วงดนตรีที่มีสีสัน ความแสบสันต์ ความเกรียนแบบน่ารักไม่ได้น้อยหน้าวงใดๆ หลายเพลงที่ปล่อยไปใน EP โชวห่วย ของพวกเขาล้วนมีสีสันที่น่าสนใจ เราจะมาไล่เรียง และพูดคุยถึงเรื่องราวต่างๆ ของพวกเขากัน
ไล่เรียง สินค้าใน EP โชวห่วย
นนท์ : ความพิเศษใน EP ของเราก็ไล่ตั้งแต่แพ็คเกจเลย ที่กางออกมาสามารถประกอบเป็นร้านโชวห่วยได้ มี Paper Doll แล้วก็ตัวแผ่นจะสุ่มว่าได้รูปใครในวงด้วย
บอส : บางคนซื้อไป 30 แผ่น ยังไม่ได้รูปพี่รุ่ง (เจ้าของค่าย) เลยนะ
ยิ้ม : ก็มันไม่มี (หัวเราะ)
เสาเอกของร้านโชวห่วย
โบ๊ท : จริงๆ ก่อนจะเป็น EP เรามีเพลงเยอะกว่านี้อีกนะ แต่เราคัดมาแล้วให้เหลือแค่ 5 เพลงนี้
ยิ้ม : เพลงแรกที่ทำให้เรามี EP นี้คือเพลงคิดถึงขนาด เพราะเป็นเพลงที่เปลี่ยนทิศทางเพลงของวงเลย เราเจอทางใหม่แล้วเริ่มสนุกกับมัน ได้ทดลอง ทำเดโม่เยอะๆ
โบ๊ท : ช่วงนั้นมันจะมีคำว่า “คิดถึง” เข้ามาในเนื้อเพลง แต่เราก็มาคิดจะยังไงดี คิดถึงเธอมาก ก็ไม่ดี เมโลดี้มันไม่โดน พอเป็น คิดถึงขนาด ก็มาคิดต่อ เออ ขนาดไหนดี ก็เลยมาตีความตรงนี้มาช่วยกันเขียนดู กลายเป็น คิดถึงขนาดล้มลงทั้งยืน เออ มันก็ได้นี่ ก็เลยเลือกชื่อนี้เลย ในส่วนของดนตรีตอนเรียบเรียงมันจะติดความเป็นเร้กเก้นิดๆ ตอนเราเอาไปโชว์ เราก็จะทำให้มันเป็นเรกเก้ มากขึ้นไปอีก
ยิ้ม : ซึ่งมันก็มีคนชอบทำให้เรารู้สึกว่า เออ มาถูกทางแล้ว
ของหวานใน ร้าน โชวห่วย
นนท์ : เพลง “คำหวาน” เกิดจากจริงๆ ผมเมานะตอนแต่งเพลงนี้ ก็พยายามแต่งเพลง (หัวเราะ) ก็ได้มาเป็น Lick นึง คราวนี้ก็มาแต่งเนื้อเพลงต่อกับโบ๊ท
โบ๊ท : ซึ่งตอนนั้นผมก็มีเรื่องที่อยากจะเล่าพอดี
นนท์ : ซึ่งก็เป็นเรื่องเหตุการณ์บ้านเมือง
โบ๊ท : ซึ่งเป็นเรื่องที่เราประสบมา แต่ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมือง (หัวเราะ) เรารู้สึกว่า “คำหวาน” มันดูฟังง่าย มันน่าสนใจ แต่บางครั้งมันคือคำโกหก
นนท์ : เหมือนนโยบาย
บอส : นโยบายวง!! อย่าวกมาสิ (หัวเราะ)
นนท์ : ก็พอได้เรื่องที่จะเล่าเป็นเนื้อเพลงในส่วนของดนตรี เราก็จะมีทั้งความหวานผสมความลุย ก็มีคอร์ดหวานๆ ซ่อนอยู่แต่ก็ฟังดูลุยๆ หน่อย ก็มีไลน์กีตาร์มากมายเลย คือเวลาเราเล่น เราก็เล่นกัน 3 คน มีโบ๊ทด้วย
