ในปัจจุบันเราจะเห็นว่าศิลปินนอกจากจะออกอิสระด้วยตัวเองแล้ว ค่ายเพลงทุกวันนี้ก็ให้อิสระ ให้ความเป็นตัวตนเต็มที่ แล้วก็บริหารทุกอย่างด้วยคนรุ่นใหม่ๆ Yolker เป็นอีกหนึ่งค่ายในเครือ LOVEiS Entertainment ที่มีสไตล์เพลงในแนวทางแบบที่เป็นหัวใจของ LOVEiS นั่นคือดนตรีแบบคนผิวสี ซึ่ง Yolker ก็ได้รวบรวมคนดนตรีในสายนี้โดยนำโดย บิลลี่ นักดนตรีฝีมือดี ดีกรี MI และคลุกคลีกับคนดนตรี ในแวดวงผิวสีเมืองนอก รวมถึงงานเบื้องหลังในเมืองไทยกับศิลปินสายฮิปฮอปมากมาย มาดูแลภาพรวม รวมถึงศิลปินอย่าง “SloJoe” ดูโอ้สายโซล “ว่าน วันวาน” นักร้องสาวที่เราคุ้นเคยเสียง และผลงานของเธอเป็นอย่างดี ครั้งนี้เธอจะมาอยู่เบื้องหน้า “พีท พีรพล สุนทรญาณกิจ” น้องชายแท้ๆ ของ ตู่ ภพธร และ “ฟ้าร้อง” Rookie จาก Fan Wars นี่ไม่ใช่คนดนตรีฝีมือธรรมดาไปรู้จักพวกเขากันสักนิดดีกว่า
Yolker การรวมตัวกันของคนดนตรีผู้พิสมัย “ความกรู๊ฟ”
บิลลี่ : ก็พวกเราคือค่าย Yolker ในค่ายหลักก็คือ LOVEiS Entertainment เริ่มจากผมตอนแรกทำงานดนตรีอยู่ที่อเมริกา ผมก็จะทำงานพวกสไตล์ดนตรีผิวสี โซล อาร์แอนด์บี ฮิปฮอป ป็อป แล้วคราวนี้ ช่วงหลายปีที่ผ่านมาผมได้ทำงานเบื้องหลังให้ศิลปินในไทยด้วย พอผมกลับมาเมืองไทย วง Mean ซึ่งเป็นเพื่อนผมตั้งแต่เด็กๆ มาชวนผมทำงานที่ LOVEiS พวกเขาบอกว่าที่ LOVEiS กำลังหาไอเดียอะไรใหม่ๆ อยู่ ก็เลยมาลองดู ก็ใช้ผมคุ้มเลย (หัวเราะ) แต่ก็สนุกดีครับ
SloJoe : ส่วนพวกผมอยู่ที่ LOVEiS อยู่แล้วคราวนี้พอบิลลี่มาที่ค่ายก็ได้คุยกัน คราวนี้แนวเพลงที่ชอบดันตรงกัน ก็เลยอยากร่วมงาน เรารู้โปรไฟล์เขามาว่าบิลลี่มีการทำงานดนตรีที่เข้มข้น ก็เลยมาทำเพลงร่วมกัน
ว่าน : ของว่านนี่คือเคยไปเล่นดนตรีที่อเมริกา แล้วเจอบิลลี่ที่ L.A. ได้เล่นดนตรีด้วยกัน ก็เล่นด้วยกันประมาณ 3 ครั้ง พอบิลลี่กลับมาไทย เขาก็เลยชวนมาทำอะไรสนุกๆ กัน เพราะเรากับบิลลี่ก็มีเรฟเฟอเรนซ์ที่ค่อนข้างตรงกันอยู่แล้ว ก็เลือกที่จะมาทำงานที่นี่
พีท : ผมรู้จักบิลลี่ตั้งแต่อยู่ที่อเมริกา จริงๆ ผมเป็นมือกลองนะ ก็ได้เล่นกับบิลลี่ที่นู่น พอบิลลี่เห็นผมพอร้องเพลงได้ก็เลยชวนกลับมา แล้วเราก็ชอบดนตรีคล้ายๆ กันด้วย
