นี่คือชื่อวงดนตรีที่ถ้าใครเป็นสาวกสายอินดี้ตัวจริงๆ ล่ะก็ การไม่เคยได้ยินชื่อพวกเขาน่ะเป็นเรื่องแปลก หนึ่งในวงที่อยู่กับวงการอินดี้มายาวนาน และเมื่อพูดถึงอินดี้ เราอาจจะคิดถึงคอมมิวนิตี้ที่มัน ดูเก๋ ชิคๆ คูลๆ แล้วภูมิจิตในฐานะตัวพ่อแห่งวงการอินดี้ พวกเขาจะเป็นอย่างไร เข้าถึงยาก แนวขนาดไหน บางทีนี่อาจจะเป็นบทสัมภาษณ์ที่อาจจะทำให้คุณต้องมองวงสายอินดี้ซะใหม่ก็ได้ เพราะพวกเขาคือเพื่อชีวิต!!!
Midlife
ภูมิจิต : เพลงล่าสุดของเราชื่อ “ปัจจุบัน” เพลงนี้เป็นเพลงที่เอาไว้ปิดอัลบั้ม Midlife อัลบั้มนี้จริงๆ เนื้อเพลงมันต่อเนื่องกัน มันว่าด้วยชีวิตหนุ่มคนนึง ซึ่งกำลังพยายามทำอะไรบางอย่างเพลง ปัจจุบัน เป็นเพลงปิดที่จะเล่าว่าผู้ชายคนนี้เขาได้ความคิดที่ตกผลึกแล้ว ซึ่งความคิดนั้นก็คือการทำงานหนักที่ผ่านมาทั้งหมดเพราะเรามีคนที่รัก รอเราอยู่ ซึ่งเพลงก่อนหน้านี้ก็เพราะมากๆ ทุกเพลงทุกคนควรไปย้อนฟังนะครับ (หัวเราะ) ถ้านับจากเพลงแรกคือ “ชีพจร” ซึ่งปล่อยมาปีกว่าๆ แล้ว จากนั้นก็จะไล่มาถึงเพลง “Active Income” ที่เป็นจุดพีคในอัลบั้ม จนมาเพลง “จริงๆ” ที่ MV ทุ่มทุนสร้างมากมีลิงยักษ์ 8 ตัว ต้องสู้กับลิงยักษ์ (หัวเราะ) จนมาปิดที่ “ปัจจุบัน” แต่เพลงนี้จะไม่ใช่เพลงสุดท้าย อาจจะมีซิงเกิ้ลปล่อยมาอีก “ปัจจุบัน” เป็นเพลงที่อัลบั้มนี้เดินทางมาครบปีพอดี ถ้าถามว่าการทำงานยากไหมกับอัลบั้มที่มีเนื้อหาต่อเนื่องกัน ก็ไม่ยากครับเพราะพวกเรามีความสามารถกันอยู่ประมาณนึง (หัวเราะ) จริงมันมีเพลงแค่ 3-4 เพลงแต่พอเราเห็นชุดความคิดแล้ว เรารู้สึกว่ามันเหมือนนิยายเรื่องนึง โดยมีไทม์ไลน์คร่าวๆ ส่วนดนตรีเนื่องจาก 2 อัลบั้มแรกเราโดนวิจารณ์ว่ามันดิบเหมือนเดโม่ (หัวเราะ) อัลบั้มนี้เราเลยทำให้ฟังเนี้ยบขึ้น ใช้วิธีแบบวงดังๆ อย่างการเพิ่ม Layer ของซาวด์ที่ทำให้คุณ เวลาฟังเพลงของเราจะเหมือนกับคุณฟังในโบสถ์ วัดบวรฯ (หัวเราะ) การร้องมิกซ์ให้ฟังชัดขึ้น ไม่ต้องใส่เอฟเฟ็กต์ร้อง (หัวเราะ) อัลบั้มนี้เป็นเรื่องการผ่านชีวิตของพวกเรา คือเวลาที่เราวัยรุ่น เราสามารถทิ้งทุกอย่างเพื่อทำตามความฝันได้ แต่พอเราผ่านวัยรุ่นมาประมาณนึงเราจะรู้สึกว่าเราจะอยู่ในช่วงชีวิตที่ต้องดูแลทุกอย่างให้ได้ทั้งความฝันและคนข้างหลัง อัลบั้มนี้อาจจะเป็นอัลบั้มคลาสสิคในอีก 20 ปีก็ได้
“ภูมิจิต” กับการเดินทางไป “สนามหลวง”
