เห็นทีเซอร์กันไปบ้างแล้วกับเฟสติวัลชื่อเก๋ “สนามหลวงสวนสนาม” โปรเจ็กต์ใหญ่ส่งท้ายปีของค่ายสนามหลวงมิวสิค ที่จัดใหญ่รวมศิลปินหลายสิบศิลปินขุ้นแสดงบนเวที และพิเศษด้วยการแจมกันของศิลปินหลากหลายแนว 19-20 ตุลาคมนี้ แต่เดี๋ยวก่อน!!! ถ้าคุณซื้อบัตรภายใน 31 พ.ค. / 1 มิ.ย. / 2 มิ.ย. สามวันนี้ จะขายเพียง 900 บาทเท่านั้น!!! อย่าพลาด อย่าช้า ของดีราคาถูก แต่จุดเริ่มต้นของเฟสจิวัลนี้จะออกมาเป็นแบบไหน เราชวนพี่เปิ้ล หัวเรือใหญ่แห่งสนามหลวงมิวสิค และพี่ตุล อพาร์ตเมนต์คุณป้า มาคุยกันถึงงานใหญ่งานนี้สักหน่อย
ที่มาที่ไปของสนามหลวงสวนสนาม
พี่เปิ้ล : จากปีที่แล้วที่เราประกาศตัวไปว่าเป็น Hub Of Indy มันก็จะเป็นสนามเปิดกว้างให้กับศิลปินที่จะมาอยู่ด้วยกัน แล้วปีที่แล้วก็จะมีงานWedding Party อย่างที่เราเคยได้เล่าให้ไปว่าเราจะมีสนามลองของ, สนามปล่อยของ, สนามโชว์ของ ลองของเนี่ยปีนี้เราก็ทำเรียบร้อย แล้วก็ปล่อยของตั้งต้นปีมาจนถึงตอนนี้ไตรมาสแรกก็มีศิลปิน 20 กว่าวงแล้ว ตอนนี้ถ้ารวมๆ ทั้งหมดก็ 50 กว่าวง
ตุล : คือจริงๆ เดี๋ยวนี้มันก็มี Flexible (คล่องตัว) มากขึ้น คือว่าศิลปินยุคใหม่ที่ไม่อยากเซ็นสัญญาแบบผูกมัน คือดีลกันที่ว่าคุยกันเป็นเพลงๆ แล้วเนี่ยคนรุ่นก็จะชอบทำให้งานแพร่หลาย ก็เลยมาอยู่กันแบบเยอะ เรียกว่าอยู่ก่อนแต่ง หรือไม่ต้องสมรสก็ได้ (หัวเราะ) มันก็จะ Flexible สำหรับวงบางวงเขาอยากจะเซ็นสัญญาเป็นจริงเป็นจังก็ได้ วงบางวงอยากจะคุยกันเป็นเพลงๆ ก็ได้
พี่เปิ้ล : แต่ที่นี้มันก็จะมีจุดๆ นึงที่เราเพิ่มมาก็คือสนามโชว์ของ ก็คือเราก็จะบอกน้องเสมอว่าความสุขของนักดนตรีก็คือต้องมีที่เล่น มันก็จะมีHashtag อยู่อันนึงที่ชอบกันในบ้านเราก็คือ “อยู่กับพี่ต้องมีที่ให้เล่น” มันก็เลยเป็นที่มาว่าเราก็จะชวนศิลปินที่อยู่กับเราไปเล่นตามที่ต่างๆ เราก็เลยคิดว่าถ้าปีนี้จะทำให้สนามโชว์ของมีที่เปิดกว้างมากขึ้น เลยได้จัดงานและใช้ชื่อว่า “สนามหลวงสวนสนาม” มันก็คือมาสวนกัน
ตุล : ก็จะมีศิษย์เก่าที่เคยอยู่สนามหลวง มีเพื่อนฝูงที่ไม่ต้องอยู่ก็ได้ เราก็ชวนกันมาได้
พี่เปิ้ล : มันก็เลยแบ่งเป็นศิษย์เก่า ปัจจุบัน แล้วก็เพื่อนสนามหลวง แต่ทีนี้เราก็เลยมามองว่าเราได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงเก่าพี่ตุลก็คือ “กำแพง”
ตุล : แต่ว่ายุคนี้ การร่วมงานข้ามค่ายมันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว มันไม่เซอร์ไพรส์แล้วล่ะ หรือว่าข้ามสายเพลงเมื่อก่อนอาจดูตกใจว่าข้ามได้ยังไง ตอนนี้จะเอาป็อปร็อคไปผสมกับเมทัล แรพกับแจ๊ซ กับอิเล็กทรอนิกส์ เฮ้าส์ ได้หมดแล้ว ตอนนี้ก็เป็นเรื่องปกติที่ใครก็ทำกัน แล้วนักดนตรีไม่ว่าจะอยู่สังกัดไหน หรือไม่มีสังกัด มันก็ไม่ใช่ประเด็นแล้ว ทุกคนก็ทำงานร่วมกันได้
