SloJoe
ในวันที่วงดนตรีมีมากมาย ค่ายเพลงเองก็ย่อมต้องมีศิลปินใหม่ๆ เกิดขึ้นใหม่ ที่น่าสนใจก็คือค่ายเพลงของพี่บอย โกสิยพงษ์ เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นศิลปินเบอร์ใหม่ๆ จากค่ายนี้มากนัก ซึ่งในทางกลับกันก็หมายความว่าถ้าเป็นศิลปินที่ทางค่ายเลือกย่อมไม่ธรรมดาและดูโอ สไตล์ R&B คู่นี้ ก็เป็นศิลปินที่มีความสามารถไม่ธรรมดา มาทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกับวง SloJoe ครับผม
ที่มาของชื่อวง SloJoe
ปาล์ม : Slo มาจากคำว่า “Slow Jam” Slow Jam มาจากแนว R&B เซ็กซี่ๆ (ยิ้ม)
แบงค์ : ส่วนคำว่า Joe เป็นเหมือนศัพท์สแลง หมายถึงผู้ชาย ตอนแรกพี่บอย เค้าเห็นว่าเรา ยังไม่มีชื่อวง ก็เลยบอกว่าเอาชื่อเป็น SloJoe ไหม ความหมายคือผู้ชายธรรมดา 2 คน ที่ชอบเล่นเพลงแนว Slow Jam ประมาณนี้ ซึ่งเราก็โอเคชอบเลย เพราะไปบนเวทีเราสามารถเล่นมุกสโลโจก้อง หรือสโลโจอี้บอยได้ (หัวเราะ)
รู้สึกยังไงบ้างที่ได้เป็นครอบครัวเดียวกับ LOVEis
แบงค์ : รู้สึกยินดีมากครับ เพราะเป็นค่ายเพลงที่เราชื่นชอบ ก็อย่างพี่บอยก็รู้จักกันดีครับ เป็นนักแต่งเพลงที่เก่งมาก แล้วพอเราได้มีโอกาสได้ร่วมงาน พวกเราก็รู้สึกสนุกมากๆ เวลาที่ได้ร่วมงานกับเค้า ไอเดียพี่บอยเค้าจะบรรเจิดมากๆ คือแบบผมดีดแค่คอร์ดเดียว พี่บอยก็สามารถฮัมออกมาเป็นเพลงได้เลย สุดยอดมากๆ ครับ (ยิ้ม)
พูดถึงเพลง “โปรดลงโทษ(กระทืบ)ฉัน” ทำไมต้องกระทืบด้วย?
ปาล์ม : พวกเราชอบความรุนแรงฮะ ชอบความซาดิสม์ ดูหนังโป๊เยอะฮะ (หัวเราะ) จริงๆ แล้ว เพลงนี้ มันชื่อโปรดลงโทษฉันนั่นแหละ แล้วคือพี่บอย เขาเขียนเนื้อที่อยากให้มีความรุนแรงของการใช้คำ ที่มันทิ่มแทงหัวใจ คือไม่ใช่คำที่หยาบคายอะไร แต่ฟังแล้วมันบาดเข้าไปในหัวใจเลยครับ ใช้คำนี้เป็นกิมมิก
ก็คือเพลงนี้เราก็ได้พี่บอยมาช่วยแต่ง
แบงค์ : คือเราทำดนตรีมาก่อน ทำทำนองดนตรีมา ทำเมโลดี้อะไรแบบนี้ แล้วก็ส่งไปให้พี่บอยฟัง แล้วเขาก็เป็นคนเขียนเนื้อให้ครับ พี่บอยเขาเขียนเนื้อจากเมโลดี้เลยครับ
