มือกีตาร์สายร็อคที่ครบเครื่องทั้งเรื่องการเล่น Rhythm การเล่น Solo รวมไปถึงความรู้ด้านอุปกรณ์ โดยเฉพาะเรื่องของซาวด์ ที่ถึงขนาดแยกเสียง Tube Screamer ได้ก็ไม่ธรรมดาแล้ว ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในวงการดนตรีทุกคนได้ยินเสียงกีตาร์ที่ต่างจากทุกวง ในช่วงนั้น หนักแน่น มีมิติ ถ้าจะเอาคำพูดแบบบ้านๆ ก็ซาวด์ยังกับพวกฝรั่ง คือมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับทุกๆ วงในวันนั้น และก็กลายเป็นตัวจุดประกายให้เหล่ามือกีตาร์สายร็อค เมทัล ทุกคน ทำการค้นคว้า เอาจริงเอาจัง เป็นตัวอย่างในการปรับเสียงกีตาร์ให้ออกมาได้เหมือนที่เขาทำ แม้ตัวพี่เขาอาจจะไม่ค่อยชอบให้ใครมาอวยสักเท่าไร แต่เรื่องจริงก็คือเรื่องจริง และจนถึงทุกวันนี้มือกีตาร์ของวงดนตรีที่ชื่อว่า Silly Fools ก็ยังคงทำแบบนั้นอยู่ ซาวด์กีตาร์มันส์ๆ ที่หลายคนอยากรู้จังว่าเขาทำยังไง และแฟนคอลัมน์เราน่าจะรอติดตามกันอยู่ โคตรมือกีตาร์แห่งวงดนตรีร็อค ชื่อในวงการที่นักดนตรีเรียก คือพี่แป๊ะ และชื่อที่ทุกคนรู้จักเขาก็คือจักริน จูประเสริฐ หรือต้น Silly Fools นั่นเอง
Guitar
“กีตาร์ที่ผมใช้ล่าสุดเป็น Dean พึ่งได้มาใหม่ คืออยากใช้มานานแล้ว ผมเป็นแฟนเพลงของ Dimebag ตอนนั้นไม่ค่อยมีใครเอาเข้ามา ไม่รู้จะซื้อที่ไหน ก็ไปสั่งทำทรงนี้ ตอนนี้พอมีโอกาสก็เลยซื้อใช้ซะเลย Dean ตัวนี้ก็เป็นสเปกแบบออริจินอลของแบรนด์เค้าเลย ยกเว้นไม่มี Floydrose กับมี 22 เฟร็ต ตอนแรกลืมว่าจะสั่ง 24 เฟร็ตแต่ไม่เป็นไร บอดี้เป็น Mahogany ตัว Scale เหมือนของ Gibson ข้างหน้าปะเป็น Flame Maple อีกอย่างผมไม่ชอบ Floydrose เท่าไหร่ ตัว Pickup ผมจะใช้ต่างจากของ Dimebag ของ Dimebag เป็น Bill Lawrence ของผมตัวจะเป็น Gibson 500T แล้วก็เล็งว่าจะเพิ่ม Seymour Duncan Classic เร็วๆ นี้ ผมชอบ Pickup เสียงกลางเยอะๆ เฟร็ตน่าจะ Jumbo หรืออาจจะ Medium ไม่แน่ใจ แล้วทรงมันดีไซน์ให้ยืนเล่นได้ดี Volume Tone ปกติ เปลี่ยน Pickup อย่างเดียว สายใช้ 0.10 สายหกดร็อปมาใช้เป็น 0.52 แต่เดิมมา 0.09 ก็ต้องไปเซ็ตคอใหม่ ทุกสายดร็อปครึ่งเสียง สายหกก็ดร็อปเป็น C# กีตาร์ตัวอื่นๆ ก็จะเซ็ตคล้ายๆ กัน ตัวที่ไม่ได้ดร็อปสายหก ก็จะเป็นสายของเซ็ต 0.10 ตัวนี้ผมจะเอาไว้ใช้เล่นกับเพลงหนักอย่างเดียวไม่ได้เล่นเสียงคลีนเลย ตัวนี้สเกลสั้นมันเป็น Gibson เสียงมันก็จะอ้วนอยู่แล้ว ถ้าเป็นสเกลห่างแบบ Fender ก็จะออกใสๆ”