ภูมิจิต : วงเราเริ่มจาก “กานต์” กับ “พุฒิ” เรียน ม.เกษตรมาด้วยกัน ก็ทำวงกันมา คือพุฒิจะแต่งเพลงไว้อยู่ก็เลยชวนๆ กันมา ช่วงแรกก็เปลี่ยนสมาชิกกันอยู่ จนมาลงตัวมี “บอม” กับ “แม็ก” ก็ร่วม 10 ปีแล้วกับไลน์อัพนี้ เรามาอยู่สนามหลวงได้ เพราะตอนแรกที่เราทำอัลบั้มนี้มันถูกดองอยู่พักนึง เกิดจากที่อัลบั้มนี้คอนเซ็ปต์มันแข็งแรงจนมันบิดอะไรไม่ได้เลย ทำให้ไม่มีใครกล้าทำ จนสนามหวง ที่มีพี่ตุล กับพี่ทวน มาคุยกับพวกเราว่าตอนนี้สนามหลวงเปิดโมเดลใหม่ๆ น่าจะเข้าทางกับพวกเรา ก็เลยมาคุยกับสนามหลวง เป็นโมเดลที่พวกผมเฝ้าหามาตลอด 50 ปี (หัวเราะ) ล้อเล่นๆ นั่นก็คือเราเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง แล้วสนามหลวงดูแลในส่วนที่ไกลกับวง เช่นการ PR ซึ่งโมเดลนี้ เป็นโมเดลที่เหมาะกับเรามากๆ
ภูมิจิต ชิคๆ คูลๆ
ภูมิจิต : จริงๆ วงเราเป็นบอยแบนด์ ที่มีเนื้อหาเพื่อชีวิต หรือเป็นวง ชิคๆ คูลๆ ที่เพื่อชีวิตไปพร้อมกัน (หัวเราะ) อธิบายแนวทางเรายากจัง คือพวกเราเป็น 4 คนที่เท่เอามากๆ ครับ แล้วมีความเป็นบอยแบนด์อยู่ประมาณนึง พวกเราเลยสรุปว่าพวกเราเป็นเพื่อชีวิต บอยแบนด์ (หัวเราะ) เอาจริงๆ ต้องบอกว่าเราชอบคำว่าเพื่อชีวิต คำว่าเพื่อชีวิตก็คือ เพื่อชีวิตเรา เราทำเพื่อหวังให้มีรายได้เลี้ยงตัวเอง ถ้ามันไปโดนใจใครสักคนที่ฟัง ก็เป็นเพลงเพื่อชีวิตของของเค้าไปด้วย ซึ่งเพื่อชีวิตในปัจจุบันมันก็ไม่ใช่ว่าจะต้องโพกผ้าขาวม้า ใส่ยีนส์ นั่งโรงเบียร์ มันอาจจะเล่าเรื่องของการขึ้นรถไฟฟ้า เลื่อนหน้าฟีดไปมา การนั่งรถเมล์สาย 29 ไปทำงาน มันก็เป็นชีวิตที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน เราก็เลยเรียกพวกเราว่าเพื่อชีวิตบอยแบนด์ได้อย่างเต็มปาก (หัวเราะ)
พี่ใหญ่ สายอินดี้
ภูมิจิต : พูดตรงๆ เลยนะครับ เราไม่ได้อยากเลือกที่จะอยู่อินดี้นะครับ เราอยากดัง แต่มันอยู่ตรงนี้เอง (หัวเราะ) มีคำวิจารณ์เราว่าภูมิจิตมีทุกอย่างของวงที่พร้อมจะดัง แต่ขาดอย่างเดียวคือเราไม่ดัง (หัวเราะ) ก็เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ โคตรสิ้นหวัง (หัวเราะ) จริงๆ อัลบั้มนี้ก็มีเพลงความรักเยอะนะครับ แต่คำมันอาจจะเข้าใจยากไปสักหน่อยอย่างเช่นมีคำว่า โมเลกุล อะตอม อยู่ในเพลง ซึ่งอันนี้น้องเฌอปรางน่าจะฟังเข้าใจนะ (หัวเราะ) หรืออย่างเราบอกว่าเรานั่งรถเมล์สาย 29 คนนั่งรถสาย 501 อาจจะไม่เก็ตก็ได้ (หัวเราะ) คือพวกเราคิดว่าบางทีคำมันอาจจะเลือกคนฟังอยู่ อีกอย่างเพลงหลายๆ เพลงของเราด้วยเนื้อหาอาจจะไม่ได้โดนใจวัยรุ่นมากนัก พี่นิค วิเชียร ฤกษ์ไพศาล เคยบอกไว้ว่าเพลงมันจะมีความเป็น “เพลงของเค้า