โบ๊ท : เราไปดูในคอนเมนต์ก็มีบางคนที่บอกว่า คำหวานๆ ฟังดูง่าย แต่ผมรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เจอมาจริงๆ เราก็รู้สึกว่า เออ มีคนเก็ท เราก็มีความสุขแล้วนะ
มึงนี่มัน และพาร์ทกีตาร์สุดมัน
นนท์ : เพลงนี้มันเป็นอารมณ์เกรี้ยวกราดของพวกเรา เพราะเราพูดในเรื่องที่ค่อนข้างรุนแรงอยู่
โบ๊ท : เราอยากได้เพลงมันๆ ที่เข้ามาต่อกับพวกเพลง คิดถึงขนาด หรือ 1-100 ให้มัน มันกว่า เราอยากได้เพลงที่มีรสชาติดุๆ เผ็ดๆ ก็เลยจัดเลย
บอส : เราพูดเรื่องที่มันรุนแรง ดนตรีเลยต้องรุนแรง
นนท์ : เรื่องการเมือง
บอส : ไม่ช้ายยย ป่าววว (หัวเราะ)
โบ๊ท : เพลงนี้มันเหมือนวัยรุ่นได้ระบายครับ พอได้พูดแล้วมันก็ไม่อยากพูดแล้ว ก็เลยจำคอร์ดกันไม่ค่อยได้แล้ว (หัวเราะ) ไอ้นนท์เขาหวังชิงรางวัล The Guitar Mag เลยนะเพลงนี้ (หัวเราะ)
1-100 มุมน่ารักแบบ สมเกียรติ
บอส : เพลงนี้อันที่จริงเนื้อหาก็เกี่ยวกับการสู้เหมือนกันนะครับ สู้กันในครัวเรือน (หัวเราะ)
โบ๊ท : 1-100 เป็นเพลงแบบสู้กันในบ้าน ส่วนมึงนี่มันนี่เป็นเพลงสู้เพื่อประเทศ ประเทศสมเกียรติ (หัวเราะ) 1-100 คนเราเวลารักกัน มันก็ต้องมีทะเลาะกันบ้าง เล็กๆ น้อยๆ แต่ทีนี้เวลาทะเลาะกัน ไม่ได้ขอโทษกัน อาจจะด้วยความเขินกัน ถ้าบอกขอโทษ เพลงนี้ก็อยากจะบอกว่าให้ทะเลาะกันยังไงก็ขาดกันไม่ได้
ดาวกระพริบ เพลงจากชีวิตจริงของปลาวาฬ
โบ๊ท : เราได้เรื่องนี้มาจากตอนนั้นมีมูลนิธินึงที่ช่วยชีวิตปลาวาฬตัวน้อย ปกติปลาวาฬเนี่ยมันจะส่งคลื่นโซนาร์กัน คราวนี้มีตัวนึงที่การส่งคลื่นมันบกพร่อง ทำให้สื่อสารกับตัวอื่นไม่ได้ แล้วเราก็เลยคิดไปว่า เออ ถ้าเราเป็นกู้ภัยเราจะทำยังไง จริงๆ ตอนแรกเพลงนี้จะขึ้นร้องว่า…หากเธอเจอเรื่องร้ายเมื่อไหร่ รุนแรงแค่ไหนฉันจะไปถึง เหมือนกับมีปัญหาอะไรบอกกันได้นะ เราคิดถึงปลาวาฬตัวนั้นก็รู้สึกสงสารจับใจ
บอส : ชื่อ จอร์จ มั๊งปลาวาฬตัวนั้น
โบ๊ท : มันยังพูดกับใครไม่ได้เลย จะมีชื่อได้ยังไงเล่า (หัวเราะ)
บอส : แล้วก็มาผสมกับเรื่องการส่งสัญญาณ เหมือนดาวมันกระพริบกัน เหมือนเป็นสัญญาณส่งให้ใครสักคน เราคิดว่าดาวมันกระพริบหากันอยู่
โบ๊ท : ภาพรวม EP นี้ค่อนข้างดีเลยครับ เราโตขึ้นแล้วแต่ละเพลงมันก็ส่งอารมณ์ไปสุดทางของมันได้
ชีวิต นักดนตรีแบบสมเกียรติ
