Getsunova
จากวงดนตรีที่ถูกค่อนแคะ และแซะๆ เล็กน้อยว่า “วงไฮโซเล่นดนตรี ไม่น่าจะมีดีอะไร” มาวันนี้พวกเขาไม่ได้ถูกมองด้วยสถานะสังคมอย่างเดียวอีกแล้ว จากอัลบั้มแรกที่พิสูจน์ด้วยบทเพลงฮิตมากมาย ชนิดที่ว่าใครที่เคยแซะๆ ไว้มีอาย!! เพลงระดับสิบล้านร้อยล้านวิว ที่ทำให้ร้องกันได้ทุกหนแห่ง ชื่อของ Getsunova ได้กลายเป็นวงดนตรีที่น่าจับตามอง และมีพัฒนาการมากที่สุดวงนึงในบ้านเรา มาถึงตอนนี้พวกเขากำลังเดินทางครั้งใหม่ ประสบการณ์ที่มีมากขึ้น การเปลี่ยนผู้ร่วมงานจากพี่พล แห่ง Boxx Music มาเป็นอ๊อฟ Big Ass พวกเขากำลังจะไปในทิศทางไหน จะต่อยอดความสำเร็จได้หรือไม่ อันนี้ยังไม่รู้ แต่ที่รู้กำลังจะรู้แน่ๆ ก็คือพวกเขากำลังจะสตาร์ทเครื่องอีกครั้งไปพูดคุยกันสักหน่อยกับ Getsunova
อ๊อฟ Big Ass
Getsunova : การทำเพลงใหม่ของเรายากนิดนึงอะครับ เพราะไม่ใช่แค่ว่ามีแค่ตัวของเรา แต่เรายังมีโปรดิวเซอร์ใหม่ นั่นก็คือพี่อ็อฟ Big Ass เขาก็มีตารางทัวร์ของเขาเหมือนกัน และค่อนข้างจะหนักมากกว่าเรา ก็เลยหาทางที่จะมาเจอกันค่อนข้างที่จะยากนิดนึงครับในตอนแรกๆ แต่ตอนหลังๆ ก็คุยตารางอะไรกันเรียบร้อย ในทุกๆ วัน จันทร์ อังคาร งานคอนเสิร์ตก็จะน้อยกว่า เราก็จะทำเพลงกันวันนี้ แล้วเราก็จะมีการบ้านกันทุกสัปดาห์ ก็ค่อนข้างเวิร์คครับ เราก็จะได้เพลงที่ 1 เพลงที่ 2 ออกมาเรื่อยๆ แต่ว่าก็จะมีช่วงนึงที่ต้องแยกห่างกันไป แต่ว่าตอนนี้ก็มีของอยู่ในตัวค่อนข้างเยอะพอสมควรครับ ช่วงแรกๆ จะต้องค่อยๆ จูนกัน เราก็ปรับตัวเข้าหาพี่เขาเต็มที่ครับ และทางพี่อ็อฟเขาก็ปรับตัวเข้าหาพวกเราเต็มที่เหมือนกัน ช่วงหลังเราทัวร์กับวงพี่เขาบ่อยก็ได้คุยกันอยู่เรื่อยๆ จนเรารู้ว่าเราต้องเปลี่ยนโปรดิวเซอร์แล้ว ชื่อพี่อ๊อฟก็เลยผุดขึ้นมาแบบอัตโนมัติเลย ความแตกต่างในการทำงานระหว่างพี่อ๊อฟกับพี่พลคือกับพี่พลเรายังใหม่ พี่พลจะเหมือนอาจารย์มัธยมที่จะคอยจี้ในเกือบทุกจุด กับพี่อ๊อฟเราโตขึ้น ก็จะเหมือนอาจารย์มหา’ลัย คอยดูภาพรวม แล้วเราต้องทำงานส่งให้แก ซึ่งแกก็จะแนะนำว่าต้องทำยังไงมากกว่าครับ
พัง (ลำพัง)
Getsunova : จริงๆ เราอยากจะพูดอะไรที่ดูเศร้าไปกว่าเดิมอีก ยิ่งด้วยเนื้อหาของดนตรีจะดูหนักแน่นมากขึ้น เนื้อเพลงก็ต้องพูดอะไรที่ทำให้ดูเข้มข้นกว่าเดิม มันจะไม่ใช่ผู้ชายที่น้อยอกน้อยใจผู้หญิงคนเดียว แล้วแบบฉันมันคนไม่จำเป็นแล้ว แต่เหมือนกับเรื่องราวนี้ มันเป็นเรื่องราวการเดินทางของผู้ชายคนนึงที่ได้เดินทางไปพบเจอกับความรู้สึกที่มันพังลงไป จริงๆ เพลงนี้เราจะเขียนชื่อเพลงว่า “พัง (ลำพัง)” อยู่แล้ว มันจะเป็นการเล่นคำใหม่ของเราโดยใช้คำที่อยากให้รู้ว่าความรู้สึกที่มันพัง แล้วสุดท้ายเราต้องอยู่คนเดียว ความรู้สึกมันจะเป็นยังไง
