The Best Quality
“กันต์ รุจิณรงค์” กลายเป็นชื่อของโปรดิวเซอร์ที่มีชื่อขึ้นมาจากผลงานที่ร่วมทำงานกับหนุ่มฮอต ที่กวาดรางวัลดนตรีมามากมายอย่าง “อะตอม ชนกันต์” นี่เป็นชื่อที่อาจจะทำให้นักเพลงเกาหัวเล็กๆ ว่านี่ใครหว่า เพราะพวกเราไม่ค่อยได้เรียกแกในชื่อนี้ แต่ถ้าบอกว่า “พี่บอล แห่งวงอพาร์ตเมนต์คุณป้า” ล่ะก็ เชื่อว่าหลายคนจะต้องร้อง อ๋อ สิ่งที่พวกเราหลายๆ คนทราบกันดี และเห็นมาตลอดกับงานของอพาร์ตเมนต์คุณป้า หรือแม้แต่งานของพี่บุรินทร์ ในนาม “ดิ โอลด์สคูล ออลสตาร์” ก็คือความละเอียดลออของซาวด์บนพื้นฐานของความเรียบง่าย ในขณะที่ตัวผลงานทั้งหมดที่พี่บอลมีส่วนร่วมทั้งหมดฟังเผินๆ อาจจะไม่ได้หวือหวา ฟังมันส์ๆ เพลินๆ แต่ความลึก การเลือกอุปกรณ์ วิธีการ กระบวนการต่างๆ แทบจะไม่มีการปล่อยอะไรแย่ๆ ออกไปเลย ทุกงานมีความเข้ากันกับศิลปินที่พี่บอลทำ ดังนั้นเมื่อเราได้มาพูดคุยกันแล้ว นอกจากเรื่องโปรดิวเซอร์แล้ว ความเข้าใจด้านอุปกรณ์ มุมมองด้านดนตรีทั้งวิถีแบบอินดี้หรือแมส ต้องมีความน่าสนใจแน่ นี่คือมุมมองดีๆ จากคนดนตรีผู้นี้ครับ
ช่วงหลังมานี่พี่บอลเริ่มมีชื่อจากงานของอะตอม นี่ถือว่าเป็นงานแรกที่โปรดิวเซอร์เต็มตัวหรือเปล่าครับ ถ้าไม่นับงานตัวเอง
พี่บอล : อะตอม นี่พี่รู้จักมาก่อนแล้ว เพราะพี่พาอะตอมไปทัวร์กับพี่บุรินทร์ ไปร้องแบ็คอัพอยู่ก่อนสัก 2-3 ปี คราวนี้พอทางสนามหลวงเขาเปิดโอกาสให้เราทำงานตรงนี้เราฟังก็ เออ เข้าท่าดีก็เลยตกลงทำ ก่อนหน้านี้ก็มีของพี่บุรินทร์ ชุด Gran Turismo แล้วก็ ป๊อป ปองกูล เพลงปล่อย หลักๆ จะทำให้คนรู้จักกันมากกว่า
ความแตกต่างของ การทำงานแบบต้องมีบรีฟ มีคนมาเกี่ยวข้อง ความยากง่ายเมื่อเทียบกับงานของตนเอง
พี่บอล : สำหรับงานของอะตอม ต้องบอกว่าพี่โชคดี เพราะเขาเป็นนักแต่งเพลงที่เก่งอยู่แล้ว พอเพลงมันดีก็เลยทำงานง่าย มันทำให้เรารู้ว่าเราต้องใช้ซาวด์แบบไหน อุปกรณ์เทคนิค การอัดแบบไหน เพื่อให้เหมาะกับเพลง การเลือกคน วิธีร้อง ซึ่งตรงนี้ทำให้เราไม่ต้องโดนบรีฟงานเยอะ บางที อะตอมจะอะเรนจ์มาโดยมีโครงจาก Garage Band มีกลองมีเบสคร่าวๆ อยู่แล้ว ที่เหลือก็เลยง่าย คราวนี้มันก็จะต่างจากงานอพาร์ตเมนต์ฯ ที่เป็นร็อค พี่จะใช้การมานั่งซ้อม หาริฟฟ์ หาไอเดียในห้องซ้อม อย่าง ตุล หรือ ปั๊ม ทำเพลงมาก็มาลองซ้อมกันอีกที ดนตรีร็อคมันต้องการอารมณ์ดิบๆ หรือไดนามิกบางอย่าง ซึ่งวิธีนี้ผมมองว่ามันได้ผลมากกว่า ไปคิดงานกันหน้าคอม หรืออย่างงานที่กำลังจะออกอย่างอัลบั้มใหม่ของบุรินทร์ ก็จะต่างออกไปอีก ซึ่งอันนี้ขอโปรโมตหน่อย ว่างานนี้จะสุดๆ มาก เอาง่าย อย่างเบสเราให้ Nathan East อัดทั้งอัลบั้ม
