ชีวิตคนเราบางทีมันก็เหมือนกับการขับรถไปข้างหน้า การเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ ไม่ได้หมายความถึงการตะบี้ตะบันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อให้ถึงจุดหมาย แต่ความหมายของการไปข้างหน้าอาจจะเป็นการเก็บเกี่ยวความสุขระหว่างทางก็ได้ ชีวิต ของ แด๊กซ์ Rock Rider (เอกรัตน์ วงศ์ฉลาด) ก็เช่นกัน เราคงไม่ต้องสาธยายอดีตย้อนหลังกันให้มากความ สิ่งสำคัญกว่า คือผลงานที่เขาทำในปัจจุบันคืออะไร และสะท้อนความคิดอะไรออกมา เขายังเป็นผู้ชายคนเดิมที่ทุกคนชอบเขานั่นแหละ หรือถ้าใครจะไม่ชอบ เขาก็ยังเป็นคนเดิมที่ไม่ทรยศความรู้สึกตัวเองอยู่ดี ในวันนี้หลังจากเรื่องราวมากมาย ผลงานและวิธคิดของ Rock Rider ผู้นี้จะเป็นยังไงบ้าง สำหรับแฟนๆ ของเขามาดูกันได้เลย
ครึ่งฝัน
แด๊กซ์ : ก็เป็นเพลงล่าสุดของผมครับ เพลงนี้ก็ทำงานกับทีมเดิม ฟองเบียร์ พี่เก่ง พี่โอ่ง Ghost ก็เป็นทีมที่มีเคมีตรงกัน เพลงนี้ตั้งใจอยากให้มีอารมณ์ด้านบวกมากขึ้น เพราะ 2 เพลงแรกมันค่อนข้างหม่นหมอง เพลงนี้ก็อยากให้คิดบวกขึ้นมา แม้เพลงนี้จะเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านความรัก แต่สิ่งที่ผมอยากสื่อสารจริงๆ ก็เป็นเรื่องการใช้ชีวิตนั่นแหละ เพลงนี้เริ่มคิดจะทำตอนปลายปีที่แล้ว คือผมคุยกับฟองเบียร์ตลอด ก็บอกเขาไปว่า เฮ้ย! เพลงกูอ่ะได้เวลาแล้ว (หัวเราะ) เบียร์ก็เลยไปสถานที่ลับๆ เวลาเขาแต่งเพลง พอเสร็จแล้วก็ส่งเป็นคลิปแบบสดๆ มาให้ฟัง ผมก็ต้องเงี่ยหูฟัง (หัวเราะ) ก็พอได้โครงเสร็จเอาไปคุยกับพี่เก่ง พี่โอ่ง เรื่องดนตรี ก็เอาแบบเรียบง่าย เพราะแฟนเพลงผมจริงๆ น่าจะเป็นคนที่ฟังเพลงแบบอะไรที่มันรับง่ายๆ ก็คงไม่ได้ไปโชว์ดนตรีให้มันหวือหวาอะไร เน้นสื่อสารผ่านเนื้อเพลงมากกว่า ใจความสำคัญของเพลงนี้คือโลกแห่งความฝันคุณวางเป้าหมายได้ แต่โลกแห่งความจริงมันไม่ค่อยเข้าข้างเราสักเท่าไหร่ โลกความจริงมันทั้งโหดร้าย ทั้งหยาบคาย ถ้าวันนึงทั้ง 2 อย่างมันต้องมาบรรจบกันคุณจะรับมือมันยังไง คือทุกคำในเพลงนี้มันโดนเลย อย่างคำว่ารัก มันเลี้ยงใครไม่ได้ มันก็เจ็บนะ หลายๆ คนก็คงเคยรู้สึกแบบนี้
MV แบบทำให้ทุกคนคิด
แด๊กซ์ : ถามว่าทำ MV มาตั้งใจให้คนพูดถึงมั้ย ก็บอกไปเลยว่าใช่ (หัวเราะ) เอาจริงๆ เราก็คัดเลือกนักแสดง คุยโครงเรื่องไว้หลายแบบ ตอนแรกกะจะทำแบบเพลงลูกทุ่งเลยอยู่ห้องเช่า กินหมูจุ่มอะไรแบบนั้น ซึ่งเวลาที่ตัดสินใจเลือกจะทำอะไร ผมก็จะคุยกับเบียร์เป็นคนแรก ดังนั้นเบียร์ ถ้าเป็นอะไรมึงก็รับผิดชอบด้วยนะ (หัวเราะ)
แด๊กซ์ FC
แด๊กซ์ : ช่วงหลังๆ ไปทัวร์ผมก็ได้เจอแฟนเพลงเก่าๆ รวมถึงแฟนเพลงใหม่ๆ ก็เยอะนะ บางคนเรียกผมลุงแล้ว (หัวเราะ) อย่างมีพ่อแม่เด็กบางคนพาลูกมาดู ก็เขามาดูผมตั้งแต่เขาเรียน จนแต่งงานกัน มีลูกก็พาลูกมาดู เรียกว่าถ่ายทอดมาเป็นรุ่นๆ ซึ่งผมก็ดีใจที่ได้เห็นแฟนที่อยู่ด้วยกันมายังคงคิดถึงผมแล้วก็มีแฟนรุ่นใหม่ๆ ที่ร้องเพลงใหม่ๆ ของผมได้ มันทำให้ผมรู้สึกว่าดนตรีมันไม่มีพรมแดนไม่มีอายุ ถ้าเพลงมันฟังแล้วเข้าถึงพวกเขาได้เราก็สามารถเชื่อมต่อกันได้
