วงดนตรีที่ต้องถือว่าเป็นผู้ถือธงของวงดนตรีในสไตล์เมทัล Retrospect กลับมาพร้อมกับผลงานที่ชื่อว่า “ปีศาจ” กับดนตรีและซาวด์ที่ทำให้ทุกคนต้องทึ่ง เราก็เลยต้องมาพูดคุยถึงที่มาที่ไปของเพลง ที่เกิดมาจากเรื่องราวของโรคซึมเศร้าในเพลงนี้
ก่อนปลดปล่อย “ปีศาจ”
บอม : เพลงนี้เราเริ่มจากการแจม ทางค่ายบอกเรามาว่าพวกเอ็งไม่ได้ปล่อยเพลงนานแล้ว รีบปล่อยได้แล้ว ก็เอามาบอกที่วงตกลงว่าจะเอาเพลงเร็ว ก็มานั่งแจมกัน 4 คนเหมือนตอนที่เราทำเพลงตอนเด็กๆ ทำแล้วอัดไปด้วย ก็พอเป็นเดโม่คร่าวๆ ก็ให้ทุกคนกลับไปฟังอีกนิดหน่อยก็ออกมาได้เป็นเพลงนี้เลย เอาตรงๆ มันก็เสร็จตอนนั้นเลยนะ เพราะเพลงพวกเราเวลาแต่งกันก็เริ่มต้นจากการแจมแบบนี้แหละ ตั้งแต่ “ไม่มีเธอ” เลย เพลงนั้นก็วันเดียว ไม่ได้ทำงานเร็ว เรียกว่าทำงานชุ่ยก็ได้ (หัวเราะ) ล้อเล่นนะครับ
น็อต : จริงๆ เราเคยลองทำแบบทำนานละเอียดๆ แล้วมันออกมายังไงก็ไม่รู้ ก็เลยอยากจะจบงานแบบฟีลสดๆ ตรงนั้นให้ได้ ซึ่งเพลงเหล่านั้นมักจะเป็นเพลงที่เราโอเคกับมันมากๆ เสมอ
เรื่องราวของ “ปีศาจ”
แน็ป : เพลงนี้มันเริ่มจากสิ่งที่ผมเห็นตามหน้า Feed ตามข่าวที่เราเห็น ผมว่าเรารู้จักโรคซึมเศร้ากันทุกคน ซึ่งผมรู้สึกว่ามันถี่ขึ้นเรื่อยๆ จากเดือนละครั้งเป็น อาทิตย์ละครั้ง กลายเป็นวันละครั้งแล้วก็เป็นวันละหลายครั้ง จนเรารู้สึกว่าเราอยากพูดเรื่องนี้ถึงแม้มันอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวพวกเรา และครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะทำให้พวกเขาดีขึ้น ก็เลยสื่อมาทางเพลง และ MV ที่ได้เห็นเรื่องของครอบครัว ความยากของเพลงนี้คือการรวบรวมชุดความคิดของเรื่องโรคซึมเศร้าที่เรารวบรวมมาให้ใส่ในเนื้อเพลงยาว 3-4 นาที แล้วเพลงก็มาท่ายากด้วย (หัวเราะ) คือเพลงแม่งมาท่ายากด้วย 6 นาที เป็นลูปแบบผมก็ “กูจะเขียนอะไรในนั้นวะ” (หัวเราะ) โครงสร้างของเพลงแต่ละท่อน ร้องมันคนละเมโลดี้เลย มีมันทั้งนูเมทัล ท่อนสวยงาม ขึ้นๆ ลงๆ เพลงนี้เลยถูกตัดออกมา เพราะตอนแรกมันทำออกมาเป็นมหากาพย์เลย กะว่าจะเป็นโปรเกรสซีฟเลย
บอม : ก็เพลงมันเกี่ยวกับอารมณ์ที่มันเปลี่ยนแปลงไงเพลงเลยขึ้นๆ ลงๆ (หัวเราะ)
แน็ป : มึงอย่ามั่ว ตอนนั้นทำดนตรีมายังไม่มีคอนเซ็ปต์ (หัวเราะ) แต่สุดท้ายก็ออกมาแบบที่ได้ยิน
ผู้ร่วมสร้าง “ปีศาจ”