ได้ร่วมงานกับ Nathan East แบบนี้ การทำงานของระดับโลกเป็นยังไงบ้างครับ
พี่บอล : พี่โชคดีที่ได้ทำการ Recording ได้เห็นเขาทำงาน เห็นความเป็นมืออาชีพ อย่างแรกเลยเขาจะขอ Lead Sheet ของเพลงนั้นๆ ก็คือคอร์ดของเพลงทั้งหมด จากนั้นก็ฟังอยู่รอบสองรอบแล้วก็อัด เขาอัดให้อย่างละ 2 เทค ซึ่งเพลงก็แนวเขาอยู่แล้วก็เลยออกมาเจ๋งมาก ทำงานง่าย ไม่มีปัญหาอะไรเลย เสร็จเร็วมาก อุปกรณ์ก็ไม่ยุ่งยาก แกไม่ได้เอาเบสมาเองด้วยซ้ำ ก็ไปยืมตัว Signature ของแกเองจาก Yamaha มาอัด อัด Direct 1 ไลน์ อัดแอมป์ 1 ไลน์ แล้วค่อยไปมิกซ์ ง่ายมาก แต่ใช้เวลามา 6 ปี แล้ว (หัวเราะ)
ในงานอะตอมจะเป็นเพลงป็อปที่ดูจะต่างจากพี่บอลทำใช่ไหมครับ คราวนี้รายละเอียดในการเลือกซาวด์ เบส กลอง ต่างๆ ต้องยากมากขึ้นไหมครับ
พี่บอล : ก็ต้องดูเป็นงานๆ ไปครับ อย่างอะตอม เพลงไม่ได้ร็อคมาก เมื่อเปรียบเทียบกับอพาร์ตเมนต์ฯ อย่างซาวด์กลองก็จะไม่ได้โหดร้าย วิธีเซ็ตอัพกลองก็อาจจะต้องใช้Bass Drum ลูกเล็กลง หรือไมค์รูม อพาร์ตเมนต์ก็ต้องการเสียงไมค์รูมเพื่อจับเสียงกลองเยอะๆ งาน อะตอมก็อาจจะไม่มีหรือลดลง แล้วก็ดูบุคลากรให้เหมาะกับเพลง อย่างเพลงอะตอม ก็จะเป็นพี่มาตร (มาตรชัย มะกรูดทอง) มาตี หรือเบสบางทีก็อาจจะใช้เบส 5 สาย เพื่อให้ได้ย่าน Low ที่มากขึ้น การเลือกรุ่นอย่าง Precision Bass ก็ Punch พุ่งมากกว่า Jazz Bass ก็นุ่ม สมูทกว่า จริงๆ มันมีให้เลือกเยอะครับ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมด้วย คือไม่ได้ตายตัวว่าแนวนี้จะต้องเซ็ตอัพแบบนี้ ขึ้นอยู่กับ Source ด้วย คำว่า Source นี่ไม่ได้หมายถึงก้อน Wave เสียงที่เล่นอย่างเดียว อุปกรณ์หรือคนเล่นก็สำคัญ ภาพรวมทั้งหมด อุปกรณ์แบบไหนจะอัด Direct อัดแอมป์ ไมโครโฟนที่ใช้ ทุกอย่างมันค่อนข้างเป็นวิทยาศาสตร์พอสมควร ซึ่งก็อยู่ที่ประสบการณ์ด้วย เอาง่ายๆ คอนเดนเซอร์คนละตัวโทนเสียงก็ต่างกันแล้ว
ในการทำงานเพลงหนึ่งเพลง พี่บอลใช้เวลานานขนาดไหน
