล้า
ดิม : กูกินเหล้าไม่เป็น
รัฐ : อ่ะ ก็เริ่มจากเวลามึงกินเหล้าที่มึงกินไม่เป็นนั่นแหละ (หัวเราะ) แล้วมันไม่ชอบให้เพื่อนนอน ก็เริ่มเรื่องจากตรงนั้น คราวนี้เราก็มาแตกต่อว่าผู้ชายประเภทนี้ อันนี้ไม่ได้หมายถึงไอ้ดิมแล้วนะ (หัวเราะ) คือผู้ชายเสเพลแบบนี้ ผู้หญิงเลยทิ้งมันไป ต่อให้มันเอาเลขบัญชี เอาอะไรมาให้แต่ผู้หญิงเขาไปแล้ว เขาบอกว่าตั้งแต่ไม่มีมึงนี่ชีวิตดีขึ้นเยอะ ส่วนไอ้ขี้เมานี่ก็แบบอกหัก ทำไงดี แดกเหล้าถึงเช้าเลยโว้ย (หัวเราะ) เนื้อเพลงก็จะสนุกๆ แบบนี้ครับ
ดิม : ของผมเป็นเพลง “ที่ประจำ” ผมชอบเนื้อเพลงของรัฐ เพลงนี้เขาเล่าเป็นฉากๆ เหมือนเราดูหนัง ซึ่งพอบวกกับดนตรี มันฟังเข้ากันมาก จริงๆ ทุกเพลงในอัลบั้มนี้ผมเอาซีดีใส่รถฟัง ไม่กด Skip เลยนะ
ตง : เพลงดี
ดิม : เครื่องเล่นเสีย (หัวเราะ)
ตง : สัตว์จริง
ดิม : มึงส่งมาแบบนี้ให้กูทำยังไงวะ
รัฐ : เพลงที่ประจำคือเวลาคนที่ถูกบอกเลิกจะมีวิธียื้อหลายแบบ อย่าง Cocktail ก็จะมีคุกเข่า
ตง : ทำไมวงเราพาดพิงคนอื่นเยอะจังวะ (หัวเราะ)
รัฐ : ก็ผมชอบเพลงเขาไง ฟังทุกเพลง อย่างถ้าเป็นผมถูกบอกเลิก ผมก็จะพาไปทุกที่ ที่เคยไปด้วยกัน เผื่อจะจำอะไรได้ จะได้ไม่ทิ้งเราไป
จังหวะ 6/8 ที่หายไป
รัฐ : อัลบั้มนี้ผมจะไม่ทำเพลงส่วน 6/8 แบบ “ฟ้า” ออกมาเลยเพราะผมเบื่อ จริงๆ มันเกิดจากพี่แอมมี่ The Bottom Blues เขาชมเราว่า เราทำ 6/8 เพราะทุกเพลง ซึ่งเราก็ดีใจนะ แต่ผมมาคิดดู เออ เรามีเพลงแบบนั้นมากไปหรือเปล่า ก็เลยชุดนี้เลิกทำ 6/8 ดีกว่า
ตง : มาทำ 69 แทน
ดิม : สายเบิร์น (หัวเราะ)
รัฐ : นั่นแหละครับ ก็เลยคิดว่าชุดนี้ จะไม่ทำเพลงสไตล์นี้ออกมา ถ้ามีใครมาถามว่าทำไมไม่มีเพลงแบบ “ฟ้า” เลย ชอบเพลงฟ้าก็กลับไปฟังฟ้าไป
ตง : ใจเย็นๆ พ่อ (หัวเราะ)
อัลบั้มที่ซาวด์ดีที่สุดของ Tattoo Colour
รัฐ : หลักๆ ต้องบอกว่าอยู่ที่พี่รุ่ง เขาเก่งขึ้นเยอะมาก ป็อป กีตาร์แบนด์ แบบของเราจะทำยังไง ให้มันอยู่กลางระหว่างแมสกับความเป็น Smallroom ค่ากลางตรงนี้มันหายากนะ แต่พี่รุ่งหาเจอ แล้วก็สามารถเค้นออกมาได้ ผมว่าเจ๋งมาก ถ้าไปชมแกเดี๋ยวเขินอีก (หัวเราะ) อย่างอัดร้อง คือปกติ เวลาอัดร้อง ต้องมีแบบพรีไมค์ดีๆ มีห้องอัด แต่อันนี้พี่รุ่ง มีสายแจ็ค Soundcard ต่อให้ดิมร้อง แล้วก็ปิดเสียงดนตรี ฟัง ดิมร้อง Long Take อยู่ 2-3 รอบ บอกพอ แล้วก็ไปมิกซ์จนออกมาได้อย่างที่เห็น ที่ผมอยากเล่าไม่ได้มาอวดหรืออวยอะไรนะ แต่อยากบอกว่าความเก่งของคนไม่ได้อยู่ที่อุปกรณ์ มันอยู่ที่คนทำงาน มันสะท้อนให้เห็นว่าเราจะมาอ้างอุปกรณ์มันอ้างไม่ได้แล้ว เพราะของที่แกใช้มันต่ำกว่าเบสิกอีกนะ แต่ทำได้มาตรฐานดี แล้วปิดงานได้ มันอยู่ที่ความตั้งใจ และความชำนาญ
ความคาดหวังในอัลบั้มนี้
