รอคอยวันนี้มา 8 ปีเต็ม ในที่สุด 5 หนุ่ม ตูน, ปิ๊ด, ยอด, ชัช, โอม วง Bodyslam (บอดี้สแลม) ค่าย genie records (จีนี่ เรคคอร์ดส) ก็ได้กลับมาระเบิดความมันที่สนามราชมังคลากีฬาสถานอีกครั้ง ในคอนเสิร์ต M150 Presents BODYSLAM FEST วิชาตัวเบา LIVE IN ราชมังคลากีฬาสถาน ด้วยจำนวนคนดูแสนกว่าคนเต็มความจุทั้ง 2 รอบ และถือเป็นคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มชุดที่ 7 “วิชาตัวเบา”อย่างเป็นทางการด้วย โดยมี กบ บิ๊กแอส เป็นโชว์ไดเรกเตอร์ และ อ๊อฟ บิ๊กแอส เป็นมิวสิกไดเรกเตอร์ งานนี้ บอดี้สแลม ทุ่มสุดตัวเหมือนชื่อวง จัด 34 เพลงฮิตเรียงคิวมาสะกิดชาวร็อคให้โดดกันมันสนั่นสนามราชมังฯ พร้อมแขกรับเชิญ โจอี้ บอย , ปาล์มมี่ , ฟักกลิ้งฮีโร่ และแสง สี กราฟฟิก เอฟเฟ็กต์ ที่ฉูดฉาดจัดเต็มฉีกกรอบความอึมครึมสีทึมๆ ของคอนเสิร์ตร็อกที่เคยเห็นกันมาอย่างสิ้นเชิง
ประเดิมเวทีด้วยเพลง แสงสวรรค์ ตูนใส่แจ็กเก็ตตัวเดียวโชว์ซิกแพค ตามด้วยคราม ที่เล่น ๆ อยู่วงก็เบรกหลอกคนดูว่าเล่นผิดแต่จริงๆ คือมุขที่อยากให้คนดูเก็บโทรศัพท์มาตั้งใจดูคอนเสิร์ตดีกว่า ต่อด้วยเพลงเก่าเพลงใหม่สลับกันไปมา อย่าง เสี้ยววินาที, คนที่ถูกรัก, ใครคือเรา ที่มาพร้อมแด๊นเซอร์ 60 ชีวิต, เรือเล็กควรออกจากฝั่ง, ชีวิตเป็นของเรา, เวลาเท่านั้น และ ท่านผู้ชม ที่จุดพลุอย่างสวยงาม
ตามด้วยเพลง เปราะบาง, เตรียมตัวตาย และเปิดตัวแขกรับเชิญคนแรก โจอี้ บอย กับเพลงที่ฟีเจอริ่งกันในอัลบั้มใหม่ชื่อ ไม่แก่ตาย เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟน ๆ ไปเพียบบวกกับที่ เฮียโจ้ มาในชุดสุดหรูของเวอร์ซาเช่โชว์ซิกแพ็คให้ดูก็เป็นได้ ก่อนจะเอาท่อนแร็พไปใส่ในเพลง ความเชื่อ กลายเป็นเพลงเวอร์ชั่นใหม่ที่สร้างความฮึกเหิมขั้นรุนแรงให้กับคนดู เข้าโหมดซึ้งกับเพลง ความรักทำให้คนตาบอด, ยิ่งรู้ยิ่งไม่เข้าใจ, ความรัก ที่ ตูน แทบไม่ต้องร้องเพราะคนดูช่วยกันร้องจนกระหึ่ม แล้วเสียงกรี๊ดก็ดังอีกครั้งเมือสาวซ่อนกลิ่นปาล์มมี่ ออกมาในชุดสีขาวสะอาดตาจับไมค์ร้องเพลง นิรันดร์ คู่กับ ตูน ก่อนจะเปลี่ยนฟิลไปชวนคนดูเซิ้งในเพลง คิดฮอด ที่ ปาล์มมี่ ลงทุนไปฝึกร้องหมอลำกับอาจารย์ วสุ ห้าวหาญ เพื่อมาขึ้นเวทีนี้โดยเฉพาะ พร้อมด้วยแดนเซอร์ชุดสีสุดเจ็บช็อคกิ้งพิ้งค์ออกมาร่วมแจมเซิ้งมันจนเหงื่อกระจาย อีกสิ่งที่บอดี้สแลม ไม่เคยขาด คือ วงออเครสตร้า ที่มาสร้างความขลังอลังการในเพลง ครึ่งๆ กลางๆ, ขอบฟ้า, ความฝันกับจักรวาล และในเพลง ชีวิตยังคงสวยงาม