พี่เปิ้ล : ที่นี้เวลาเขาทำเฟสติวัลกัน เราสังเกตเห็น อันนี้เฟสติวัลในกระแสนะ อันนี้เพลงฮิตนะ อันนี้เฟสติวัลอินดี้นอกกระแสนะ เราก็คุยกับพี่ตุลทำไมไม่เอามารวมกันล่ะ
ตุล : ผมว่ายุคนี้ไม่ว่าคำว่าแมสหรืออินดี้หรือป็อปหรือนอกกระแส คนทุกคนรู้จักรสนิยมตัวเองแล้ว ผมเชื่อว่าตรงนั้นเวลาเราจะฟังเพลงอะไรสักอย่างเพราะเราชอบแล้ว ไม่ได้อยู่ว่าในหรือนอกกระแสแล้ว
รูปแบบงานคอนเสิร์ต
พี่เปิ้ล : ที่เราคุยกันก็คือจัดกันในห้องแอร์ดีกว่า ที่จอดรถง่ายๆ เดินทางสะดวกสบาย นั่งรถไฟฟ้ามาก็ได้ เลยจะจัดที่ GMM LIVE HOUSE เซ็นทรัลเวิลด์ และคุยกันต่อว่าน่าจะมีสักสองเวที เวทีสำหรับศิลปินพี่ๆ เวทีเล็กสำหรับศิลปินน้องๆ เพราะว่าเราก็สนับสนุนเขา บอกว่าอยู่กับพี่มีที่ให้เล่นเพราะฉะนั้นก็มีที่ให้เขาแสดง
ยกตัวอย่างศิษย์เก่าสนามหลวงมีใครบ้าง
ตุล : อย่าง “อะตอม” ก็เคยอยู่สนามหลวงนะ “ไทยเทเนียม” ก็เคยร่วมงานกับสนามหลวงนะ
พี่เปิ้ล : Thaitanium เคยออกอัลบั้ม Thailand Most Wanted แล้วก็ลุลา ตุ๊กตาหน้ารถ สมัยรุ่นพี่เต๊ด แล้วก็มี Jetset’er และ getsunova
วิธีเลือกศิษย์เก่า
ตุล : เราก็จะจำๆ กันได้ครับ
พี่เปิ้ล : พี่ตุลจะอยู่คาบเกี่ยวระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่ มันก็คุยกันได้ เพราะอย่าง “ลุลา” เขาความจำดีมาก แม่นมากเขาจะจำได้ว่ายุคไหนคือยุคไหน
ตุล : สมัยก่อนเราจะปาร์ตี้กันบ่อย แบบว่ามีงานเจอกันเดือนละครั้งอะไรแบบนี้ ถึงแม้ศิลปินไม่ได้อยู่สนามหลวงเจอกันก็ยังผูกพันเจอกันก็แฮปปี้กันตลอด
พี่เปิ้ล : อย่างบางทีเจอกันที่ White Music ก็ยังแวะเวียนกันเข้ามาเข้ามาถ่ายรูปกับป้ายค่ายเรา
ตุล : หรือทีมงานเก่าๆ ก็แทรกซึมเข้าไปอยู่แทบจะทุกวงการละ ไม่ใช่แค่ศิลปินนะครับ พนักงานก็แทรกซึมไปเยอะแยะไปหมดครับตอนนี้ (ยิ้ม)
วิธีเลือกศิลปินที่มาเล่นงานนี้
ตุล : ก็เลือกที่น่าฟัง ง่ายๆ เลยก็คือเมื่อคำว่ากำแพงไม่เกี่ยวละ ทีนี้เราจะเลือกใครก็ได้ละ เพื่อนของเราอยู่ที่ไหนก็ได้แนวเพลงอะไรก็ได้ เลยคิดว่าเออ.. ตอนนี้มีเพลงที่น่าฟังนะ อยากจะเลือกให้คนมาฟังกันนะ วงบางวงอาจไมได้มีคนรู้จักมาก คนบางคนอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต เราก็ดึงเขาเข้ามา
พี่เปิ้ล : คือจริงๆ เพื่อนเราเยอะมากแต่บังเอิญเวทีมีอยู่แค่นี้
ตุล : ปีหน้าค่อยเยอะกว่านี้ จัดทั้งศุกร์, เสาร์, อาทิตย์ เลยอะไรแบบนี้ (หัวเราะ)