บอม : เพลงนี้อัดที่ห้อง Kandee Ztudio ของ พี่อ๊อฟ Big Ass แล้วก็ได้ฮาย Paper Planes มาช่วย คือเรารู้จักฮายมานานมาก ตั้งแต่เขายังไม่ได้ทำวง Paper Planes เลยก็ค่อนข้างรู้ใจพวกเรา อยากทำซาวด์อารมณ์ประมาณนี้นะ ก็จัดให้ได้เลยทำงานด้วยง่าย เข้าใจง่าย มีไอเดียมาเสนอตลอด แต่พวกเรากับฮายทำงานกันค่อนข้างเร็วอยู่แล้ว เราไปทำงานบ้านฮาย 3-4 โมง
น็อต : นั่งกินพิซซ่า นั่งโม้กันอีกเป็นชั่วโมง (หัวเราะ)
บอม : แต่ 5 ทุ่มเที่ยงคืนก็เสร็จนะ
เบิร์ธ : ส่วนกลองก็ประมาณ 4 ชั่วโมง นั่งโม้เยอะกว่าไมค์กิ้งอีก (หัวเราะ)
แน็ป : มันเบียดเวลาอัดร้องผมไปด้วย (หัวเราะ) ของผมส่วนที่ยากคือตอนร้องแรพกึ่งว๊าก เพราะคำมันละเอียดมากซึ่งเป็นการร้องแบบใหม่ที่ไม่เคยร้อง แต่ก็อัดเพลงนี้ประมาณ 2 ชั่วโมง การร้องแบบนี้ผมไม่เคยทำ แต่ว่ามันก็อยู่กับเรามาตลอด เราโตมากับนูเมทัล พวก Limp Bizkit, Linkin Park, Korn แต่กลายเป็นว่าเราไม่เคยได้ใช้มันเลย พอเราเขียนเนื้อเพลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็รู้สึกว่ามันควรมีที่ระบาย ซึ่งบาร์ที่จะลงกับเนื้อเพลงมันไม่พอ
บอม : เราตั้งใจจะให้ท่อนนี้เป็นท่อนดนตรีให้คนมันๆ กัน ปรากฏว่าแน็ปมันไปใส่ท่อนนี้กลายเป็น เฮ้ย!! มันเดือดขึ้นอีก
น็อต : ส่วนกีตาร์ก็ไม่อัดให้มันมี Layer มากเกินไป ไม่อัดแล้วซ้อนไลน์เหมือนสมัยก่อนแล้ว ก็พยายามทำทุกอย่างให้น้อยลง
บอม : อีกอันก็จะเป็นส่วนที่ฮายมาช่วยเรื่องซาวด์ อย่างเสียงแปลกๆ ในเพลงก็จะเป็นเสียงเหมือนเหล็กกระแทกมากกว่าซาวด์สังเคราะห์ จะออกอินดัสเตรียลหน่อยๆ
หลังจากปลดปล่อย “ปีศาจ”
บอม : จริงๆ เรามีเดโม่อยู่ 2-3 เดโม่นะ แต่พอทำอะไรเสร็จมาสเตอร์เรียบร้อย พี่น็อตพูดเลยว่าสบายใจมากๆ (หัวเราะ)
น็อต : คือเพลงนี้ไฟมันลนก้นมากๆ (หัวเราะ)
บอม : ที่ผ่านมาเราทัวร์กันหนัก แล้วพอทัวร์เสร็จกลับมาทุกคนก็เหนื่อย ต่างคนต่างมีภารกิจของตัวเอง จะรวมกันทำเพลงก็ลำบาก คราวนี้พอเรามารู้อีกว่าอีก 2 อาทิตย์ต้องเสร็จนะ ค่ายบอกมาแบบนี้ ตอนนั้นเราก็ยังไม่มีเพลง (หัวเราะ)
เสียงชื่นชม “ปีศาจ”
แน็ป : ฟีดแบ็คเพลงนี้ผมดีใจที่มันค่อนข้างไปทางบวกนะ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือเราไม่โดนไปบอกว่าเหมือนวงไหน
บอม : ใช่ๆ มันเป็นเรื่องน่าเบื่อนะที่แบบใครก็ไม่รู้มาบอกว่าเหมือนวงนั้นวงนี้ แบบต้องลากวงนี้มาเหมือนให้ได้ เราดีใจนะที่บางคนบอกเหมือน Retrospect ยุคเก่า แบบนี้ยังดีซะกว่า