ตูน ก็ชวนคนดูเปิดไฟเล่นเวฟทะเลดาวทำเอาสนามราชมังฯ ระยิบระยับงามจับใจเป็นภาพที่ต้องจดจำอีกหนึ่งซีน หลังจากกนั้นก็ยกวงลงมาที่มินิสเตจโชว์เพลงฮิตที่หลายคนคิดถึง ทางกลับบ้าน , ปลายทาง , ไม่รู้เมื่อไหร่, สักวันฉันจะดีพอ, เสียดาย, วิชาตัวเบา ถึงคิวของแขกรับเชิญคนสุดท้าย ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ที่มาในเพลง ผักบุ้งลอยฟ้า และ ดัม-มะ-ชา–ติ แบบดุดัน ก่อนจะปิดโชว์ด้วย 4 เพลงสุดท้าย 149.6, ยาพิษ, อกหัก, แสงสุดท้าย ส่งทุกคนกลับบ้านด้วยพลุหลากสีสันยิงกันกระหน่ำมีเท่าไหร่ใส่ไม่ยั้งกัน งานนี้เต็มอิ่มกับทุกนาทีบนเวทีเลยจริงๆ”
สิ่งที่เกิดขึ้นและดี สมควรชื่นชม
- การ์ดเข้มงวดดี เพราะจำนวนคนหลายหมื่น ถ้าการ์ดอ่อนปวกเปียกงานเละแน่
- เวที แสง ควัน สวยงามเหมือนรอรับแสงจากสวรรค์
- โชว์จากวงยอดเยี่ยม ต้องฟิตและผ่อนหนักเบาอย่างไร ถึงเล่นสองรอบได้แบบเต็มเหนี่ยว สุดยอด
- แขกรับเชิญดีเยี่ยม โจอี้บอย ฟักกลิ้งฯ ปาล์มมี่ โดยเฉพาะ “ปาล์มมี่” ขอชื่นชมเป็นพิเศษ
- ทีมงานทุกส่วนที่คอยสนันบสนุนวงเพื่อให้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด
- วงดนตรีเวทีด้านนอกทุกวงที่บอกเลยว่าสุดยอด เพราะแดดทั้งเสาร์และอาทิตย์ บอกเลยว่ามาเต็ม
- วงโยธวาทิตบนสแตนซ้ายขวาหน้างาน สุดยอดเช่นกัน ฟังเพลิน ฟังเพราะ ทั้งที่อากาศร้อนมาก
สิ่งที่อยากให้ลองพัฒนาต่อไป
- ถ้าจะจัดให้เป็นเฟสติวัล (ตามชื่อ) ควรให้ความสำคัญและใส่ใจกับสิ่งรอบๆ สนามมากกว่านี้
- อาหาร น้ำดื่ม ต้องมีจำนวนบูธและปริมาณที่มากกว่านี้ หรือเตรียมการได้ดีกว่านี้ เพื่อรองรับผู้คนเกินหกหมื่นคน ซึ่งอันนี้ทีมงานต้องรู้อยู่แล้วว่าจะมีคนมาขนาดไหน (เห็นคนต่อคิวซื้อน้ำซื้อข้าวแล้วสะเทือนใจ) แต่ถ้าไม่กินไม่ดื่มภายในงานก็ไม่มีปัญหา
- ขยะที่ดูเหมือนจะจัดการได้ แต่สุดท้ายล้นตามจำนวนคน คนไทยดูคอนเสิร์ตกับขยะคือของคู่กันไปละ
- ซาวด์ช่วงแรก (วันเสาร์) ยังดูวนๆ บวมๆ แต่ผ่านไปสัก 30 เปอร์เซ็นต์ของงาน ก็เริ่มเข้าที่ แต่ด้วยสนามราชมังคลากีฬาสถานที่ไม่ได้เหมาะกับการจัดงานคอนเสิร์ตเลย นี่คือสิ่งที่ทีมเสียงต้องจัดการหาทางแก้เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดกันต่อไป
- การยกมือถือขึ้นถ่าย ยังเป็นปัญหาหนักที่ยากจะแก้ไข แต่พี่ตูนก็พูดดักไว้ในหลายๆ งาน จนถึงงานนี้ก็น่าจะทำให้คนไทยที่คิดจะดูคอนเสิร์ตพึงกระทำ “เมมโมรี่ที่ดีที่สุดมันไม่ได้อยู่ในโทรศัพท์ มันอยู่ที่…….” ฝากไว้ด้วยคนไทย 2019 ที่คิดจะดูคอนเสิร์ต