พี่บอล : อะเร้นจ์สักหนึ่งวัน ก็มาเริ่มวางตัวว่าใครจะอัดยังไง เบส กลอง อย่างละวัน กีตาร์ ร้อง คีย์บอร์ด อาจจะอย่างละวัน ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่อง Mix Mastering รายละเอียดต่างๆ ถ้าเอาแบบหลวมๆ หน่อยก็ประมาณหนึ่งอาทิตย์
ถ้าอย่างนั้นถ้ามีน้องคนนึง ถามพี่บอลง่ายๆ ว่า พี่ครับ โปรดิวซ์งานให้ผมหน่อย พี่บอลจะบอกกับน้องคนนั้นให้เริ่มต้นยังไงครับ
พี่บอล : ขั้นแรกก็ต้องมีเพลงก่อนละครับ ไปดีดกีตาร์โปร่งมา ร้องมา เขียนเนื้อเพลงมาให้ดูว่าอยากจะพูดเรื่องเกี่ยวกับอะไร ตีความว่ายังไง แล้วก็ต้องมาดูว่าตัวเขาชอบเพลงสไตล์ไหน พี่ว่าเราจะต้องไม่ยัดเยียดความเป็นเราลงไปในงานของเขา หน้าที่เราคือต่อยอดงานเพลงที่ดีอยู่แล้ว ให้ดีขึ้นไป
ในการทำงานโปรดิวเซอร์ จะมีวิธีในการใส่ลายมือของเราลงไป แบบไม่ให้เกินขอบเขตตัวงานไหมครับ ไม่อย่างนั้นเวลาโปรดิวซ์ฯ ก็จะเหมือนกันไปหมด
พี่บอล : จริงๆ อย่างของพี่เองในงานอะตอมก็มีนะ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องการเลือกซาวด์หรือวิธีมิกซ์ที่เราทำก็จะออกมาคล้ายๆ กัน นั่นก็จะมองว่าเป็นลายมือของเราก็ได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องใส่ลูกนี้ให้เป็นลายมือของเรา อย่างฝรั่งโปรดิวเซอร์แบบ Ross Robinson ก็เล่นดนตรีไม่เป็นนะ แต่เขาฟังเพลงเยอะ จนสามารถรู้เรื่องการเลือกซาวด์ต่างๆ ได้ รู้เรื่องประวัติดนตรี รู้จักสไตล์ต่างๆ ซึ่งผมว่าโปรดิวเซอร์น่าจะเป็นสไตล์นี้มากกว่า
เรื่องการเล่นกีตาร์กับวง ดิโอลด์สคูล ออล สตาร์ พี่บอลจะเล่นในแบบที่แตกต่างจากในงานตัวเอง จะเน้นซัพพอร์ตมากขึ้น ความรู้สึกจะแตกต่างจากงานตัวเองหรือมีความยากง่ายในการเลือกซาวด์ เลือกไลน์ที่เล่นยังไงบ้างครับ
พี่บอล : ก็เล่นซัพพอร์ตมากขึ้นครับ กับ ดิ โอลด์สคูลฯ พี่จะเล่นกับพี่กั้ง (อดิศักดิ์ หัตถกุลโกวิท) ก็จะรู้ว่าจะต้องเลือกไลน์ เลือกซาวด์ยังไง อย่างเวลาพี่กั้งสับคอร์ด พี่ก็ต้องมาเล่นพวกไลน์ตอดๆ เอา จริงๆ วิธีคิดมันก็ไม่ต่างกับอพาร์ตเมนต์สักเท่าไหร่ เราต้องหาวิธีที่จะหลบไลน์กันให้ดี อย่างอพาร์ตเมนต์ฯ สมมติพี่ปั๊มเล่นพวก Single Riff พี่ก็จะเล่น Power Chord ดนตรีร็อคบางครั้งมันก็ต้องการเสียงแน่นๆ แบบ Overdub ก็เล่นเป็นไลน์เดียวกันมันก็ได้ หรือบางทีหยุดเล่นไปเลยในขณะที่อีกคนเล่นมันก็ได้ ไม่มีกฎตายตัวครับ