Yolker คือ
บิลลี่ : Yolker เป็นค่ายเพลง คำว่า Yolk ก็มาจากคำว่า “โยก” นั่นเอง เขามีสายย่อ แต่เราเป็นสายโยก ใครปวดเข่าก็มาเป็นสายโยกกับเรา (หัวเราะ) สไตล์ดนตรีของเราจะสนุก แต่ไม่ถึงขนาดต้องไปบดกับพื้นขนาดนั้น (หัวเราะ) แบบโยกๆ กรู๊ฟๆ เป็นแนวถนัดของผมเลย คราวนี้ศิลปินทุกคนก็เสพของคล้ายๆ กัน (หัวเราะ) เสพตัวเดียวกัน หมายถึงดนตรีนะ ก็เลยคุยกันง่ายหน่อย จริงๆ นอกจากผม SloJoe / พีท แล้วก็มีน้องชื่อ “ฟ้าร้อง” อีกคน
Cheers (ส่งแก้ว)
ว่าน : เพลงนี้ก็ตามชื่อเพลงเลยทิ้งความโศกเศร้า แล้วเรามาโยก เรามาชนแก้วกัน (หัวเราะ) ฟังเพลงนี้แล้วลืมความเศร้าไปสักพักนึง
บิลลี่ : เพลงนี้จะเริ่มจากผมกับแบงค์ SloJoe เพลงนี้เราวางโครงเพลงไว้คร่าวๆ แล้ว อยากได้เมโลดี้ ทำนองที่เป็นไทยๆ ดนตรีเป็นสไตล์แบบที่เราชอบ ผมก็ไปนอนฝันอยู่หลายคืน (หัวเราะ) จังหวะเดียวกับที่ผมกลับ L.A. ผมก็เอาเพลงนี้ไปให้เพื่อนที่เป็นฝรั่งอยู่ที่โน่นอัดเสียงให้ ก็เลยได้เป็นสุดยอดความกรู๊ฟ ความโยก แต่เนื้อเพลงแต่งตอนกลางวันนะ (หัวเราะ) หลายคนอาจจะคิดว่าชื่อเพลงแบบนี้ต้องแต่งหลัง 4 ทุ่ม ไม่ใช่นะครับ เพลงนี้ได้พี่วิน The Ginkz มาช่วยเขียนเนื้อ ส่วนผมก็ไปนั่งจิ้มคำลงไปในท่อนแร๊ป ซึ่งเจ๋งมาก ผมว่าแกต้องเสพสิ่งเดียวกับผมนั่นแหละ (หัวเราะ)
พีท : เพลงนี้เป็นครั้งแรกของผมในการอัดเสียง แต่ด้วยความที่แต่ละคนเก่งอยู่แล้ว ผมก็เลยได้อานิสงส์ไปด้วย ก็ได้ทุกคนช่วยทำให้งานง่ายขึ้น
บิลลี่ : เพลงนี้ความยากก็คือเรื่องเมโลดี้ร้องที่เป็นคีย์ผู้ชาย แล้วเมโลดี้ก็กระโดดเยอะ ก็พยายามจะให้พวกไลน์คอรัส มันเป็นระนาบเดียวกัน
ว่าน : โชคดีที่เพลงนี้ยังอยู่ในเรนจ์ของเรา ก็เลยไม่ยากไปๆ มาๆ ผู้ชายจะร้องยากกว่าอีกนะ (หัวเราะ)
บิลลี่ : ท่อนร้องเราก็แบ่งกันโดยการเสี่ยงเซียมซี (หัวเราะ) คือด้วยเมโลดี้มันก็ไม่ได้กระโดดขนาดนั้น ก็เลยแบ่งไม่ยากก็ให้ SloJoe เปิดหัวตามด้วยพีทและฟ้าร้อง จากนั้นร้องด้วยกันหมด ส่วน ว่านก็ให้โซโล่เดี่ยวช่วงหลังๆ ไปเลย แล้วดนตรีค่อยตามไป
