ถ้าในมุมมองของนักฟังทั่วไป Groove Riders คือวงดนตรีที่มีเพลงที่มีส่วนผสมของความเป็น ดิสโก้ ป็อป ฟั้งก์ โดยมีเพลงดังอย่าง “หยุด” และฟรอนท์แมน สุดเท่อย่าง บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ แต่ในมุมของนักดนตรี 3 นักดนตรีของ Groove Riders นี่คือนักดนตรีฝีมือระดับเทพจริงๆ วงดนตรีที่ได้รับการยอมรับว่ามีพาร์ท Rhythm ที่แน่นมากที่สุดวงนึงของวงการดนตรี จากฝีมือของ ก้อ ณฐพล ศรีจอมขวัญ, กั้ง อดิศักดิ์ หัตถกุลโกวิท, มาตร มาตรชัย มะกรูดทอง นี่โคตรคนดนตรีของแท้ หลังจากที่เราจะเห็นว่าระยะหลังๆ แต่ละคนก็มีหน้าที่การงานมากมายที่ทำกัน ทำให้ชื่อของ Groove Riders เฟดๆ ไป แต่ในที่สุดพวกเขาก็กลับมา แต่กลับมาในแบบที่เรียกว่าเอาแก่นของดนตรีออกมาจริงๆ กับอัลบั้มเพลงบรรเลงของ Groove Riders อะไรคือแรงบันดาลใจอันบ้าบิ่นนั้น เรามาฟังจากทั้ง 3 คนได้เลย
การรวมตัวกันในรอบ 9 ปี
ก้อ : ก่อนที่เราจะทำงานในโปรเจ็กต์นี้ พวกเราไม่ได้เจอกันเลย ต่างคนต่างทำงานตัวเอง จนผมได้รับการเชิญจากร้าน Music Concept ว่าให้ไปทำกิจกรรมร่วมกับทางร้าน ก็เลยคิดว่างั้นชวน กั้ง กับ มาตร มาเล่นด้วยดีกว่า ซึ่งเราไม่ได้เล่นกันมาประมาณ 9 ปี ก็คิดสนุกๆ ว่าอยากเล่นกับเพื่อนๆ คราวนี้พอรวมกันก็มาคิดกันว่าจะทำอะไรกันดี ก็เอาเพลง Groove Riders มาเล่นแบบเพลงบรรเลง เล่นกับ 3 คน สนุกๆ ก็เลยจุดประกายขึ้นมา คราวนี้ที่คิดมาทำอัลบั้มเป็นเพลงบรรเลงเนี่ยเพราะอย่างแรก ผมคิดถึงบรรยากาศที่เราเคยทำเพลงด้วยกัน อย่างที่สอง คือถ้าเราไม่เอาเพลงเหล่านี้มาเล่นเลย เพลงมันจะหมดคุณค่าของมันไป ก็เลยกลายเป็นอัลบั้ม PYT ขึ้นมา
PYT คือ…
ก้อ : คำนี้เป็นภาษาเดนมาร์ก เป็นภาษาที่ไม่มีคำแปลตรงตัว แต่มันมีความหมายแบบการปลง การปล่อยวาง คือยอมรับในสถานการณ์ที่เราเป็นอยู่ นั่นคือความหมายของคำนี้ ซึ่งก็เป็นสถานการณ์ที่พวกเราเป็นอยู่ เดี๋ยวมันก็คงดีขึ้นเองล่ะมั้ง (หัวเราะ)
กั้ง : คือพอได้ชื่อแล้วเราก็ลองมาคัดเพลง วิธีคัดก็ดูความเหมาะสมว่าเพลงๆ นั้นจะเป็นเพลงบรรเลงได้มั้ย เพราะเพลงของเราเป็นเพลงร้องซะทั้งหมด ถ้าไปตัดเมโลดี้ออก นิดๆ หน่อยๆ มันก็จะฟังไม่ออกว่าเป็นเพลงอะไร ก็เลือกออกมาได้เป็น 6 เพลง แล้วก็มาอะเรนจ์กันใหม่อีกที
มาตร : สิ่งที่ยากที่สุดจริงๆ คือการที่พวกเราต้องนัดมาซ้อมเล่นด้วยกันนี่แหละ