แน็ป : เพลงนี้มันเป็นธรรมชาติมากครับ เพราะมันไม่ได้ถูกประดิษฐ์หรือตั้งเป็นเรฟเฟอร์เรนซ์ขึ้นมา มันแค่ทุกคนเข้าไปทำงาน ต่างคนต่างทำออกมา เพราะฉะนั้นเพลงมันก็ไม่ไปแตะกับอะไร มันเป็นสิ่งที่พวกเราแต่ละคนมีกันอยู่แล้ว
ปีศาจที่สิงสู่ในตัว Retrospect
บอม : ของผมเป็นปีศาจอารมณ์ร้อน ผมชอบบางทีหงุดหงิดเรื่องอะไรเล็กๆ เร็วจนเกินไป พอรู้สึกตัวอีกทีก็แบบ เฮ้ย! เรื่องมันนิดเดียวเอง ซึ่งหลังๆ ผมก็พยายามเย็นขึ้นมากๆ 2-3 ปีหลังผมว่าเย็นขึ้นบ้าง แต่ก็ยังมีแบบหลุดๆ บ้าง น่าจะเป็นปีศาจที่หนักหน่วงที่สุดของผม
เบิร์ธ : ของผมเป็นปีศาจใจเย็น คือมันเย็นจนเฉื่อย ชอบทำอะไรชิล จนเอื่อยเกินไป แต่จะใจร้อนเวลาขับรถ ไม่รู้ป่านนี้จะลงเพจเฮียขับรถหรือยัง (หัวเราะ) บางทีปีศาจของผมก็อาจจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการขับรถบนท้องถนนก็ได้
น็อต : ของผมเป็นเรื่องหักห้ามใจตัวเองเวลาอยากได้ของอะไร จะแบบกระวนกระวายจะเอาให้ได้ บางทีพอเราใช้เงินเกินตัวพอบิลบัตรเครดิตปลายเดือนมาหงายหลังเลย
แน็ป : ของผมเป็นปีศาจทางความคิด คือบางทีข้อมูลเราเยอะจนบางทีเรา คัดกรองลำบากแล้วคราวนี้ด้านดาร์คไซด์ที่เรามีอยู่ มันผุดขึ้นมาแล้วมันน่ากลัวมาก ซึ่งเราไม่ได้ใช้มันนะ แต่มันติดอยู่ในความคิดวนเป็นลูป แต่ทุกวันนี้ดีขึ้นมากนะครับ เพราะเราเริ่มจัดสรรความคิดได้มากขึ้น
มโนภาพหน้าตาของ “ปีศาจ”
บอม : ก็น่าจะมีรูปร่างเป็นตัวผมนี่แหละ เพราะทุกสิ่งเราทำด้วยตัวเอง แต่เรามองไม่เห็นตรงนั้นมากกว่า ถ้าเราได้เห็นผมว่ารูปร่างมันไม่ต่างจากตัวเราหรอกแต่เป็นตัวเราที่ควบคุมไม่ได้
น็อต : ขอเท่หน่อยๆ ละกัน ของผมจะเป็นตัวดำๆ แต่ใส่ชุดเกราะเซนต์เซย่าสีทอง (หัวเราะ)
แน็ป : ภาพแรกที่ผมคิดออกเลยคือเป็นโคโยตี้เรียงกัน 4 คน (หัวเราะ) แต่ทุกคนหน้าเครียดอยู่ข้างหลังพวกเราเหมือนใน MV ศรัทธาแห่งรัก เป็นความยั่วยวนกิเลสเรา
เบิร์ธ : ของผมจะเป็นผี เหมือนในหนัง ผี ทวง บ้าน (หัวเราะ) คือเหมือนในหนังมันจะแบบมากระซิบข้างหลังตลอดว่า “ฆ่ามันๆ จับมันๆ”
แน็ป : ผมว่าเราต้องเรียกตำรวจมาจับเบิร์ธแล้วล่ะ (หัวเราะ)
แน็ป Retrospect ผู้นำแห่งการว๊าก
แน็ป : จริงๆ แล้วในสายเพลงของพวกเรา ทุกคนจะรู้อยู่แล้วว่ามีอีกหลายวงที่เป็นที่เคารพจากพวกเรา ไม่ว่าจะเป็น Dezember, Ebola หรือใครก็แล้วแต่ เราแค่โชคดีที่เราอยู่ค่ายใหญ่ทำให้คนรู้จักเราเยอะมากขึ้น มันก็ทำให้ดูทีวีก็จะกลายเป็นผมคนเดียวที่ไปยืนในภาพใหญ่ๆ รวมๆ ซึ่งเวลาใครมาบอกผมว่าเป็นผู้นำการว๊าก ผมจะพูดเสมอว่า มีวงรุ่นพี่เราอีกมากที่เป็นสไตล์นี้ และเป็นไอดอลของเรา ผมว่าต้องยกความดีความชอบให้พี่ๆ ทั้งหมดไม่ใช่แค่ผมคนเดียว