ปาล์ม : ตัว MV นี่ผมชอบมากนะครับ ด้วยธีมเสื้อผ้า แล้วก็ถ่ายเป็น Long Take ด้วย แล้วต้องมาเต้นเหมือน La La Land ด้วยก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่แล้วก็เปิดประสบการณ์ของพวกเราด้วย
Yolker กำเนิดใหม่ B5
ว่าน : คงไม่ถึงขนาดนั้น เราแค่อยากให้คนฟังได้รู้จักแนวดนตรีแบบนี้มากขึ้น เราก็เลยพยายามผสมความเป็นฝรั่งกับไทย แล้วเมโลดี้ที่ฟังดูง่าย จริงๆ เราไม่ได้คาดหวังจะต้องประสบความสำเร็จแบบร้อยล้านวิว แต่ถ้าได้ก็ดี (หัวเราะ)
ปาล์ม : เราไม่ได้ทำเพลงให้มันสุดโต่งไปเลย เราพยายามทำให้ย่อยง่าย ฟังง่าย แต่ตัวพาร์ทดนตรีจะเข้มข้นหน่อย
บิลลี่ : ผมว่าเราโชคดีมากๆ ที่ตอนนี้บ้านเราฟังเพลงหลากหลายขึ้นมาก มีตัวเลือก วงการดนตรีใหญ่ขึ้นผมดีใจ ก่อนที่ผมจะไปเรียนดนตรีที่อเมริกาผมรู้สึกว่ามันไม่ได้หลากหลายขนาดนี้ เพราะฉะนั้นในพาร์ทดนตรีผมเลยปรับน้อยมาก เราสามารถทำอะไรได้เต็มที่
รู้จักหนุ่ม สาว ชาว “โยก” ให้มากขึ้น
พีท พีรพล หนุ่มสุดเท่ที่น่าจับตา
พีท : จริงๆ ผมเล่นกลองพวกแนวร็อคมาก่อนนะ (หัวเราะ) ตีพวก Smashing Pumpkin เป็นสายร็อคเลย แต่ผมได้คุยเรื่องดนตรีกับพี่ชายผม คือพี่ตู่ ภพธร พี่ตู่ก็แนะนำเพลงแบบที่เขาฟังอย่างพวก R Kelly อะไรทำนองนี้ ซึ่งหลังๆ ผมก็มาทางนี้เหมือนกัน จนได้มาเป็นศิลปินครั้งแรกก็ตื่นเต้นครับ ซึ่งล่าสุดผมก็มีเพลงของตัวเองแล้วชื่อ Shooting Star ซึ่งก็ feat กับพี่ชายผมนั่นแหละ
ว่าน วันวาน กับเรื่องราวดนตรี ของเธอ
ว่าน และ โบกี้ ไลอ้อน พี่น้อง อลเวง
ว่าน : ตอนนี้น้องสาวเพลงขึ้นชาร์ตแล้ว ก็ดีใจด้วย ตอนนี้ก็หวังพึ่งให้น้องแชร์เพลงของหนูเหมือนกัน (หัวเราะ) เอาจริงๆ ตอนเด็ก ว่าน กับ โบ นี่ตบตีกันบ่อยนะ (หัวเราะ) เราอาจจะทะเลาะกันหลายเรื่องแต่เรื่องดนตรีไม่เคยทะเลาะกันเลย เป็นเรื่องเดียวที่สมานฉันท์กันมาก เราจะช่วยกันผลัก ช่วยกันลุ้น ตอนที่เพลงของน้องอยู่อันดับ 2 เราก็จะลุ้นให้ขึ้นอันดับ 1 เราก็จะโมโหเพลงที่แซงน้องเราว่ามาแซงได้ยังไง (หัวเราะ)
ว่าน และงานเบื้องหลัง
ว่าน : เสียงว่านอยู่ข้างหน้า แต่หน้าตาอยู่ข้างหลัง (หัวเราะ) คือจะไม่ค่อยมีคนรู้จักว่าจริงๆ แล้ว ว่าน วันวาน คือใคร เขาจะสับสนระหว่างว่านที่อยู่ใน The Voice กับว่าน วันวาน แต่มาวันนี้ ก็รวมร่างแล้วเพราะได้มีซิงเกิลของตัวเอง ชื่อเพลงว่า “เท่านี้ที่อยากฟัง” ที่ feat กับ Autta ก็อยากให้ลองฟังกันเยอะๆ ค่ะ