กั้ง : ใช่ เพราะเราห่างการเล่นด้วยกันมาตั้งกี่ปีแล้วล่ะ มันไม่เหมือนเมื่อก่อน มองตารู้ใจ ต้องกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ เหมือน 20 ปีที่แล้วจะให้แบบมองตารู้ใจกันมันยากมาก
ก้อ : ขนาดพวกเราตอนแรกคิดว่าไม่เป็นไร เล่นมาขนาดนี้มารวมตัวแป๊บเดียวน่าจะได้ ปรากฏว่าซ้อมครั้งแรก ปลิ้นเลย เละ (หัวเราะ) เมื่อก่อนเราเล่นด้วยกันทุกวัน ตั้งแต่มาตรนับวัน ทู ทรี โฟร์ ตั้งต้นจนจบเพลง เราแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันเลย เรารู้เลยว่าแต่ละท่อนใครจะทำอะไร เพราะฉะนั้นคนจะบอกว่า Groove Riders แน่น เพราะเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน พอผ่านมา 9 ปี มาซ้อมด้วยกันครั้งแรกนับ วัน ทู ทรี โฟร์ ปั้ง ปลิ้น (หัวเราะ) มันก็เลยต้องกลับมาเล่นด้วยกันอีกครั้ง และใช้เวลาพอสมควร ก็กว่าอัลบั้มนี้จะออกเราก็ใช้เวลา 2 ปีได้
อัลบั้ม เพลงบรรเลงกับนักดนตรีระดับโลก
ก้อ : เราตั้งใจทำอัลบั้มนี้มาก เราอยากไปให้ถึงจุดที่ดีที่สุดที่มันจะเป็นได้ แต่อย่างแรกเราต้องยอมรับก่อนว่าเราทำเพลงบรรเลง คนฟังมันจะเท่าไหร่กัน คือต้องบ้ากับโง่ผสมกันถึงจะทำอะไรแบบนี้ได้ (หัวเราะ) ซึ่งเราก็บ้ากับโง่จริงๆ แต่ว่าความบ้ามันมากกว่าหน่อยนึงเราก็เลยรู้สึกว่าเราอยากจะไปอยู่ในจุดสูงสุดในความเป็นนักดนตรีของเรา พวกเรากลับสู่พื้นฐานที่สุดคือการที่เราอยากเล่นดนตรี เราเป็นนักดนตรี คราวนี้พอคิดแบบนี้เราก็อยากจะทำอัลบั้มนี้ให้มันมีอะไรมากกว่าธรรมดา ให้มันพิเศษไปเลยก็เลยเชิญนักดนตรีระดับโลกหลายคนมาเล่น คนนึงที่เราเชิญคือ Eric Marienthal ซึ่งก็เป็นมือแซ็กโซโฟนอันดับต้นๆ ของโลกอยู่แล้ว ก็มาร่วมงานกับเราในเพลง ถ้าปล่อยให้เธอเดินผ่าน ก็จัดเต็มให้เรา ซึ่งจริงๆ เราควรจะไปกราบขอบคุณคุณอาที่มาให้เล่นให้ กลับกลายเป็นเขาส่งเมล์มาขอบคุณพวกเราที่เชิญเขามามีส่วนร่วมในงานนี้ ก็น่ารักมาก ซึ่งแต่ละคนที่เชิญก็เป็นกันเองแล้วก็น่ารักมาก อย่างคุณ Dan Hammer ที่มาเล่นออร์แกนในเพลงศัตรูที่รัก นี่ก็สุดมาก ได้อารมณ์แบบทะลุหัวใจเลย แล้วยังมีนักดนตรีไทยอีกคนนึงชื่อคุณ เก่งฉกาจ เก่งการค้า เป็นคนที่ได้รางวัลทุน Full Bright ไปเรียนดนตรีที่อเมริกา ซึ่งไม่ใช่ใครจะได้ง่ายๆ นะครับ เขาได้ทุนไปเรียนและเล่นดนตรีแจ๊ซอยู่ที่นิวยอร์ก ทุกคนที่มารับเชิญในอัลบั้มนี้ฝีมือระดับโลก ผมก็เลยรู้สึกว่าอัลบั้มนี้มันได้มาตรฐานแบบ Inter Standard มากขึ้น เราจัดเต็มแม้แต่ด้านของงานโปรดักชั่นก็ตาม
