25 Hours
จากวงดนตรีที่มีความเฉพาะตัวทางดนตรี และความคิดสูงมาก 25hours กับผลงานใหม่ที่มีรายละเอียด ขั้นตอน วิธีการคิด การลงมือทำงานมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเนื้อร้อง ภาคดนตรี อาร์ตเวิร์ค มิวสิควิดีโอ เรียกได้ว่าทั้งหลาย ทั้งปวง เกิดจากมันสมองของทั้ง 5 คนในวง มาคราวนี้พวกเขาพ่วง พี่ใหญ่แห่ง genie อย่าง พี่อ๊อฟ Big Ass มาช่วยโปรดิวซ์ฯ เราได้เห็นในเพลง “ฟ้าเป็นใจ” กันไปแล้ว และเพลงต่อมาอย่าง “ฤดูกาล” ก็ถูกส่งต่อมาเพื่อให้เห็นภาพของอัลบั้มใหม่ Night In Heaven มากขึ้น เรื่องราวก่อนหน้าที่จะเกิดสิ่งเหล่านี้ คือการวางทุกอย่างแบบมีจุดประสงค์และเป้าหมาย นี่คือชนวนไอเดีย ในการทำอัลบั้มชุดใหม่กับ 25 hours
ผลงานใหม่ ไอเดียใหม่
25 hours : การกลับมาของพวกเราจะไม่ได้กลับมาเป็นเพลงแค่เพลงเดียว แต่จะกลับมาเป็นอัลบั้ม นั่นก็คือเราจะมาเป็นก้อนเลย คอนเซ็ปต์จะเป็นในทิศทางเดียวกัน ฟ้าเป็นใจ เป็นเพลงแรกที่ปล่อยออกมาเพื่อบอกว่าทิศทางของอัลบั้มนี้ จะเป็นยังไง ด้วยดนตรี เนื้อร้องต่างๆ อัลบั้มนี้จะใช้ชื่อว่า Night In Heaven จริงๆ มันโยงมาจากอัลบั้มก่อนด้วย อัลบั้มนี้จะดูหม่น ดาร์กกว่าอัลบั้มที่แล้ว ที่ผ่านมาเราจะมีเพลงที่เป็นด้านสว่างมากหน่อย คราวนี้เมื่อถึงเวลาที่เราจะต้องเดินต่อ จากสว่างพวกเราก็รู้สึกว่ามันควรจะเดินไปสู่กลางคืน ก็เหมือนเวลาที่มันหมุนวน ดนตรีของอัลบั้มนี้พวกเราตั้งใจว่าจะให้มันเป็นเหมือนตอนแรกที่เราเริ่มเล่นดนตรี คือมีอะไรเราก็จะใส่ลงมา ดังนั้นมันก็จะมีลีลา เสียงที่นำมาจากเครื่องดนตรี กลอง เบส กีตาร์โปร่ง ไม่ใช่ซินธ์ฯ เหมือนเดิมแล้ว ง่ายๆ เลยอัลบั้มนี้จะไม่ค่อยมีเพลงสมหวัง สักเท่าไหร่ พวกเราจะพาทุกท่านหม่นหมอง …นี่พูดไปจะร้องไห้ไปแล้วเนี่ย (หัวเราะ)ทิศทางใหม่ จากเพลง ฟ้าเป็นใจ
25 hours : เพลงนี้เริ่มจากแหลม เขาทำทำนองมาก่อน พวกเราก็รู้สึกว่ามันมีอะไรน่าสนใจ จริงๆ มีเพลงที่จะทำก่อนหน้านี้ด้วยนะ แต่เพลงนี้มันมีความเป็นผู้นำของอัลบั้ม เป็นเพลงที่หนึ่งได้ พอตกลงจะทำเพลงนี้ถัดมาก็เป็นเรื่องบรรยากาศ พอเราคิดว่าจะทำเพลงย้อนกลับไปเหมือนตอนที่เราใช้ดนตรีสดแรกๆ ก็จะมีพวก Riff, Lick กีตาร์ตามมาแล้ว ชุดก่อนๆ จะเป็นซินธ์ฯ เยอะ เพลงนี้จะเริ่มจากพวกเครื่องดนตรีสด พวกซาวด์ดีไซน์ต่างๆ เราจะคิดไว้ล่วงหน้าเลย กลองเราต้องการเสียงแตกๆ เบสต้องการให้พี่บังใช้ปิ๊คเล่น กีตาร์จะใช้ซาวด์แบบนี้ เราจะใช้ซาวด์ที่คิดไว้จากเดโม่เลย
