ห่างหายไปนานร่วม 10 ปี นายห้าง กอล์ฟ เบญจพล เชยอรุณ ชวนศิลปินตัวจี๊ด พร้อมขนมุขขำและบทเพลงเพราะๆ ในความทรงจำมาให้แฟนเพลงได้คลายเครียดในยุคเศรษฐกิจแบบพอเพียง โดยเชง ประดิษฐ์ สมดังเจตน์ บริษัทมาสเตอร์พีซ ออการ์ไนเซอร์ จำกัด จับมือแน่น กับ บริษัท ต่าล้าลา จำกัด เปิดคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ “BE MY GUEST The Alzheimer COMEDY CONCERT”
ที่มาของ Be My Guest
มันเริ่มต้นมาจากตอนนั้นพี่เปิดบริษัทต่าล้าลา แล้วพี่ก็ทำอัลบั้มตัวเองกับโชว์รูมมา มันก็มีเพลงดังเหมือนกันพวกเพลง “แกล้งรัก” เราก็เริ่มรู้สึกว่ามันน่าจะไปต่อได้กับต่าล้าลา แล้ววันหนึ่งเราไปพวกร้านซีดีแล้วเรารู้สึกไม่มีเพลงฟัง เอาอย่างนี้ๆ บอกธรรมชาติก่อน ธรรมชาติของเราเป็นคนชอบเข้าร้านซีดี ร้านเทป ร้านเพลง แล้วต้องซื้อกลับบ้าน จนแม่ต้องบ่นว่าวันหนึ่งฉันจะเอาไปต้มให้แกกิน (หัวเราะ) ธรรมชาติของเราเวลาไปแล้วต้องซื้อ ต้องมีของกลับบ้าน แต่วันนั้นพอเราไปแล้วมันซื้อไม่ได้ มันไม่มีเพลงให้เราฟัง ฉันกลับบ้าน ฉันซื้ออะไรไม่ได้เลย สุดท้ายก็กลับมาเปิดเพลงรุ่นพี่อุ้ย รวิวรรณฟัง พวกสมัยที่พี่อุ้ยออกเพลงเพลง “พี่ชายที่แสนดี” ไปหยิบเพลงพี่โน่ พี่มัม มาฟัง เราก็เลยเริ่มรู้สึกว่าพวกพี่เขาหายไปไหน ทำไมไม่กลับมาร้องเพลงกันอีก มันเลยเป็นจุดประกายว่าเราทำบริษัทเพลง แล้วชวนพี่ๆ เขากลับมาร้องเพลงกันดีกว่า เราก็เลยเปิดโปรเจ็กต์ Be My Guest ขึ้นมา
หลักในการชวนหรือเลือกพี่ๆ แต่ละคน
อันดับแรกเราต้องเอาคนที่สนิทไว้ก่อน (ยิ้ม) เราก็ไปเริ่มจากพี่โน่ (เมทนี บุรณศิริ) เพราะเราสนิทกัน จะเจอตามรายการ ตามละครอะไรอย่างงี้ ซึ่งโปรเจ็กต์นี้ถ้าจะเริ่มต้องมีพี่โน่ ถ้าไม่มีก็เริ่มไม่ได้ เรารู้สึกว่าเราต้องมีคนหนึ่งที่มาเป็นศูนย์รวม ลำพังตัวเราเองถ้าชวนพี่ๆ เขา พี่ๆ เขาอาจจะมาหรือไม่มา จริงๆ รายละเอียดมันเยอะมากๆ กว่าจะได้พี่โน่มาก็ไม่ใช่ง่ายๆ นะ ยากมาก รายละเอียดมันเยอะจนเราท้อ เกือบเลิกเหมือนกันนะ พี่โน่บอกว่า “กอล์ฟอยากทำจริงๆ ไหม” เราก็บอกว่าอยากทำครับพี่ ถ้าอยากทำให้ไปแต่งเพลงใหม่ ก็เลยเป็นจุดเริ่มของโปรเจ็กต์ พอได้พี่โน่ เราก็กล้าที่จะชวนพี่อุ้ย พี่มัม พี่ตั้ม