นักร้องนักรัก(ษ์)
แด๊กซ์ : ตอนนี้ผมไม่ค่อยได้ขี่มอเตอร์ไซค์ไกลๆ แล้ว จะเอารถใส่กระบะไป ขี่ไม่ไหวอากาศมันร้อนขึ้น คนไทยใช้รถใช้ถนนเยอะขึ้น คนไทยยังเหมือนเดิมครับเราขาดเรื่อง จิตสำนึกบนท้องถนน และในท้องถนนของเรามันมียานพาหนะรวมกันมากเกินไป ผมเคยไปคุยกับสำนักเกี่ยวกับการจราจร มันแก้ไม่ได้ครับ เราเอาทุกอย่างรวมกันบนถนนไม่รู้จะเอาออกยังไง มันเป็นปัญหาระดับชาติ เหมือนเรื่องขยะ วันนึงเราทิ้งขยะมีพลาสติกเยอะขนาดไหนลองแยกมันออกมาดู ผมแยกขยะมาเกือบ 2 ปีแล้ว อย่างเรื่องขยะพลาสติกเนี่ย คิดดูว่าสมมติซื้อกับข้าวตามตลาดมา 5 ถุง มันจะมีพลาสติกเยอะขนาดไหน การเปลี่ยนจิตสำนึกสาธารณะนี่เรื่องใหญ่นะ ผมเนี่ยดัดจริตมากนะ ผมแยกขยะมานานแล้ว (หัวเราะ) ผมลองใช้ถุงผ้ามาจะ 2 ปีแล้ว มีเรื่องตลกมากคือผมถือถุงผ้าเดินเข้าเซเว่น ใช้ถุงผ้าใส่ของ ทุกคนปรบมือบอกขอบคุณพี่แด๊กซ์มากค่ะที่ช่วยพี่ตูน (หัวเราะ) คือผมก็อยากให้ทุกคนลองทำดูผมว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ เวลาไปเที่ยวผมก็ยังแยกขยะเลย ลองทำดูเถอะเดี๋ยวมีคนเห็นก็ต้องมีคนทำตามแหละ ว่าแต่นี่เกี่ยวกับเรื่องเพลงผมตรงไหนเนี่ย (หัวเราะ)
ปาร์ตี้กับชาวแก๊ง
แด๊กซ์ : ล่าสุดผมไปเที่ยวกับพี่หรั่ง พี่รัตน์ Silly Fools ไปแพ บ้านพี่รัตน์ พี่ 2 คนก็เปิดคอนเสิร์ตให้ผมได้ชม (หัวเราะ) ซึ่งทั้ง 2 คน ก็จัดบทเพลงของคาราบาวให้ผมฟังอยู่ 2 ชั่วโมงเต็ม (หัวเราะ) ไม่รู้ไปขุดเพลงมาจากไหน บางเพลงผมก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน เพลงลึกมาก ซึ่งปาร์ตี้แบบนี้ก็ดีนะ พี่รัตน์เนี่ยผมให้ติ๊ปแกประจำ เรื่องจริงนะ (หัวเราะ) เวลาไปเที่ยวแล้วเสิร์ฟชาเขียวให้แก แกจะกลายเป็นศิลปินเพื่อชีวิตเลย (หัวเราะ) พี่หรั่งเหมือนกันพอได้ชาเขียวไปเสียงแกจะสูง จะเป็นนักร้องเลย (หัวเราะ) ตอนนี้เหลือไอ้แป๊ะ (ต้น Silly Fools) ที่ยังหลอกล่อมันมาลำบากไม่ได้ ตอนชวนไม่มาแต่เวลาไปไหนเสือ..อยากจะรู้ตลอด (หัวเราะ) ครั้งก่อนหลอกเจ้าริมมี่ (ริม Silly Fools) ไปขี่รถวิบากได้ ไอ้แป๊ะก็เข้ามาแบบ มันรถล้มหรือยัง ร้องไห้หรือยัง เดี๋ยวก่อนเถอะ (หัวเราะ) ตอนหลังเรามีต่อเรือออกเรือเองแล้ว แม้ไปรอบแรกเรือจะพังก็ตาม (หัวเราะ) แต่เห็น แป๊ะ บอกอยู่ว่าแบบนี้พอไหว เดี๋ยวต้องหลอกมาให้ได้สักรอบ (หัวเราะ)
“เบื่อ” วงการเพลง
แด๊กซ์ : ผมผ่านจุดนั้นมาแล้ว ช่วงอายุ 30 หลายๆ คนอาจจะเป็นเหมือนกันแต่ผมเลยจุดนั้นมาแล้ว อย่างเรื่องเสียงที่เคยโดนวิจารณ์ ตอนนี้เราก็รู้วิธีคอนโทรลแล้ว ผมว่ามันมีน้อยคนที่จะร้องเพลงได้เหมือนเดิมนอกจากจะเป็นโปรฯ เรื่องนี้จริงๆ ก็ผมก็ต้องปรับตัวเอง ส่วนเรื่องคอมเมนท์ต่างๆ ไม่ต้องห่วงครับ ทุกคนในโลกโดนอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่ ให้มันด่าไป ไอ้สั..ขยันด่าก็ด่าไป (หัวเราะ) เอ้าจริงๆ นะ ขนาด Game Of Thrones Season 8 คนยังด่าฉิบหายวายป่วงเลย แต่ก็ดูกันจนจบ (หัวเราะ)
ขอขอบคุณ : จ๋า Muzik Move ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ครับ