“ภาพจำ” ยังชัดเจน
ป๊อป : ประมาณช่วงปลายปีที่แล้วคุยกับทางทีมงานว่าเราอยากมีเพลงช้าสักหนึ่งเพลง และเราก็มามองดูว่าเราต้องการเพลงช้าแบบไหน เราถ่ายทอดเนื้อหาของเพลงแบบไหนที่คิดว่าดี ก็เลยคิดว่าจริงๆ เราเป็นคนที่ชอบนึกถึงความหลังในอดีตที่มันเคยผ่านมาแล้ว ก็เลยโทรคุยกับคนเขียนเพลง (แอ้ม อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์) ว่าเราอยากได้เพลงที่พูดถึงการถูกจองจำด้วยความรัก ตอนแรกในเพลงนี้ผมบอกให้เขานึกถึงภาพว่าเหมือนคนติดคุกที่เขาจะพยายามหาทุกวิธีเพื่อที่จะออกไปหาคนที่รักเก่าที่จะแต่งงานด้วย ซึ่งแอ้มก็ได้คำนี้มา เพราะว่าคนที่อยู่ในคุกคงเห็นแต่ภาพเดิมซ้ำๆ ตอนแรกที่ถ่ายทำ MV จะใช้สถานที่เป็นคุกจริงๆ แต่คุกในประเทศไทยมันจะดูเป็นความโหดร้ายเกินไปถ่ายออกมาแล้วมันไม่ได้สวยงาม แถมค่าใช้จ่ายก็แพงมาก จึงมานั่งนึกกันใหม่ว่ามีเรื่องราวอะไรที่มันสื่อถึงการจองจำด้วยความรักได้ก็เลยนึกถึงวิญญาณเพราะเราทำเพลงนี้ขึ้นมาควบคู่ทั้งเพลงและภาพ เลยพลิกจากที่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุกกลายมาเป็นเรื่องเกี่ยวกับผี แต่มันก็เรื่องราวเดียวกันคือการถูกจองจำด้วยความรัก ในชีวิตจริงผมมองว่าคนอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เยอะ แต่ผมอยากจะทำให้มันชัดเจนมากขึ้นก็เลยคิดว่าจะต้องหาตัวละครที่ไม่มีทางมีเรื่องราวใหม่ๆ เข้าไปแน่นอน โชคดีคนที่เขียนเนื้อร้องและทำนองก็คือคนเดียวกัน ผมรู้สึกว่าถ้าเราได้ทำงานกับคนที่สามารถเขียนทั้งเนื้อร้องและทำนองได้ทุกอย่างมันจะดูง่ายขึ้น แต่กว่าจะออกมาได้ก็ปรับแก้อยู่เยอะเหมือนกันเพราะว่าพอมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความลึกซึ้งของอารมณ์ อารมณ์ของเพลงภาพจำเพลงนี้มันไม่ได้แบบร้องไห้ฟูมฟายซึ่งเป็นอารมณ์ที่ซับซ้อนมากเหมือนไม่ได้อยากอยู่แต่ก็ไม่ได้อยากไปจากใครสักคนหนึ่ง มันเป็นอารมณ์ที่ซับซ้อนมากเลยทำให้ดนตรีปรับเปลี่ยนอยู่เยอะพอสมควร
ดนตรีในภาพจำ
ป๊อป : ผมต้องการให้เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มชุดเดียวกับเพลง “ปล่อย” ให้ได้ แล้วก็จะเพิ่ม Loop, ซินธ์ฯ, ซาวด์บางอย่างให้มันดูทันสมัยมากขึ้น ด้วยการที่คิดออกมาเป็นภาพทำให้ดนตรีมีความสนุกมาก ได้ทดลองเยอะ อย่างจะทำยังไงให้มันดูหลอน ก็เอาเสียงแอ้มไปไว้แบ็กกราวนด์หลบๆ มีเสียงนาฬิกา อะไรแบบนี้ จริงๆ จะให้ออกโซลร็อคนะ ไปๆ มาๆ ก็ร็อคซะเยอะ
ความมันกับพี่ต้น Silly Fools
ป๊อป : อัดเพลงสนุกมาก เพราะไปอัดที่ห้องพี่ต้น Silly Fools แล้วแกเป็นคนที่ชอบอำ อย่างเขาเหมือนได้ยินคนเล่าเกี่ยวกับ MVเขาก็จะมาแซวว่าตรงนั้นน่ะ ตรงต้นมะขาม 2วันก่อนมีคนผูกคอตาย (หัวเราะ) แล้วขอโทษบ้านแกนี่แบบ โอโห นี่หรือกรุงเทพฯ (หัวเราะ) ส่งโลเกชั่นมาบอกบางเขน โอโห บางเขน (หัวเราะ) ไปนั่งคุยกับเต่าตะพาบเล่นก่อนได้เลย แล้วที่แสบกว่านั้น แกคิดค่าห้องอัดเป็นชั่วโมง แต่แกบอก เฮ้ย! ทำงานไม่ต้องรีบ ต้องทดลองเพื่อให้ได้งานที่ดี แหน่ะ มีบอกว่าไปปิ้งย่างอะไรกินก่อนก็ได้ (หัวเราะ) ซึ่งตอนแรกก็กะว่าจะไปทำที่ Sexy Pink ของพี่บอล อพาร์ตเมนต์ นี่แหละ แต่คอมฯ แกเจ๊ง (หัวเราะ)