นักร้อง 2 ร้อยล้านวิว ว่าน วันวาน
ว่าน : จริงๆ ตอนไปร้องเพลง เหนื่อยไหมหัวใจ ตอนนั้น จำไม่ได้ว่าเป็นปีที่ไปเรียนที่อเมริกาหรือเปล่า แต่จำได้ว่าพอเราเปิดดูปั๊บเห็นยอดวิว แล้ว เฮ้ยยย (หัวเราะ) คือแค่ไม่กี่วัน วิว มันปั่นไป 2-3 แสน ซึ่งสมัยนั้น ยอดวิว มันไม่ได้ขึ้นง่ายเหมือนทุกวันนี้ ตอนนี้ 2 ร้อยล้าน แต่คนก็ยังไม่รู้จักหนูอยู่ดี (หัวเราะ) สมมติเราไปเล่นสักงานนึง ถ้าไม่ร้องเพลงนี้ คนจะไม่รู้เลยว่าเป็นตัวเรา มาคราวนี้ก็เลยอยากจะให้คนรู้จักเรามากขึ้น เลยมาออกผลงานครั้งนี้ ระหว่างทางพี่ๆ Retrospect ก็ซัพพอร์ตเรามาโดยตลอด ซึ่งก็ต้องขอบคุณพี่ๆ เขาจริงๆ
SloJoe กับก้าวต่อไปของ 2 หนุ่ม
SloJoe : จริงๆ ระหว่างที่เราออกเพลง Cheers กับ Yolker วงเราก็มีเพลง Bye (ขอบาย) ออกมา ถ้านับศิลปินของค่าย Yolker แบบเป็นทางการ ก็จะเป็นพวกเราที่เป็นเบอร์แรก ซึ่งเพลงนี้มีเต้นด้วยเป็นอะไรแบบที่ SloJoe ไม่เคยทำมาก่อน หลักๆ โดน บิลลี่ยุก็เลยลองทำดูครับ (หัวเราะ) เพลงนี้ไข่มุก รุ่งรัตน์มา feat ด้วย ดนตรีเข้มข้นนักดนตรีน่าจะชอบ
Yolker ผู้สานต่อเพลงในสไตล์แบบ “บอย โกสิยพงษ์”
บิลลี่ : ก็เล่นดนตรีมาผมไม่คิดมาก่อนเลยนะว่าจะต้องมาบริหารด้วย (หัวเราะ) ผมค่อนข้างดีใจที่ได้ร่วมงานกับศิลปินที่มีคุณภาพเหล่านี้ แล้วยังโชคดีที่เรายังเป็นเพื่อนกันนอกเวลาอีก พอมาทำงานจุดนี้ โอเค พวกเราโตมากับเพลงของพี่บอย ซึ่งพอวันนึงได้มาทำงานก็รู้สึกเป็นเกียรติมาก ที่ได้มาร่วมงานในบ้านเดียวกัน แต่จริงๆ ผมก็ไม่ได้ถึงขนาดกดดันมากเพราะผมรู้สึกว่าสิ่งที่พี่ๆ เขาทำมา มันดีมากๆ อยู่แล้ว ก็เลยไม่รู้สึกกดดัน เราแค่เป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์เท่านั้น เราพยามทำให้ดีที่สุด ใส่ความเป็นตัวเองที่เราชอบ กับแรงบันดาลใจของพี่ๆ ที่ผ่านมา เก็บมาผสมเป็นไอเดียต่างๆ ก็ใครที่ชอบดนตรีแบบสไตล์ผิวสี ใครอยากเป็นชาวโยกกับพวกเราลองติดตามผลงานของพวกเราได้นะครับ ก็ฝาก Yolker ไว้ด้วยครับ