แฟนๆ ปีศาจที่น่ารักของ Retrospect
แน็ป : บางทีก็มีนะมาถามผมว่า “เพ่ ว๊ากยังไง” บางทีผมก็เหนื่อยสัสๆ นั่งพักกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ “ว๊ากหน่อยๆ” กูเผ็ดจะตายห่า (หัวเราะ) คือกูรู้ว่ามึง Respect กูแหละ แต่ดูกาลเทศะบ้าง มีเยอะ (หัวเราะ)
บอม : แล้วบางทีชอบร้องเพลงเข้ามาก่อน อยู่ๆ เดินผ่านหน้าก็ร้อง “เพราะว่ารัก…” (หัวเราะ) เราเข้าใจนะว่าเขารักเราแหละ แต่ไม่รู้ว่าจะมาคุยยังไง แล้วที่ตลกคือผมนึกว่าเป็นแค่กับคนไทย ตอนนั้นไปเล่นที่มาเลเซีย มันก็มีวงที่ทัวร์ด้วยกัน มาร้องเพลงใส่เรา ก็เลย เออ มันไม่ได้เป็นเฉพาะคนไทยนี่หว่า (หัวเราะ)
เบิร์ธ : ผมเคยนั่งกินข้าวกับพี่น็อต มาถึงว๊ากใส่เลย (หัวเราะ) ตกใจเลย นึกว่าโดนเล่นแล้ว (หัวเราะ)
น็อต : พีคสุดคือผมเจอแบบนั่งกินข้าวแล้วมีเพื่อนบ้านมาถึง พูดแบบ เฮ้ย!! เรทโทรฯ เหรอเดี๋ยวกระทืบแม่งเลย (หัวเราะ) เฮ้ย นี่ความผิดเราเหรอวะ คือเราไปกินอาหารตามสั่งบ้านแม่เค้าด้วยนะ จนทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น อาจจะเป็นปีศาจของเค้า แต่เรากลัวโดนกระทืบจริง (หัวเราะ)
จากใจแน็ป
แน็ป : มีน้องๆ ที่คาดหวังเรื่องพวกคำคมหรืออะไรจากผม เอาจริงๆ สาบานเลยคือผมเป็นคนที่ไม่ได้ขนาดต้องเตรียมมากมายอะไรขนาดนั้น โอเคมีเตรียมมาพูดบ้างบางงาน แต่ผมจะชอบอารมณ์สดๆ ตอนนั้น ผมจะชอบมากเวลาที่ผมพูดอะไร แล้วทำให้ทุกคนหลุดขำได้บนเวที มันจะรู้สึกสะใจดี (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นอย่าคาดหวังครับ ถ้าอยากโดนด่า เดี๋ยวผมด่าเอง ถ้าสนุก เดี๋ยวสนุกเอง ปล่อยตัวตามสบายครับ (หัวเราะ) ส่วนเด็กๆ ที่เล่นเมทัลทุกวันนี้ผมว่าเก่งกันมาก ซึ่งบางทีผมรู้สึกว่ามันก็เพียงพอกับการสร้างงาน คราวนี้ถ้าผมย้อนกลับไปเป็นเด็กก็อยากทำเหมือนเดิม คือทำให้คนมองเมทัลในมุมใหม่ๆ มากขึ้น ฉะนั้นเรามีวิธีทำยังไงที่จะเชิญชวนหรือเรียกแขกเข้ามา ผมว่าใส่สีสัน ใส่เมโลดี้เข้าไปบ้างเป็นบางพาร์ทก็ได้ มันเชิญชวนให้เขาร้องตามได้ เชิญชวนให้เขาติดตามเราได้ แล้วเดี๋ยวคนจะรักเสียงสครีมของเราเอง
ขอขอบคุณ : โอ๋ genie records ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ครับ