แล้วเรื่องของซาวด์ล่ะครับ จะทำยังไงให้ต่างกัน อย่าง ดิ โอลด์สคูลฯ ก็เป็นเสียงคลีน อพาร์ตเมนต์ฯ ก็เป็นเสียงแตก จะทำยังไงให้ดูต่างกันครับ
พี่บอล : ในงาน ดิ โอลด์สคูลฯ พี่กั้งจะเล่น Tele ผม จะเล่น Strat ก็จะต่างกันแล้ว เราจะหลีกโดยการไม่ใช้ Strat ทั้งคู่ พี่กั้งใช้ Wah Wah หรือพวก Modulation อย่าง Phaser Chorus ผมจะดิบๆ อาจจะมี Reverb Delay นิดๆ ก็จะหลีกเรื่องอุปกรณ์ไปเลย
ในงานดิโอลด์ สคูล มีเครื่องเป่าด้วย วิธีการเล่นกีตาร์ หรือปรับเสียงไม่ให้ไปกวน วง ที่มีเครื่องเยอะๆ แบบนี้มีวิธียังไงบ้างครับ
พี่บอล : พวกเครื่องเป่าจะมีไลน์ที่เขาเล่นอยู่แล้ว จริงๆ เรายังมีคีย์บอร์ดอีก 2 ตัวด้วยนะ วิธีการก็คือ ไม่ต้องเล่นบ้างก็ได้นะครับ เราก็ดูว่าตรงไหนที่เราอุดได้ ค่อยเล่น อันนี้ฝากบอกน้องๆ ที่เล่นแล้วมีลักษณะนี้ ไม่จำเป็นจะต้องไปเล่นหมดครับ เหมือนเวลาคนพูด พูดบ้าง หยุดบ้าง ไม่ได้พูดไปเรื่อยเปื่อย ก็รู้จักที่จะหยุดเล่นในบางช่วงก็ได้ ตรงนี้สำคัญ
ถ้าในกรณีที่อุปกรณ์เหมือนกัน เราจะมีวิธีหลบเรื่องซาวด์การเล่นยังไงครับ
พี่บอล : โอเค สมมติเป็นเพลงป๊อป คนนึงเล่น Strum อีกคนเล่น Picking พอถึงท่อนที่ต้องเพิ่มไดนามิกขึ้น คนนึงอาจจะเล่นเสียงแตกกับ Single Riff อีกคนไปเล่นใน เฟร็ตลึกๆ เสียงสูงๆ มันก็มีวิธีหลายอย่าง ถ้าน้องๆ มีวงที่มีกีตาร์สองคนลองแบ่งพาร์ทให้มันชัดเจน ก็จะทำให้ดนตรีมันง่ายมากขึ้น ก็คุยกันก่อนสักนิด (หัวเราะ)
เราพอจะทราบว่า พี่บอลจะมีพวกอุปกรณ์ที่เป็น Analog เยอะ แต่ถ้าให้เปรียบเทียบกับ Digital ต่างๆ ในปัจจุบัน พี่บอลมองว่าใกล้เคียงหรือยัง หรือทำได้ขนาดไหน ข้อดี ข้อเสีย เป็นอย่างไร
พี่บอล : ส่วนตัวผมมองแบบนี้ ยกตัวอย่างพวก Axe หรือ Kemper ความสะดวกนี้ใช่เลย เราสามารถยกไปเล่นได้ เพราะมันเบากว่าตู้หลอดอยู่แล้ว แต่เสียงมันขาดไดนามิก ซึ่งพี่ก็ไม่แน่ใจนะว่ารุ่นใหม่ๆ เขาแก้เรื่องนี้ได้หรือยัง สำหรับพี่ที่เคยลองพี่ว่ามันขาดไดนามิกของเสียง แต่เรื่องลักษณะ คาแร็กเตอร์ทำได้ใกล้เคียงเลยด้วยความที่พี่ก็ใช้ตู้มาตลอดชีวิต ยังไม่ได้ไปลองเต็มๆ แบบจริงจัง ก็ไม่อยากฟันธง มันอาจจะเหมาะกับดนตรีอีกแบบหนึ่ง แต่ไม่เหมาะกับดนตรีที่พี่เล่น เพราะของพี่มันต้องการไดนามิกมากหน่อย แต่ถ้าเป็นเรื่องซอฟต์แวร์ ยกตัวอย่าง Amp Farm พี่ว่าถ้า Edit เสียงดีๆ โอเคเลยนะ ส่วนตัวพี่เองก็ใช้วิธีนี้เหมือนกันเวลาทำเดโม มันเหมาะกับน้องๆ ที่เริ่มทำงาน แบบทำที่บ้านมากเลย ข้อดีคือเราสามารถลองเอฟเฟ็กต์แปลกๆ ได้ เห็นภาพรวมของซาวด์ได้ ถ้ามันออกมาดีก็อาจจะเอาแบบนั้นเลย ถ้าให้พี่สรุปแบบง่ายๆ เลยนะ ไม่ว่าจะ Analog หรือ Digital ถ้าหูคุณบอกว่าดี มันก็ดีครับ ไม่มีกฎตายตัว
เกี่ยวกับเรื่องอุปกรณ์พี่บอล มีอะไรจะฝากกับนักดนตรีรุ่นน้องๆ ไหมครับ
พี่บอล : คำแนะนำสำหรับน้องๆ ที่กำลังมีวง อย่าพึ่งสนใจเรื่องกีตาร์แพงๆ นะครับ ลองมาสนใจกับพวกเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นสายแจ็ค ระบบไฟต่างๆ อันนี้สำคัญที่สุดเข้าใจว่าโทนของเราเป็นยังไง เพื่อสร้างคาแร็กเตอร์ของเราขึ้นมา
พี่บอลเป็นคนที่มีกีตาร์วินเทจเยอะ ถามแบบตรงๆ ว่าเราจำเป็นที่จะต้องมีกีตาร์ พวกปีจริงอะไรแบบนี้หรือเปล่าครับ แล้วมันจะมีความรู้สึกแตกต่างกับรุ่นใหม่ๆ เยอะไหม หรืออาจจะเป็นแค่เรื่องทางใจอย่างเดียว
พี่บอล : เอาจริงๆ พี่ว่าเดี๋ยวนี้มันมีกีตาร์ที่เป็นตัวเลือกเยอะ ก็ไม่จำเป็นที่เราจะต้องใช้ปีจริงๆ หรอกครับ แต่ของพี่แค่โชคดีว่ามันมี ซึ่งจริงๆ ก็ไม่เอาไปทัวร์นะ โอเค เรื่องไม้มันแห้งน่ะใช่ แต่อย่าง Pickup จริงๆ มันก็ไม่เสถียรเท่าไหร่นะ พวก Output ก็น้อย ถ้าจำเป็นต้องเอาไปทัวร์พี่ก็จะเปลี่ยน Pickup เลย คำว่าเสียงดีกว่าหรือไม่ เป็นเรื่องรสนิยมของคนมากกว่า ผมมีวินเทจกีตาร์ก็จริงๆ แต่หลังๆ มา ผมก็ใช้พวกกีตาร์ใหม่ๆ ที่มีลักษณะคล้ายๆ กัน ก็บ่อย อยู่ที่รสนิยมครับ
ดราม่า ยอดฮิต ของวงการกีตาร์ กับเรื่องคนเล่นและนักสะสม ครับ มีกีตาร์แพงแต่เล่นได้ 3-4 คอร์ด กับ อ้าวก็ความสุขเขาเราจะยุ่งอะไร พี่มองตรงนี้ยังไงครับ
พี่บอล : เป็นเรื่องความสุขครับ ถ้าคุณมีเงินอยากมีกีตาร์สองสามแสนก็โอเคนะครับ กีตาร์ไม่ใช่แค่เรื่องเสียง มันเป็นเรื่องของงานศิลปะด้วย บางคนแค่นั่งมองก็มีความสุขแล้ว ตัวผมเป็นนักดนตรีก็ใช้มันทำมาหากินแต่ก็ไม่ได้ดูถูก นักสะสมมันคือความสุขของคุณ ถึงคุณจะเล่นได้ 3-4 คอร์ด แต่ถ้าคุณมีเงินอยากซื้อ ก็ซื้อเลยครับ (หัวเราะ)
อพาร์ตเมนต์ฯ เคยเล่นเพลงกำแพง ปัจจุบันพี่มองว่า “กำแพง” ยังอยู่ไหมครับ สูงขึ้นหรือพังทลายไปแล้ว