แต่ไม่มีเพลง หยุด
กั้ง : เรากลัวจะประสบความสำเร็จเยอะเกินไป (หัวเราะ) ไม่ใช่หรอกครับมันเป็นเรื่องของเมโลดี้ พอมาทำเป็นเพลงบรรเลง ถ้าเอาเพลงหยุดมาทำ เวลาเล่นมันจะขัดเขินหน่อย ผมว่ามันเป็นเพลงป็อปเกินไปที่จะทำเป็นเพลงบรรเลง ซึ่งให้อยู่แบบของมันน่ะดีแล้ว (หัวเราะ)
ก้อ : อันนี้คือตอบแบบจริงใจ ผมตอบบ้าง (หัวเราะ) คือเราเก็บไว้ชุดที่ 2 (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นแฟนเพลงต้องติดตามต่อ ถ้าอยากฟังแบบบรรเลง ต้องช่วยกันอุดหนุนไม่ให้มันเจ๊ง
เหตุผลที่ไม่ทำอัลบั้มเพลงร้อง
ก้อ : Groove Riders ตั้งแต่แรกทำมา 4 คน โดยมีบุรินทร์เป็นคนร้อง แล้วไม่มีใครมาแทนบุรินทร์ได้หรอก ไม่มี และเราไม่เคยคิดจะให้ใครมาแทน คืออัลบั้มนี้ เราแค่อยากทำเพลงบรรเลงเท่านั้นเอง ก็เลยไม่มีคนร้อง แต่ผมแง้มๆ ไว้นิดนึงว่าอาจจะมีคอนเสิร์ตแบบที่เอาเพลงของพวกเราแล้วมีคนอื่นร้อง อันนี้อาจจะมี ซึ่งอาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต ก็คงต้องมาดูแหละ (หัวเราะ) ส่วนอัลบั้มใหม่ที่เป็นเพลงร้อง ก็ต้องมีพวกเราครบ 4 คนเท่านั้น
เหตุผลที่ทำขนาดนี้
ก้อ : พวกเรารู้สึกว่าเราไม่รู้ว่าจะได้ทำเพลงบรรเลงกันมากน้อยขนาดไหนในหนึ่งชาติ (หัวเราะ) ผมไม่อยากจะพูดคำว่ารอเจ๊งนะ แต่แค่รู้สึกว่าเราควรจะต้องทำให้ดีที่สุด เท่าที่เราจะมีโอกาส อย่างที่บอกว่าเราทั้งบ้า ทั้งโง่ ที่ทำ เพราะฉะนั้นก็อยากทำให้มันดีที่สุด นอกจากแขกรับเชิญ นอกจากเพลง คุณภาพเสียงก็เป็นสิ่งที่เราตั้งใจจะให้ถึงจุดที่ดีที่สุด คือนอกจากนักฟังเพลง นักดนตรีทั่วไป ใครที่ชอบด้านเครื่องเสียงเราก็อยากให้ฟังอัลบั้มนี้ เพราะควอลิตี้ของเสียงในอัลบั้มนี้คือ 192K 24bit ซึ่งสามารถฟังในสตรีมมิ่งอย่าง Tidal ที่สามารถฟังในควอลีตี้ที่สูงที่สุดได้เช่นกัน ก็อยากให้ลองฟังกัน เหตุผลที่เราทำกันขนาดนี้เพราะเรื่องง่ายๆ เลยก็คือเราเป็นนักดนตรี เราอยากทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด เท่าที่เราจะมีความสามารถ ซึ่งผมว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องทำ ไม่งั้นเราจะเสียใจไปตลอดชีวิตว่า ทำไมถึงไม่ทำ ก็อยากให้ทุกคนช่วยอุดหนุนด้วยนะครับ