พี่เปิ้ล : พี่พราย มีอัลบั้มใหม่ แล้วก็มาปล่อยกับสนามหลวง มีอีกวงนึงที่อยากแนะนำศิษย์เก่าก็คือ P2WARSHIP เป็นศิลปินวงแรกของสนามหลวง เราก็เอ๊ะ! ถ้าเราเชิญศิษย์เก่าหรือศิลปินเก่าๆ ที่หาดูยากๆ มาเนี่ย น่าจะทำเป็นโชว์พิเศษขึ้นมา เพราะฉะนั้นในบรรดาโชว์พิเศษสองวันนี้เราก็ทำโชว์พิเศษขึ้นมาอีก 5 โชว์ ก็เอามาสวนกันนั่นละ อย่างพี่พรายก็แจมกับอพาร์ตเม้นต์คุณป้า เป็นโชว์พิเศษ แล้วก็มี ภูมิจิต แจมกับ P2WARSHIP, Jetset’er กับลุลา อันนี้คือศิษย์เก่า แล้วก็มี Annylynn ที่เป็นเพื่อนบ้าน ก็จะเชิญพี่บอย LOMOSONIC มาแจม แล้วก็ของLOMOSONIC อยากจะมีอะไรหวานๆ บ้าง เขาก็เลยชวนน้องอิ๊งค์ วรันธรมาแจมกับช่วงของเขา ทีนี้พอนั่งคุยไปคุยมามันเริ่มแจมมากกว่าเดิมแล้ว วันนั้นคุยกับไทเทย ไทเทยก็บอกเดี๋ยวผมจะแจมบ้างได้มั้ย เราก็บอกแจมเลยตอนนี้มันก็เลยกลายเป็นว่า ในแต่ละวันแต่ละวงก็เริ่มมีความสนุกที่อยากจะไปครีเอทโชว์ของตัวเอง
สถานที่จัดงาน
พี่เปิ้ล : GMM LIVE HOUSE ชั้น 8 CENTRAL WORLD เรื่องเครื่องดนตรีเขาบอกว่ามันจะไม่มีช่องว่างจะมีสองเซ็ตไว้ บางอันเป็น LED กราฟิก บางอันใช้พร็อพ อย่างโชว์พิเศษก็จะมีพร็อพที่เหมาะกับศิลปินแต่ละโชว์ เพราะว่าโชว์พิเศษค่อนข้างเยอะ พี่เล็ก Greasy ก็เคยร่วมงานกับสนามหลวงมาก่อนนะ ตอนสนามหลวง Connect อย่าง Polycat เวลามีงานอะไรก็จะมาเป็นเพื่อนสนิทสนามหลวงจะมาเล่นให้ทุกครั้ง
ราคาบัตร
พี่เปิ้ล : ราคา 900 บาท Early Bird ขาย 3 วันเท่านั้น เพราะจริงๆ มันราคา 1,500 ก็เลยคิดว่าถ้า 3 วันนี้ก็อยากให้แฟนๆ สนามหลวงได้ราคาดีที่สุด ก็คือวันที่ 31 พ.ค.-1-2 มิ.ย. ก็คือซื้อได้ที่ Thaiticketmajor
ตุล : บัตร 900 Early Bird ศิลปินเพียบแทบทุกแนว ถ้าชวนเพื่อนๆ ที่ฟังเพลงคนละแบบเราก็สามารถมาเอนจอยโมเมนต์ด้วยกันได้ในงานนี้
พี่เปิ้ล : มีเพื่อนแล้วก็สังสรรค์ เผื่อเจอเพื่อนใหม่ก็ได้ สนุกสนานกันแบบไม่ร้อน
พี่เปิ้ล : และในงานยังมี Shop ที่จะมีสินค้า Limited Edition ของศิลปิน เอามาวางไว้ให้แฟนเพลงเลือกซื้อโดยที่ไม่ต้องเดินไกล เข้ามา Shopเดียวจบ มีอัลบั้มพี่พรายที่ขายจนหมดแล้ว แต่จะกันบางส่วนมาขายที่งานนี้ อพาร์ตเม้นต์คุณป้าก็จะมี Limited Edition พิเศษที่กำลังคุยๆกันอยู่ Lomosonic ก็จะมีของ Limited Edition มาที่จะทำในเฉพาะงานนี้ แล้วก็บรรดาเพื่อนๆ ศิลปินที่ทำนั่นนี่ ก็จะมาวางขายใน Pop-Up Shopด้วย อ้อแล้วยังมี Meet & Greet กับทุกศิลปินใครอยากเจอใครก็จะจัดเวลาพิเศษให้ แค่มาเจอกันที่หน้า Shop แล้วมาเจอกันนะคะ
ขอขอบคุณ : ดาว Grammy ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ครับ