ดนตรีที่หนักขึ้น
Getsunova : ชื่อเพลงของเรายังเป็นการเล่นคำอยู่ เพลง “พัง (ลำพัง)” มันเป็นคำเดียวกัน แต่มันก็ยังอยู่ในเนื้อเพลง ดนตรีในเพลงนี้เป็นเพลงที่เราคิดว่ามันสามารถเป็นเพลงคอนเซ็ปต์เปิดตัวของพวกเรา เพลงโชว์ของ และเป็นเพลงที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายในเวลาเดียวกัน ความใหญ่โตของดนตรีมากที่สุดที่เราเคยทำมา ซินธ์ฯ เราลดไปเยอะมากๆ เมื่อก่อนเราอยากได้ซาวด์แบบนั้นจะใช้วิธี คลิ๊กขวาหา Plug In ใส่ (หัวเราะ) แต่เพลงนี้เราจะใช้เสียงจากกีตาร์ หาเอฟเฟ็กต์ใส่เลย และเพลงนี้เป็นเพลงที่เนม อัดนานที่สุดในชีวิต 2 วันเต็มๆ “พัง” สมชื่อ (หัวเราะ) ความยากมันอยู่ที่คืนก่อนหน้านั้น อาจจะพังเยอะไปหน่อย (หัวเราะ) ยากที่อารมณ์เพราะว่ามันเศร้า มันส์ พีค ในเวลาเดียวกัน มืดที่สุดตั้งแต่ร้องมา พาร์ทเบสมีพี่ปิ๊ด บอดี้สแลมอัดให้ เพลงนี้ส่งมิกซ์ต่างประเทศด้วย เราให้ Cenzo Townshend ที่ทำให้ U2, Snow Patrol เป็นคนทำ
ภาพลักษณ์
Getsunova : ภาพลักษณ์และสไตล์ก็โหดกว่าเดิมครับ (หัวเราะ) เสื้อผ้าและลุคก็จะดูขาดๆ หน่อย อะไรแบบนี้ ก็จะดูเป็นชาวพั้งก์มากขึ้น เหมือนกับเพลงที่ชื่อพัง คือสไตล์โดยรวมจะดูเนี๊ยบครับ แต่ก็ดูพังๆ (หัวเราะ) น้อยชิ้นลง แต่จะไม่เห็นเสื้อสูท หรือเสื้อคลุมอะไรแล้ว จะดูเป็นตัวเองมากขึ้น
ถ้าผลงานนี้ สำเร็จ คิดเรื่องคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ไว้บ้างหรือ ยัง
Getsunova : พอพวกเราทำอัลบั้มเสร็จ สักกลางปีหน้า ถ้าทำได้ เราก็อยากจะให้มี เพราะพวกเราก็อยู่กันมานานแล้ว มีอยู่สิ่งเดียวที่เรายังไม่มีก็คือคอนเสิร์ตใหญ่ และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด พวกเราก็หวังว่าจะมีเพลงมากพอ ที่จะสามารถสร้างคอนเสิร์ตใหญ่ได้รวมถึงอัลบั้มที่ 2 ด้วย
ความคาดหวัง