พี่บอล : ไม่มีแล้วครับ (หัวเราะ) ลองไปดูในเนื้อเพลงสิ ค่ายที่บอกก็มีหายไปแล้ว (หัวเราะ) ไปเล่นต้องเปลี่ยนเนื้อเพลงแล้ว (หัวเราะ) ซึ่งจริงๆ มันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ เพลงนี้ก็กลายเป็นประวัติว่า สมัยก่อนเรามีค่ายเพลงแบบนี้ เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น กับวงการดนตรีของเรา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีว่าในยุคนี้ไม่มีกำแพงอีกต่อไป
ในความเห็นของพี่บอล ทำไมดนตรีกลายเป็นสิ่งที่คนไม่ค่อยให้ความสำคัญเหมือนเดิม
พี่บอล : ด้วยความที่เมื่อก่อนเราฟังดนตรีจากการซื้แผ่นเสียง แผ่นซีดี เทป บางศิลปินกว่าจะหาได้ก็ยากเย็น ทำให้เราจะมีความรู้สึกผูกพันมากกว่า แต่เดี๋ยวนี้ช่องทางมันเยอะแค่เปิด YouTube เราก็เจอมากมายแล้ว คนเลยให้ความสำคัญน้อยลง แต่แน่นอนแง่ดีมันก็เป็นช่องในการหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น
วันนี้มีวงใหม่ๆ มากมาย พี่บอลว่าวงใหม่ๆ พวกนี้ มีส่วนช่วยวงการหรือจะกลายเป็นว่ามันมีมากเกินไป จนผู้ฟังไม่มี มีแต่ผู้เล่นครับ
พี่บอล : ยังไงก็ตามมีเยอะไว้ก่อนดีกว่า เอาไว้เป็นทางเลือก (หัวเราะ) พี่มองว่าถ้ามันเจ๋งจริง ตัวจริง มันจะอยู่ได้ครับ วงการก็จะสกรีน ตัวจริงๆ ออกมาเอง ตอนนี้มีวงน้องๆ ที่ดีๆ เยอะครับ โดยเฉพาะดนตรีนอกกระแส
เรื่องที่น่าเป็นกังวล ก็คือเรื่องรายได้ ทุกวันนี้ วงใหม่ๆ หรือคนเบื้องหลังยุคใหม่จะทำยังไงครับ ด้วยระบบแบบทุกวันนี้
พี่บอล : จริงๆ เรื่องรายได้ ต้องบอกว่าสมัยนี้ เราอาจจะจำเป็นต้องมีอาชีพเสริมไว้ก่อน ถ้าจะลงมาเป็นนักดนตรีร้อยเปอร์เซนต์ ต้องทำใจไว้ก่อนว่ามันจะลำบากนะ ถ้ายัง 50-50 ก็แนะนำว่าอย่าทิ้งงานประจำควรมีอะไรเสริมขนาด วงผมยังต้องไปประกอบอาชีพอย่างอื่นด้วยเลย อย่างผมก็กำลังจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเร็วๆ นี้เลย (หัวเราะ) เราจะมาแบบหนังยุค 80’s ตั้งวงดนตรีแล้วคอยวาสนาผมว่ายากแล้วล่ะ (หัวเราะ) ครีเอทีฟที่ดีมักจะมาพร้อมท้องที่อิ่มครับ (หัวเราะ)
ฝากข้อคิดในการเล่นดนตรีสักนิดครับ
พี่บอล : ตอนนี้ทุกคนมีโอกาสเท่ากัน สิ่งสำคัญมากๆ ก็คือแรงบันดาลใจ ทุกวันนี้ผมยังนั่งดู YouTube วันละหลายชั่วโมงนะ เราต้องสร้างแรงบันดาลใจตลอดเวลา ถ้าแรงบันดาลใจหายน่ากลัวมากนะ พยายามหาวิธี ออกไปดูดนตรี ไปแจม แล้วเปิดใจให้กว้างครับ