Single And Album
ป๊อป : ผมอาจจะทำเป็นอัลบั้มรวมฮิต เพราะทีมงานของเราก็อยากทำงานเป็นอัลบั้มแต่จริงๆ โดยส่วนตัวรู้สึกชอบทำงานเป็นแบบซิงเกิ้ลเพราะมันจะทำให้เราโฟกัสเป็นจุดๆข้อดีของการทำซิงเกิ้ลก็จะเป็นแบบเราหาข้อผิดพลาดและแก้ไขได้ง่าย แต่ในการทำอัลบั้มข้อดีก็คือเวลาคนฟังฟังทั้งอัลบั้มจะเข้าใจถึงความเกี่ยวโยงซึ่งกันและกัน แต่ในความรู้สึกของการทำงานเราชอบการทำงานแบบเป็นซิงเกิ้ลมากกว่า
เพื่อนพี่พร๊อพ
โอ๊ต ปราโมทย์ : คือไอ้นี่คบกันได้ แต่อย่าพยายามให้มันรู้เรื่องอะไรของเราเยอะ เพราะเขารู้แล้วจะเอาไปเสริมเติมแต่งไปเรื่อย แต่ตัวจริงๆ ในเวลาหลังทำงานมันก็มีมุมที่เขาเหนื่อยและก็อยากให้คนดูแลอยู่เหมือนกัน ศิลปินอย่างโอ๊ต ผมนับถือนะ คือเขาต้องเจอทุกคน และทุกคนก็คาดหวัง การเอ็นเตอร์เทนจากเชาตลอดเวลา อย่างเจอเด็ก ม.3 แบบ ไอ้เห้..โอ๊ต มา (หัวเราะ) คือมันต้องถอดอีโก้ออกเลย ไม่งั้นอยู่ยาก ดังนั้นเวลาหลังงานมันก็จะล้าๆ นอยๆ บ้าง
อ๊อฟ ปองศักดิ์ : ผมกล้าพูดได้เลยว่าตั้งแต่ผมทำงานกับมันมา มันคือคนที่เป็นเอกอุด้านการมาสายจริงๆ (หัวเราะ) เป็นคนที่สายได้ตลอดเวลา หนักกว่านั้น มันมีนวัตกรรมใหม่ ไม่มาสาย แต่มันไม่มาเลย (หัวเราะ) แต่เฉพาะกับเพื่อนนะ กับงานกับผัวไม่ค่อย (หัวเราะ) แล้วเป็นตัวแทงค์ด้วย ลองไปดูใน IG สิ ใครลองบ่นอะไรไป ขานี้ลุยเลย
ว่าน ธนกฤต : ว่านเขาเป็นสายบุ๋น สายหล่อ กลายเป็นสายหนุ่มฟิตเนส กินคลีนดูแลสุขภาพ แต่แด…เหล้า (หัวเราะ) และเป็นคนที่เอาตัวรอดได้ด้วยวาจาตลอดเวลา ไม่มีทางต้อนเขาจน สมมติเขามาสาย ไปบอกว่า เฮ้ย!! ทำไมมาสาย พอเขาอธิบายเหตุผลเราจะรู้สึกผิด เออ เหตุผลมันใข่ แต่พอลองผ่านไปมานั่งคิดดีๆ เออ ยังไงมันก็ผิดเต็มๆ นี่หว่า (หัวเราะ) สติดี ว่านเป็นคนไม่ค่อยเศร้าอะไรมากนัก
จากคนไม่เข้าตาสู่การเป็นคนที่มีภาพจำ
ป๊อป : ผมมานั่งทบทวนตัวเองนะคือผมรู้สึกว่ามันไม่น่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เพราะผ่านมา 10 กว่าปีแล้วเรายังออกผลงานแล้วยังมีคนมาคอยฟังคอยติดตามเรา ในตอนแรกตอนที่ทำเพลง “คนไม่เข้าตา” ก็มีคิดอยู่บ้างว่าอาจจะเป็นอัลบั้มแรกก็คงไปแล้ว เพราะเป็นไปได้ยากมากที่คนจะให้การตอบรับกับวงใหม่ๆ และเราไม่ได้มีหน้าตาที่จะดึงดูดใครแต่ก็ผ่านมันมาเรื่อยๆ จนถึงจุดนี้ได้ยังทำงานอยู่ได้อย่างมีความสุข ซึ่งคนจะเรียกผมว่า “ป๊อป แคลอรี่ฯ” หรือ “ป๊อป ปองกูล” ผมก็รู้สึกดีทั้ง 2 อย่าง มันก็เป็นความภูมิใจในสิ่งที่เราทำ ที่รู้สึกดีมากๆ ก็คือเวลาเราหยิบงานของแคลอรี่ฯ กับป๊อป ปองกูลมาฟัง เราสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของเพลงได้ระดับนึง เห็นการเดินทางของมัน เวลาเราเห็นคนดูก็มีทั้งแฟนใหม่ๆ เด็ก รวมถึงแม่ของเด็กที่มาด้วยก็บอกว่าตามมาตั้งแต่เพลงคนไม่เข้าตา (หัวเราะ) เราก็เออดีเนาะ ก็รู้สึกเซอร์ไพรส์ดีเหมือนกันครับ