Getsunova : ไม่ใช่แค่ความคาดหวังจากคนฟัง เราก็คาดหวังว่า ผลงานใหม่นี้ จะทำให้เราฟังแล้วดูโตขึ้น จากที่ผ่านมาที่จากเดิมเราจะเป็นวงป็อปร็อคใสๆ คือเราก็อยู่ในระดับที่เกินความคาดหมายของเราไปนานแล้ว แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องรักษาความเป็น Getsunova ออกมาให้ได้มากที่สุดด้วย ให้พี่ๆ ศิลปิน หรือน้องๆ ศิลปิน หรือใครที่ฟังเพลงเรา ให้เห็นความพัฒนาในตัวเราอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่เรื่องภาพ เรื่อง Sound หรือเรื่อง Performance เราต้องทำให้คนเชื่อเราไปเรื่อยๆ เหมือนเป็นการเก็บเลเวลไปเรื่อยๆ แล้วก็อยากมีฐานแฟนเพลงต่างประเทศมากขึ้น และอยากจะทำให้สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้ สนุกขึ้นไปเรื่อยๆ
อุปกรณ์
นต : ผมเปลี่ยนอาวุธลับครับ จากกีตาร์ใสๆ ก็จะเปลี่ยนไปเป็นกีตาร์ไฟแบบ Custom ครับ หะรู หะ หรา มากๆ (หัวเราะ) งานนี้เป็นงาน Custom ของคนไทยด้วยนะครับ อู่เดียวกับพี่ๆ Sweet Mullet ครับ น่าจะได้เห็นกันบ้างแล้ว แล้วก็โละโปรไฟล์ ใน Kemper และ Axe ออกเพื่ออัพเดตให้เข้ากับงานชุดใหม่ครับ ส่วนกีตาร์ PRS Vela ผมเปลี่ยน Pickup Bridge เป็น Bareknuckle Crawler ให้พุ่งๆ ขึ้นอีกหน่อย
ไปป์ : กลองผมเป็น Gretsch เหมือนเดิมฉาบ Meinl สแนร์เป็น Joyful Noise กลองผมก็ติดไฟเช่นกัน ผมไม่ยอมนต แน่นอน (ยิ้ม)
เนม : ในส่วนของเรื่องไมค์ก็ไม่เปลี่ยนครับ ก็อาจจะมีเปลี่ยนแค่ตัวขาไมค์ ตอนนี้ก็สว่างพอแล้ว สว่างกว่านี้ก็ต้องติดจอ LED แล้วครับ (หัวเราะ)
นาฑี : เปลี่ยนเป็นกีตาร์ Tele ปี 72 ครับ ที่มี Humbucker ก็จะหนาขึ้นหน่อย กีตาร์จะมืดมนขึ้น
ฝากผลงาน
Getsunova : เก็ตสึโนว่าอัลบั้ม 2 ก็ได้ปล่อยเพลงนักเดินทางกันไปแล้ว แต่สำหรับซิงเกิ้ลที่ 2 ที่มีชื่อว่าพัง (ลำพัง) พวกเราก็อยากจะให้เป็นซิงเกิ้ลเปิดตัว อัลบั้มที่ 2 ของพวกเรา อย่างเป็นทางการมากกว่า เพราะว่าอย่างที่บอก เพลงนี้มีซาวด์ดนตรีที่ใหม่ขึ้น มีดนตรีที่เข้มแข็ง และมันส์ขึ้น ส่งมิกซ์เพลงไปที่อังกฤษ และด้วยเสื้อผ้า ลุคที่เปลี่ยนไป และพวกเราก็โตขึ้น พวกเราก็อยากจะให้ทุกคนฟังเพลงพังนะครับ เพราะเพลงนี้จะอธิบายเป้าหมายของ Getsunova ได้มากที่สุดเลย และอยากจะให้ทุกคนเปิดใจ ในรูปแบบใหม่แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน และพร้อมกับโชว์ที่มีการพัฒนามากขึ้นไปอีก และใครที่มาดูโชว์พวกเราบ่อยๆ ก็อยากให้ทุกคนมาดูพวกเราเรื่อยๆ รับรองว่าโชว์ของพวกเราจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แน่นอน และอยากเจอแฟนใหม่ๆ มากขึ้นด้วยครับ
ขอขอบคุณ : ฝ้าย White Music ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ครับ