สมเกียรติ : ก็ตามเวลาพวกเราโตขึ้นมุมมองบางอย่างก็เปลี่ยนไปบ้างแต่ความสนุกในการทำงานยังเหมือนเดิม ยังสนุกที่อยู่กับเพื่อน ยังสนุกที่จะเล่นด้วยกัน เอาจริงๆ ยุคแรกๆ ที่เราเล่นกันไม่มีคนดูเลยนะครับ มายุคนี้เราก็เออ มีคนขอเพลงขึ้นมาก็ถือว่าดีแล้ว บางทีมีคนมาขอเพลง เรือชูชีพที่เราคัฟเว่อร์ พี่ๆ วง Death Of Salesman ไว้ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว พวกเราก็รู้สึกแบบ เออ มีคนตามวงด้วยนะ ก็รู้สึกดีนะครับ
โบ๊ท และแฟนเพลงสุดมึน
บอส : คือตอนนั้นมันเป็นแบบเซ็นชื่อถ่ายรูป แล้วโบ๊ทก็ก้มโค้งเซ็นอยู่ คราวนี้มีแฟนเพลงน้องผู้ชายก็มาทำท่าโยกข้างหลัง โบ๊ทมัน (หัวเราะ)
โบ๊ท : ผมนึกว่าบอสมันมาเล่นอะไร เพราะเราก็เห็นเป็นรองเท้า Vans ไง แล้วปกติ บอสมันก็จะมาเล่นอะไรแปลกๆ แต่คราวนี้เราดู เอ๊ะ ทำไมรองเท้ามันเก่าจังวะ (หัวเราะ) หันไป เป็นคนหลอนๆ กำลังซอยเลย (หัวเราะ) ผมก็แบบ เฮ้ย แบบนี้ก็ได้เหรอวะ (หัวเราะ) ผมหงุดหงิดฉิบหาย ปกติวงเราก็จะค่อนข้างเฟรนด์ลี่ เราเห็นทุกคนเป็นเพื่อนจนบางคนอาจจะลืมจุดที่ว่า เออ มันสมควรมั้ยไป แล้วกลับไปขึ้นรถตู้เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนชอบ (หัวเราะ) พอหลังจากงานนี้เราก็คุยกันว่าจ้างนักกล้ามมาเป็นการ์ดดีกว่า
นนท์ : ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นอาจจะหนักกว่าเดิมก็ได้นะ โดนกล้ามๆ เลย (หัวเราะ)
โบ๊ท : โดนไอ้กล้ามนั่นน่าจะหนักกว่าเดิม โดนแฟนเพลงสบายใจกว่า (หัวเราะ)
มุมเครียดๆ กับสมเกียรติ
บอส : เวลาเครียดๆ เราก็จะเติม (หัวเราะ) เติมไฟให้กัน บางทีผมก็เติมให้คุณโบ๊ท
โบ๊ท : คุณก็พยายามส่งอะไรแบบนี้มาให้ผมเล่นอยู่เรื่อย (หัวเราะ)
นนท์ : เวลาเครียดๆ บางทีเราก็ต้องคุยกันบ้าง หรือไม่ก็ต้องเลือกจังหวะคุย อารมณ์นี้ไม่เหมาะที่จะคุยตอนนี้ ก็ต้องรู้จังหวะเพราะทุกคนมีช่องว่างของแต่ละคน
แผนการของสมเกียรติ
สมเกียรติ : จริงๆ เราเริ่มขึ้นเพลงใหม่กันแล้ว อัลบั้มหน้าอาจจะมี Nu Metal (หัวเราะ) เร็วๆ นี้ก็น่าจะมีเพลงคัฟเวอร์สักเพลง ส่วน EP โชวห่วยก็อยากให้ทุกคนอุดหนุนเยอะๆ นะครับ เราตั้งใจทำยันพวกแพ็คเกจเลย ก็ติดตามพวกเราในเพจพวกเรา เจอตามงาน หรือเพจ ของ Smallroom ได้เลยครับ
ขอขอบคุณ : แน็ค smallroom ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ครับ