Effect & Amp
“บอร์ดเอฟเฟ็กต์ผมใช้ไม่เยอะ หลักๆ จะมีพวก Boost พวก Wah Wah มี Footswitch ของตู้ แล้วก็มีที่แปลกตาหน่อยคือ API TranZformer อันนี้ Kimleng เขาเอามาขาย ตัวนี้เป็นของ API ซึ่งตัว API มันเป็นแบรนด์ทำพวก Mixer อุปกรณ์ห้องอัด เป็นแบบ Class A ซึ่งผมชอบอะไรพวกนี้อยู่แล้ว คราวนี้ไอ้แบรนด์นี้ก็ทำเอฟเฟ็กต์สำหรับกีตาร์กับเบสมา คือคำว่า TranZformer เนี่ยมันเป็นเหมือนวงจรหนึ่งที่อยู่ในแอม์กีตาร์ เบส ทุกตัวอยู่แล้ว แต่ละแบรนด์จะมีเสียงของตัวเอง ตัวนี้จะเป็นตัวกำหนดคาแร็กเตอร์เสียงของแต่ละแบรนด์เลย และนี้ก็เป็น TranZformer ของ API ที่สำหรับใช้ในห้องอัด ถ้าเป็นสายซาวด์เอ็นจิเนียร์จะรู้ว่าโทนของ API เป็นยังไง ทีนี้พอมันทำมาสำหรับกีตาร์ มันก็จะมี Compressor มี Tone ให้ปรับ ลองเอามาใช้ คือมันทำให้เสียงของกีตาร์มีโทนแบบ API มี Compressor แบบของ API แล้วก็ EQ สองย่าน คือมันช่วยปรับปรุงสัญญาณให้มันเป็นโทน API เอาง่ายๆ จากที่ใช้มันช่วยให้บาลานซ์สายแต่ละเส้นดีขึ้น หนาขึ้น คราวนี้อยู่ที่ปรับว่าจะเอายังไง มันสามารถทำให้โทนกีตาร์เป็นลักษณะโทนแบบของ API มีความหนา มีขอบมากขึ้น ไม่บาง ไม่บาน ถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ไปทัวร์นี่ไม่ต้องห่วง เวลาเล่นร้าน ออก PA เจอบอร์ด เจอ Mixer แย่ๆ ไอ้ตัวนี้ช่วยได้เยอะเลย แล้วก็ค่อนข้างทน ถัดมาก็เป็น Tube Screamer มี 2 ตัว ตัวนึง (สีเขียวอ่อน) เป็น Ibanez Tube Screamer Reissue รุ่นแรก แต่ผมไปโมด์ฯ เป็น Chips แบบ Vintage แต่ไม่ใช่ของมาเลย์ฯ นะ โทนของมันจะ Drive ไม่เยอะเท่า Chips มาเลย์ฯ แต่เสียงกลางออกและเด้งมากกว่า ของมาเลย์ฯ จะ Warm แต่ Drive มากกว่า ซึ่งพวก Chips ของ Tube Screamer มีผลต่อเสียงมากนะ ผมลองมาหลายๆ แบบ มันมีผลต่อเสียงมาก ซึ่งเอามาใช้เล่นกับพวกเสียงแตกอ่อนๆ ที่ตู้จะปรับพวก Overdrive ไว้ แล้วใช้ตัวนี้ Boost ส่วนตัวสีเขียวแก่ Ibanez Tube Screamer Keeley Mod เมื่อก่อนคนจะบอกว่าตัวนี้เจ๋ง ปกติเวลา Boost โซโล่ ย่าน Low จะหาย ย่าน High ก็จะหายไปหน่อย แต่ตัวนี้ Low ยังอยู่ แต่ก็รู้สึกว่ามันจะหนาไปหน่อย โซโล่เพลงเร็วมันจะไม่ค่อยใช้ แต่เล่นกับเพลงช้านี่โอเค ผมจะเอามา Boost เวลา Rhythm ให้เสียงแตกมากขึ้นแต่ไม่ใช่เป็น