เสียงที่เปลี่ยนไป ดนตรีที่เปลี่ยนแปลง
จ๊อบ : ถ้าเสียงกลองผมต้องการให้มันมีความรู้สึกเหมือน Live มากขึ้น ผมจะดีไซน์การตีให้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ อย่างเราได้โครงเพลงจากพี่แหลมมา เราจะเอามาลองเล่นกันเลย โดยที่มีแกนหลักอยู่ เพลงนี้จะล้อมวงกันเล่นกับกลองชุดเล็กๆ ตั้งไมค์นิดหน่อย เราตั้งเดโม่เหมือนบรรยากาศที่ห้องซ้อมเลย ส่วนอัดจริงนี่ก็อัดที่บ้านพี่โฟร์ ผมไม่ค่อยอยากไปอัดห้องใหญ่ มันเกร็ง (หัวเราะ) ซึ่งผมว่าฟิลลิ่งมันดีมากนะ
บัง : ของผมตีคู่กับจ๊อบมาเลยครับ ขึ้นเดโม่มาพร้อมกัน อัลบั้มนี้ผมว่าเบสจะหลุดออกไปจากอัลบั้มอื่นเลย หลายเพลงอัลบั้มนี้เริ่มจากเบส กลอง วิธีเล่นเราต้องการซาวด์เบส โบราณ ต้องเปลี่ยน D.I. การวางมือก็ต้องมีอุดสาย เสียงก็จะกุดๆ ซึ่งเราดีไซน์ไว้เลย
ปู๋ : กีตาร์ไฟฟ้าในเพลงนี้จะมีความวินเทจ ทแวงๆ (Twang) แต่ไม่ใช่แบบ Fender จะเป็นเสียง Vintage แบบ Gretsch
โฟร์ : นอกจากเพลงนั้อัลบั้มนี้จะมีพวกเสียง Hammond Organ หรือเครื่องอื่นๆ ที่เป็น Vintage ค่อนข้างเยอะ
แหลม : เพลงนี้มันแอบยาก เพราะเราดันเลือกเพลงนี้เป็นเพลงแรก ก็เลยเกร็งๆ อยู่ ตอนทำเดโม่เราก็ร้องพอเป็นไกด์ ไม่ได้กะว่าจะเอาจริง แต่พอเราเลือกเพลงนี้มาร้องอัดเพลงแรกมันก็ออกมาไม่ดีเท่าไหร่ สุดท้ายก็ต้องเอา ที่ร้องตอนทำเดโม่แบบไม่เกร็ง มาแก้ไขนิดหน่อย ให้ได้ฟิลแบบ Live แม้จะไม่ชัดเจนมาก แต่ก็ได้ฟิลลิ่งอีกแบบอย่างไมค์ผมก็ใช้ Ribbon Mic ด้วย
เนื้อเพลงของฟ้าเป็นใจ
แหลม : เนื้อเพลงในอัลบั้มนี้ผมจะไม่เอาตัวเอง ณ ปัจจุบันเป็นที่ตั้ง ผมจะคิดว่าเราจะหาเนื้อหาใหม่ๆ ยังไงได้บ้าง ผมเลยคิดว่าจะทำเหมือนผมเป็นกล้อง แล้วเคลื่อนตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่ได้เป็นพระเอกของเรื่อง ไปดูว่าตัวร้ายคิดยังไง ตัวประกอบคิดยังไง ในมุมมองของคนอื่น ในเพลงฟ้าเป็นใจ กล้องจะเคลื่อนไปตอนที่ผมเป็นเด็ก ตอนที่เราเป็นเด็กอะไรที่เป็นเครื่องมือทำให้เราเดินมาถึงตรงนี้ได้ ทั้งๆ ที่ดูแล้วไม่น่าเป็นไปได้ ในช่วงเวลาที่ไม่สมหวัง ผิดหวังในบางเรื่อง ในเส้นทางดนตรี แต่สิ่งที่ผมได้คำตอบคือเราไม่เคยหยุดทำมัน ไม่เคยยอมแพ้เลย เราสรรหาวิธีการให้ไปถึงความฝันนั้นให้ได้ ความฝันนั้นยังคงอยู่ เหมือนเนื้อเพลง ฝันไปเหอะ อย่ารอให้ฟ้าเป็นใจ ผมเชื่อว่าฟ้าจะเห็นใจ และให้กับคนที่มุ่งมั่น มานะ เพียงพอ พอจนฟ้าจะเห็นใจ ผมเชื่อพระเจ้าจะยื่นสิ่งนี้ให้กับคนที่ควรได้รับ หน้าที่ของคุณก็คือพิสูจน์ตัวเอง ทำให้ดีจนฟ้าจะหันมา เหมือนท่อนสุดท้าย ที่เป็นสรุปของเพลง วันที่ฟ้าเป็นใจ คือทุกๆ วันที่ฝันยังบรรเลง จะขีดเขียนมันเอง ชีวิตเราเองจะขอบรรเลงไปตามหัวใจ
พี่อ๊อฟ บี๊กแอส
25 hours : มันต่อยอด มาจากการทำงานกับพี่เจ มณฑล เรารู้สึกสนุกเวลาที่ร่วมทำงานกับคนอื่น จริงอยู่เราจบงานกันเองได้ แต่ก็จะเป็นในแบบองค์ความรู้ที่เรามี แต่พอไปจอยกับคนอื่น มันเหมือนการเรียน การเปิดอีกมุมนึงที่มองข้าม มองไม่เห็น คราวนี้พอมาในงานชุดใหม่เราตั้งธงไว้ว่าเราจะเล่นสดมากขึ้น ให้งานมันเหมือน Live มากขึ้น ประกอบกับโฟร์ ก็สนใจพี่อ๊อฟด้วย ก็เลยคิดกันว่าเออ พี่อ๊อฟก็น่าจะดีนะ ซึ่งเราไม่เคยทำงานตั้งแต่ต้นกับใครเลย เลยคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง มันก็น่าสนใจ เหมือนทดลองนิดนึง ซี่งสิ่งที่พี่อ๊อฟชี้ทางให้เรา คือเรื่อง ประสบการณ์ เรื่องเมโลดี้บางอย่าง เพื่อให้คนฟังรับได้ง่ายขึ้น อย่างถ้าเป็นแหลม แต่งอย่างเดียวมันก็จะดิ่งเกินไป ก็มีช่วยๆ กัน เช่นเพลงฟ้าเป็นใจ เป็นตัวอย่างที่ดี เมโลดี้ตอนจบที่ร้องสวนกันก็เป็นพี่อ๊อฟช่วย ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เรารู้สึกว่าพี่อ๊อฟมาเสริมเราในจุดนี้ได้ดีเลย
ส่งมิกซ์ต่างประเทศ
25 hours : ชุดที่แล้วเราก็ส่งมิกซ์ต่างประเทศนะ ชุดนี้เราก็ใช้คนเจ๋งกว่าคนนั้น (หัวเราะ) ล้อเล่นครับ เราอยากลองคนที่เป็นระดับท๊อป สุดท้ายมาจบที่ Michael Brauer คนมิกซ์ Coldplay, John Mayer ฯลฯ ซึ่งงานดีมากเลยส่งงานไปให้เค้าที่ Electric Lady Studio ที่เดียวกับ Hendrix (หัวเราะ) แล้วก็ Mastering ที่ Streling ซึ่งสำหรับงานมิกซ์ของพวกเราแล้วถือว่าพีคใช้ได้เลย ซึ่งความแตกต่างเห็นได้ชัดมาก คือเพลงฟ้าเป็นใจ เสียงร้องนี่กินขาดเลย คือเราไม่สามารถไปลงรายละเอียดเป็นกายภาพได้ว่ามันดียังไง แต่เชื่อเลยว่าคนฟังสัมผัสมันได้ ฟังแล้วมันสื่อสารได้เลย
MV สุดติสต์