Tattoo Colour : ความคาดหวังที่เราหวังไว้คือสำเร็จไปครึ่งนึง คือเราทำอัลบั้มเสร็จ เป็นซีดี มีคนเชื่อถือ แล้วยังซื้อฟังอยู่ คราวนี้อีกครึ่งนึง คือการจะพาเพลงใหม่ไปโชว์ในที่ต่างๆ และสามารถเล่นเพลงใหม่ ในหนึ่งโชว์ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง โดยไม่จำเป็นว่าเพลงนั้นเป็น Single หรือเปล่า เพราะตอนนี้วงเราทำเรื่องแสง มาประกอบการโชว์ใหม่ ถ้าเป็นไปได้เราอยากเล่นเพลงใหม่ของเรา ให้มากที่สุด เราเคยเอาเพลง “รองเท้าเก่า” ไปเล่นในงานนึงคนงง เดินออก แต่ว่าเราก็คิดว่าถ้าเราไม่เล่นเพลงใหม่ของเราเอง แล้วใครจะเล่นวะ นั่นคือเหตุผลที่เราอยากจะทำอัลบั้มนี้ให้มีเพลงเร็วมากขึ้น โอเคเรามีเพลงฮิตๆ ของเราที่เป็นเพลงเร็วแล้ว แต่ก็อยากจะมีเพิ่ม เชื่อว่าคนดูเราก็อยากฟัง แล้วอย่างที่บอกว่าเราเพิ่มเรื่องแสงสีด้วย เรียบเรียงโชว์ใหม่ ซึ่งมันจะรับกันจะได้น่าสนใจมากขึ้น เอาง่ายๆ สมมติพี่ตง เปิด Hard Disk กดไปเพลงไหน สามารถสั่งไฟให้เข้ากับเพลงนั้นได้เลย เรียกว่าสมบูรณ์แบบ ขาดแค่โต๊ะจีนกับพิธีกรเปิดวง (หัวเราะ)
เดินทางมาจนในที่สุดชื่อนี้ก็มีอายุเป็นเลขสองหลักแล้วรู้สึกยังไงบ้าง
ดิม : มันก็มีหลายเรื่องที่เราผ่านกันมา เรื่องที่เป็นบทเรียน ทั้งสิ่งที่ดี ไม่ดี สำหรับผมคงเป็นเรื่องวินัยที่ต้องมีมากขึ้นเพราะเราใช้ชีวิตในวงการดนตรี มาพอสมควรแล้ว จะเสเพลมากๆ ไม่ได้แล้วเด็กสมัยใหม่ ก็เก่งขึ้นมากเราหยุดอยู่กับที่ไม่ได้ อย่างน้อยถ้าเราไม่เก่งขึ้น ก็ต้องไม่ให้แย่ลง สำหรับตัวผม
รัฐ : 14 ปี ผมรู้สึกว่ามีความทึ่งนะ เราไม่รู้ตัวว่าเลขมันมาขนาดนี้ มันดูเป็นผู้ใหญ่ เรายังรู้สึกเหมือนวันแรก มีอะไรให้เรียนรู้เสมอ เราแค่ตั้งเป้าว่าอาชีพนี้ การทำดนตรีกับเพื่อน 4 คน แล้วดูแลตัวเองได้มันสุดยอดเลย ซึ่งพอมันผ่านเวลามาได้ขนาดนี้ ผมก็ภูมิใจในจุดนึง แต่เราก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี ดูแลผลงาน ก็ยังต้องไปต่อครับ
อุปกรณ์
ดิม : ของผมเป็น Telefunken M80 ตอนแรกพยายามเปลี่ยนไปหลายๆ แบรนด์ แต่ตัวนี้ได้โทนที่ใช่พอดี แล้วก็ใช้ TC Electronic Voice Tone C1กับพวกเสียง Auto Tune
ตง : ผมใช้ Snare Dunnett 6.5×14เป็น Titanium เพราะซาวด์อัลบั้มนี้ต้องการเสียงที่ออกแบบถังๆ หน่อย ก็ต้องจูนกลองซึ่งตัวนี้พอทำแล้วให้ซาวด์แบบที่ต้องการได้ ส่วนชุดกลองเป็น GMS Maple Custom Made ส่วน Crash เป็น K Dragon ตัว Ride กับ Hi Hat เป็น Paiste Signature เร็วๆ นี้กำลังอยากได้ Roland PAD ด้วย
จัมพ์ : เบสผมใช้ Suhr กับ Pensa Custom Made เป็น Modern Jazz Bass แบบ Active ทั้งคู่ แอมป์ใช้เป็น Kemper ครับ
รัฐ : กีตาร์ผม 3 ตัวหลักเป็น Fender ทั้งหมด Select, American Standard, American Professional แอมป์ เอฟเฟ็กต์ ใช้ Line6 Helix รุ่นที่เป็น Rack ครับ ตั้งซาวด์เป็น Wet-Dry-Wet ทุกอย่างจบในตัวเดียว สั่งงานใช้ Logic สั่งในการเปลี่ยนเอฟเฟ็กต์
ฝาก
Tattoo Colour : เราทำกันเองมาทุกอัลบั้ม เราตั้งใจอยู่แล้ว เชื่อว่าถ้าฟังทั้งอัลบั้มน่าจะเข้าใจว่าเราตั้งใจขนาดไหน แต่บางทีเราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าทุกคนคิดยังไง มองยังไง เราจะสะท้อนมุมมองเหล่านี้กลับไปให้คนรับรู้ว่า 4 คนนี้มันตั้งใจทำงานนะ ให้คนรับรู้ได้ ขอบคุณมากครับ
ขอขอบคุณ : อั้ม Smallroom ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ครับ