Distortion คือด้วยตู้ของผมมันมีเสียงอยู่ 2 Channel คือเสียงแตกอ่อนๆ กับแตกหนักๆ พอเสียงแตกหนักๆ มันก็จะล้นไปเลย เลยใช้ Boost ตัวนี้ช่วย ส่วน Wah Wah จำไม่ได้ (RMC Wah Wah) คือผมจะเลือก Wah Wah ที่เรนจ์เสียงไม่กว้างแบบ Low สุด High สุด แบบนี้ไม่ชอบเลย ผมชอบเหยียบ Wah แบบกดสุด คือถ้าเรนจ์กว้างมากเวลาเหยียบลงสุดจะแหลมมาก ปล่อยแล้วเสียงจะหายไปเลย ตัวนี้เวลาเล่น Wah Wah กับเสียงแตก มันจะชัด ถ้าเรนจ์กว้างไปเสียง Wah Wah จะไม่ออก จากนั้นก็เป็นพวก Footswitch จากหัวแอมป์ ตัวจ่ายไฟก็ง่ายๆ เอาแบบที่เขาใช้กัน น่าจะ Voodoo Lab ส่วนสาย Cable ใช้ Franken แต่ก็เล็งๆ กำลังจะทำสายของตัวเองอยู่ แอมป์ผมใช้ EVH 5150 50 Watts ที่เลือกตัวนี้คือลองแล้วกับราคามันโอเคสุด เสียงแตกมันมาจากตู้อยู่ ไม่ได้มี Simulate มาผสม ผมใช้แค่ 2 Channel แต่ดอกลำโพงที่ติดมากับตัวนี้มันไม่ใช่ Celestion Vintage 30 ผมเปลี่ยนเพราะว่าอันเก่าเสียงจะพร่าไปหน่อย เลยเปลี่ยนดอกลำโพง Celestion Vintage 30 ถ้า EVH ตัวใหญ่มันจะมี 3 Channel แต่ตัว 50 Watts เสียง Crunch กับ Clean จะรวมอยู่ใน Channel เดียว ดังนั้นเสียง Clean ผมจะติดเป็น Overdrive หน่อย”
Tips : ฝากข้อคิดในเรื่องการปรับซาวด์ หรือฟังเพลงหน่อยครับ
“เวลาเราคิดถึงเรื่องการปรับซาวด์เราจะคิดถึงกีตาร์ พวกอุปกรณ์ดนตรี แต่มักจะลืมไปอย่างนึง อุปกรณ์ที่เราใช้ฟังเพลง สำคัญเท่ากับอุปกรณ์ดนตรีเลย สมมติเราอยากปรับซาวด์ให้ได้เหมือนวงที่เราชอบ แต่เราไม่ได้ฟังเพลงจากลำโพงที่เป็นมาตรฐาน ไปฟังจากลำโพงคอมฯ อะไรแบบนี้ ความถี่มันไม่ครบ พอเราฟังมากๆ ติดเสียงแบบนั้น เวลาที่เรามาปรับหน้าตู้จะหาเสียงแบบนั้นไม่เจอ ดังนั้นอุปกรณ์ฟังเพลงหูฟัง ลำโพง เครื่องเสียง สำคัญ โอเคเราไม่ได้บอกว่าต้องไปซื้อของแพงนะ แต่ถ้าเรามีอาชีพนักดนตรี สิ่งเหล่านี้ก็คืออุปกรณ์ในการฝึกโสตประสาท ให้รู้ว่าซาวด์ที่เขาอัด เล่นมาเป็นแบบไหนกันแน่ ถ้าเราไปฟังจากหูฟังที่แถมมา ลำโพงคอมฯ แล้วไปปรับตู้กีตาร์ เมื่อเราได้รับเสียงที่ไม่ถูกต้องมาปรับยังไงก็ไม่เหมือน ดังนั้นสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราควรลงทุนพอๆ กับกีตาร์ เอฟเฟ็กต์เลยนะ ถ้าเราอยากเป็นนักดนตรีที่ดีด้วย ในอนาคตถ้าคุณอยากจะเล่นดนตรีนอกจากผับ ต้องมีเพลงตัวเอง ไปอัดกีตาร์ให้คนอื่น สิ่งนี้จะเป็นสิ่งสำคัญ”