เพลงของเรา” อยู่ เพลงที่จะดังมันอาจจะต้องเป็นเพลงที่คนส่วนใหญ่ รู้สึกว่าเป็นเพลงของเขา แต่เพลงของเราบางทีอาจจะเหมาะกับคนมีอายุหน่อย อาจจะสัก 30 ขึ้น ซึ่งตรงนี้เราวางแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ไว้เรียบร้อย (หัวเราะ) ถ้าวันนึงน้องๆ โตขึ้นมาอายุเท่าเรา เขาก็จะอิน วันนี้ที่น้องๆ อายุ 20 อีก 10 ปี เขาจะอายุ 30 เราก็จะมีแฟนเพลงเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น เขาก็จะอินกับเนื้อหาที่เกี่ยวกับการหาเงิน ไปแต่งงาน เลี้ยงครอบครัว แบบที่เราทำในอัลบั้ม Midlife ครับ จบสวยมั้ย (หัวเราะ)
ภูมิจิต อภิปรายวงการ
ภูมิจิต : ตอนนี้เรารู้สึกว่าวงการดนตรี มันสนุกมาก แต่ละวงมีทิศทางของตัวเอง การทำเพลงมันมีวิธีอีกแบบนึง สมัยก่อนต้องมีค่าย มีโปรดิวเซอร์ สมัยนี้ใครก็ทำได้อยู่ที่กึ๋น ซึ่งมันสนุกมากเราเห็นวงใหม่ๆ มากมาย แม้ว่าตอนนี้อาจจะมีวงดนตรีที่ถูกยกขึ้นมาพูดถึงน้อย แต่วงที่กำลังทำงานกันอยู่มีการแข่งขันที่เป็นมิตรภาพมากๆ ทุกคนกำลังพัฒนาวงการดนตรีไปพร้อมๆ กัน โดยการสร้างงานดนตรีดีๆ วงดนตรีใหม่ๆ มันสนุกขึ้นเรื่อยๆ อยากให้เป็นอย่างงี้เรื่อยๆ แต่สิ่งที่อยากฝากไว้อย่างนึง โดยเฉพาะในวงการการเล่นดนตรีกลางคืน อย่าตัดราคา พยายามเห็นคุณค่าในตัวเอง อย่าลดคุณค่าตัวเองด้วยตัวเงิน เพราะการลดคุณค่าของคุณมันจะส่งผลกระทบเป็นโดมิโน่ในอุตสาหกรรมดนตรีเพราะฉะนั้นจง รักษาคุณค่าของตัวเองให้ดี
The Poomjit
ภูมิจิต : ตอนนี้เราเห็นวงการฮิปฮอป แล้วเรารู้สึกชอบนะ เราเห็นศิลปินหลายคนที่ทำเพลงฮิปฮอปกันมานาน ตั้งแต่กระแสยังไม่มา จนวันนี้มันกลายเป็นแมส มีรายการ The Rapper เราเข้าใจฟีลนี้เลยนะ การทำเพลงที่คนไม่เข้าใจแล้วก็ถึงวันนึงมันกลายเป็นวันของพวกคุณ ซึ่งเราก็ยินดีด้วยจริงๆ มันเป็นการแสดงให้เห็นว่าวงการมันเปิดกว้าง ก็ไม่แน่ว่าสักวันนึงเราอาจจะมีรายการ The Synth Pop, The Shoegazer (หัวเราะ) ส่วนตอนนี้ถ้าหากว่าศิลปินแรป อย่าง Lazyloxy, Youngohm, Miyarap, Urboy TJ ใครอยากหาศิลปิน feat พวกเราพร้อมนะครับ (หัวเราะ) ขอไปด้วยคน
About ภูมิจิต
อัลบั้มล่าสุดคือ Mid Life อยู่กับค่าย “สนามหลวงมิวสิค สมาชิกประกอบด้วย
“พุฒิ” พุฒิยศ ผลชีวิน (ร้องนำ, กีตาร์)
“กานต์” เกษม จรรยาวรวงศ์ (กีตาร์)
“แมก” อาสนัย อาตม์สกุล (กลอง)
“บอม” ธิตินันท์ จันทร์แต่งผล (เบส)
ขอขอบคุณ : แม้ว / มีค ค่ายสนามหลวงมิวสิค ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ครับ