ปาล์ม : จริงๆ แล้วตอนนั้นก็จะมีเรื่องของความรู้สึก คือในตอนนั้นมีดาราอยู่คู่นึง เขาทะเลาะกันแรงมากๆ เขาก็เลยเอาเรื่องนี้มาเป็นแรงบันดาลใจ และบังเอิญว่าเพลงนี้ก็ตรงกับชีวิตจริงของผมมากเลยเพลงนี้ เพราะผมทำอะไรไม่ค่อยคิดเท่าไหร่ และมักจะชอบทำความผิดพลาดเสมอ สุดท้ายก็ต้องมาชดใช้ความผิดโดยการไปขอโทษขอโพยหรืออะไรก็แล้วแต่ครับ ก็เลยเข้ากับเพลงโปรดลงโทษฉัน
แล้วคำว่ากระทืบคือมันมาทีหลังหรือยังไงครับ
ปาล์ม : มาทีหลังครับ อย่างในท่อนเวิร์ส 2 จะมีท่อนนึงที่ร้องว่า “อยากกระทืบตัวเอง” อยากกระทืบคำนี้หมายถึงอยากกระทืบตัวเองนะครับไม่ได้หมายความว่าไปกระทืบแฟนหรือกระทืบคนอื่นนะครับ (หัวเราะ)
ในเรื่องของพาร์ทดนตรีเป็นยังไงบ้างครับ
ปาล์ม : จริงๆ ผมชอบแบบ Full Band แหละครับ เพราะด้วยแนว R&B ถ้าทำกัน 2 คนมันก็จะเป็นแนวอะคูสติก ดูไม่ค่อยเข้มข้น แต่ด้วยพวกเรามีกัน 2 คน เราก็ต้องทำ พาร์ทดนตรีอื่นเข้ามาด้วย
แบงค์: เราก็เขียนกลองเอง เขียนคีย์บอร์ดเอง แต่งเบสเองก่อน แล้วเราก็ส่งไปให้พี่ต๋อง (อภิชา สุขแสงเพ็ชร) ให้เขาฟังเขาดู แล้วเขาก็จะมีการปรับแก้นิดหน่อย
ปาล์ม : ซึ่งพี่ต๋องเขาเป็นโปรดิวเซอร์หลักๆ ของเราอยู่แล้ว เขาก็จะมีการปรับแก้นิดๆ หน่อยๆอยู่แล้ว ให้เพลงมันดูกลมขึ้น น่าฟังมากยิ่งขึ้น
ถ้าในตัวดนตรีเพลงนี้ถือว่ายากไหม
แบงค์ : ยากครับ จริงๆ แล้วทางคอร์ดอะไรก็จะวนๆ แต่ว่ารายละเอียดข้างในผมว่ายากครับ
คาดหวังยังไงกับเพลงนี้
ปาล์ม : ก็ค่อนข้างคาดหวังครับ อยากให้เป็นเพลง R&B ที่เข้าถึงทุกคน แล้วก็อยากให้ทุกคนชอบเพลงแนวนี้กัน
คิดว่า SloJoe แตกต่างจากวงในค่าย LOVEis อย่างไรครับ
ปาล์ม : แตกต่างด้วยคำร้องที่ไม่ตลาดนัก เรื่องของ Harmony แล้วก็เรื่องของคอร์ด เราพยายามจะทำไม่ให้ดูเหมือนเพลงป็อปทั่วไป และอีกเรื่องก็น่าจะเป็นเสียงร้องที่ดูโหยหวนขึ้นมาหน่อยนึง (หัวเราะ)
ฝากผลงานกันสักหน่อยดีกว่าครับ
ปาล์ม : ก็อยากจะฝากเพลง “โปรดลงโทษ(กระทืบ)ฉัน” ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ เพราะเพลงนี้เป็นซิงเกิ้ลแรกของพวกเรา
แบงค์ : แล้วก็อยากให้ฟังเต็มเพลงนะครับ ไม่ใช่จบฮุคปุ๊บก็ปิดเลย (หัวเราะ)
ปาล์ม : อยากจะให้ฟังจนถึงตอนจบเลยครับ เพราะเพลงมันจะค่อยๆ แรงขึ้น แรงขึ้น ยังไงก็ต้องลองฟังหลายๆ รอบ จนรู้สึกว่าชอบเลยนะครับ (หัวเราะ)
ขอขอบคุณ : เหวิน Loveis ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ครับ