25 hours : ด้วยเราทำงาน MV กับพี่เปเล่ ที่เคยทำเพลงจันทร์เจ้า ให้ Slot Machine และอีกหลายๆ คน เราให้พี่เขาคิดและพวกเราก็แชร์ไอเดียด้วย จนได้จุดร่วมกันอย่างนึงว่าไม่อยากได้ MV แบบซื่อตรง คือเนื้อเพลงมันบอกแล้ว เราก็ไม่อยากทำให้ภาพเป็นแบบคนสู้ชีวิตวิ่งตามฝัน (หัวเราะ) ซึ่งมันดักทางได้ง่าย เราก็พาไปอีกแบบนึง ซึ่งในตัว MV ซึ่งถ้าใครตั้งใจดู จะมีสัญลักษณ์ในเพลงเชื่อมโยงไปในเรื่องต่างๆ เช่น Social Network เราไม่ได้มองมันในแง่ลบนะ เพราะเราก็ใช้มันเพียงแต่ ถ้ามันมากเกินไป มันอาจจะมาทำร้ายเราก็ได้ เพราะในโลกดิจิตอล ท้องฟ้าที่เราเห็นก็ไม่ใช่ของจริง ดอกไม้ก็ไม่ใช่ของจริง ที่เราสัมผัสได้ มันเป็นเหมือนกรอบซึ่งถ้าเรากระเทาะมันออกไป เราก็จะได้เจอกับชีวิตจริง ได้ยิ้ม ได้เจ็บ ได้ร้องไห้เป็นประสบการณ์ชีวิตจริงๆ ซึ่งใน MV ก็มีสัญลักษณ์ให้ตีความเยอะ ก็แล้วแต่ว่าจะคิดในแง่ไหน พวกเรามองว่ามันก็เป็นเรื่องที่สนุกดี
ความคาดหวังในผลงานชิ้นนี้
25 hours : ก็เราอยากเสนอรสชาติใหม่ๆ จากวงเรา เป็นรสชาติที่คุณไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้จากวงเราแน่นอน ซึ่งอัลบั้มใหม่ก็ควรจะเป็นแบบนี้แหละ คือถ้าคนฟังรู้สึกว่าเรายังทำสิ่งใหม่ๆ แล้วเขาสนุกไปด้วยมันก็ตรงตามความตั้งใจของเราแล้ว ให้วงเราเป็นอินดี้จากหัวใจ โอเค เรามีคนฟังเยอะขึ้น บ้างหลังใหญ่ขึ้น แต่ด้วยธรรมชาติแล้ว เรายังเป็นคนที่ยังกบฏกับตัวเองเสมอ แล้วก็อยากให้เนื้อเพลงมันสะกิดใจคนอย่างฟ้าเป็นใจ ก็อยากจะให้คนที่กำลังท้อได้รู้สึกว่า เราต้องทำต่อไป ต้องพิสูจน์ตัวเอง จนฟ้าจะสามารถหันมาหาคุณและให้โอกาสคุณได้
อุปกรณ์ดนตรี
ปู๋ : ก็อัพเดตกีตาร์อัลบั้มนี้ก็ใช้ Gretsch เอฟเฟ็กต์ก็ AX8 มี Modulation ของ Boss
โฟร์ : ผมใช้กีตาร์โปร่ง Cole Clark กับ 12 สาย Custom ของเวียดนาม D.I. ใช้ LR Baggs Venue แล้วก็มีเสียงแตก Pro Tone ใช้สร้างสีสันนิดหน่อย
บัง : ผมใช้เบสตัวเดิม Fender Precision Bass ต่อเข้ากับ Reddi Di ซึ่งเป็น Tube D.I. เสียบวันแรก พัง (หัวเราะ) ซ่อมกันมันส์เลย สายแจ็คใช้ของ Alien Blue ของสเตจผมเอง สโลแกนคือสั่งวันนี้ได้ชาติหน้า (หัวเราะ) ล้อเล่นนะครับ
จ๊อบ : ถ้าในสตูดิโอนี่ผมใช้ Ludwig Legacy นะครับ กับสแนร์อีกมากมาย ส่วน Live นี่ไม่ต้องพูดถึง CMC แน่นอน (หัวเราะ) เป็นชุดไม้ Birch ครับ Bass Drum 24” ส่วน Tom จะเป็น Maple Reinforce ซึ่งชุด Live นี่สุดยอดมากๆ ครับ (หัวเราะ)
แหลม : ตอนนี้ผมกลับไปใช้ไมค์สายของ Shure 58 เป็นไมค์ของโฟร์ ยึดมาใช้ เป็นไมค์ร้องประสานของเค้าแหละ (หัวเราะ) ซึ่งมันเข้ากับเสียงผมดีจัง ด้วยลุคก็ Vintage ด้วย ใครมีแบบนี้ผมก็ขออีกเยอะๆ นะครับ Shure นี่ชัวร์จริง (หัวเราะ)
ฝาก
25 hours : เรายังคงสนุกกับการทำดนตรีเหมือนเดิม เรายังซน เรายังสนุกที่จะหาอะไรใหม่ๆ ให้กับคนฟัง ได้ร่วมไปกับมิติใหม่ๆ ของเรา และอยากให้เพลงมันสร้างสิ่งที่มากกว่าความบันเทิง เรื่องของแรงบันดาลใจ ในเชิงเนื้อหา กระตุ้นให้ใครสักคนลุกขึ้นมา น่าจะเป็นสิ่งที่ดีมาก แล้วยังมีมิติอีกมากมาย ที่เป็นเพลงอื่นๆ รวมถึงอาร์ตเวิร์ค ซึ่งพวกเราใส่ใจในทุกรายละเอียด แล้วเราก็ออกแบบโชว์ใหม่อีกมากมาย ซึ่งเป็นอะไรที่เป็นแบบฉบับของพวกเรา ก็ติดตามเราได้ในทุกช่องทางครับ
25 hours : The Listener
นอกจากแนวคิดสุดติสต์ การทำเพลงที่ละเอียด สิ่งที่พวกเค้าทั้ง 5 เป็นก็คือนักฟังเพลงตัวยง มาดูว่าช่วงนี้พวกเค้าฟังเพลงอะไร ยังไงกันบ้าง
ปู๋ : ตอนนี้ผมอยากรู้ว่าเด็กๆ ชอบอะไร ผมเลยไปฟัง G Dragon อยากรู้ว่าเขาพูดอะไร คิดอะไร เลยลองแปลเนื้อร้องเค้าดู ซึ่งสนุกดี
โฟร์ : หลังจากทำอัลบั้มใหม่ฟังเพลงหม่นๆ ไปเยอะ ก็เลยหาวงฝรั่งเศสฟังชื่อ Brigitte ซึ่งทำนองไม่ได้อิงกับพวก Billboard มันก็จะได้ทำนองใหม่ๆ หรือศิลปินผู้หญิงจากสวีเดนขื่อ Elliphant ซึ่งจะแตกต่างออกไปเลย ทำนองเป็นอีกแบบ พยายามหา Input แปลกๆ
บัง : ผมพึ่งได้แผ่นเสียงของ John Mayer อัลบั้มใหม่มาเพลงดีทุกเพลง ทุกอย่างมาครบ เพลงหล่อเหมือนหน้าตาเขาเลย (หัวเราะ)
จ๊อบ : หลังจากที่ผมได้ตามงานของ Michael Brauer ก็ได้ไปเจองานนึงที่เค้าทำแล้วน่าสนใจมากคือ Beth Ditto อัลบั้ม Fake Sugar ลองฟังกันดูครับ ดนตรีเขาน่าสนใจมีสไตล์ที่โดดเด่น
แหลม : ล่าสุดผมฟัง Arcade Fire เพลง Every Thing Now ผมว่ามันฟังรู้สึกสดชื่นดี หลังจากตอนที่ทำอัลบั้มฟังอะไรที่มันหม่นๆ ไปเยอะแล้ว
The Thinker
พี่แหลมของเราช่วงหลังมักจะคิดข้อเขียนไว้ในไอจี ส่วนตัวเสมอๆ เราเอามาฝากปิดท้ายเผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครได้บ้างครับ
“ดังเรือน้อยล่องลอยในมหาสมุทร เสียงคลื่นลมสาดซัดพัดพาให้หวั่นไหวได้ในทุกขณะ ลมมาซ้ายไปซ้าย ลมมาขวาไปขวา เธอในฐานะกัปตันเรือ ฉันขอให้เธอจับคันบังคับไว้ให้มั่นอย่าปล่อยมือ อย่าละสายตาจากเกลียวคลื่น มีเรือมากมายที่จม และมีอีกมากที่รอด ในมหาสมุทรเดียวกันนี้ สติจะพาเธอข้ามไปอีกฝั่งอย่างปลอดภัย”