การทำงานเพลงใน Be My Guest
โจทย์เเรกเลยก็คือต้องให้แฟนเพลงเก่าของพี่ๆ เขายังสัมผัสเขาได้อยู่ แต่ว่าก็ต้องให้มันร่วมอยู่กับสมัยด้วย และก็ให้มันเป็นเพลงที่ฟังได้ตลอดเวลา เพราะเราเอาตัวพี่ๆ เขาเป็นตัวตั้ง แล้วเราค่อยปรึกษาพี่เขาว่าผมแต่งมาประมาณ 2-3 เพลงนี้ เลือกอันไหนก็คือจะให้พี่ๆ เขาเลือก แต่ให้เลือกไม่เยอะมาก เพราะเราเป็นคนคุมโปรเจ็กต์ ให้เลือกไปเยอะๆ บางทีมันจะหลุด ให้ฟังแล้วมันยังรู้สึกว่าอยู่ในกลิ่นเดียวกันก็เลยจะให้พี่เขาแค่คนละ 2-3 เพลงมันก็จะเป็นแบบนี้มาทุกคนก็อยู่ในกลิ่นของ Be My Guest ทั้งหมด
ถามย้อนกลับไปนิดนึงครับว่าการทำเพลงของพี่กอล์ฟหรือที่มาของการทำเพลงมีที่มายังไง
คือตอนเด็กๆ พี่เป็นคนไม่ได้ขยันเรียน แต่พี่ชอบทำกิจกรรม เพราะฉะนั้นอาจารย์ก็จะชอบใช้พี่ สมมุติมีงานโรงเรียนจะต้องมีร้องเพลง มีเเต่งเพลงอะไรอย่างงี้ก็จะเป็นพี่เสมอ แล้วเราก็ชอบไป ชอบทำเรื่อยๆ จนวันหนึ่งพอเราขึ้นมาอยู่ ม.4-ม.5 รู้สึกว่าฉันอยากเป็นวงดนตรีของโรงเรียน พอสิ้นปีต้องมีวงนี้ขึ้นมาเล่น เพราะสมัยนั้นมันมีวงนูโวเป็นรุ่นพี่และเขาก็กลับมาเล่น เพราะเขาออกไปแล้วก็เลยตั้งวง อยากจะสู้กับเขาซึ่งสู้ไม่ได้ (หัวเราะ) แต่ก็รวมกับเพื่อนๆ พยายามแต่งเพลงในช่วงนั้นอยากจะเอาชนะด้วย อยากจะมีบทบาทในโรงเรียน ด้วยเป็นจุดเริ่มต้นก็เลยเริ่มแต่งเพลงเป็นของตัวเอง แต่งเพลงเสร็จก็ขึ้นไปร้องบนเวที เพลงแรกรู้สึกจะชื่อเพลง “ลืมเธอ” และที่มันเป็นพลังกลับมามัน คืออะไรรู้ไหม คือมีคนกลับมาถามว่าอันนี้มันเพลงของคีรีบูนหรือฟรุ้ตตี้ (ยิ้ม) เราก็เลยรู้สึกว่ามันต้องใช้ได้ เลยรู้สึกฮึกเหิม ก็เลยเขียนเพลงมาเรื่อยๆ จนพ่อรู้สึกว่าเราชอบ พ่อก็เลยยอมให้ทำ ก็เลยทำเป็นวงออกมา อันนั้นเเป็นจุดเริ่มต้นการทำดนตรีของพี่
พี่กอล์ฟมีผลงานออกมาหลายอัลบั้ม มีทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่เคยล้มเลิกเรื่องดนตรี
พี่อยากจะบอกว่าเวลาที่เจอคนที่แบบว่าทำไปทำไม พี่ก็รู้สึกว่ามันเป็นความสุขส่วนตัว แต่ด้วยความที่เราเป็นคนสาธารณะ พอเวลาทำ คนก็จะมาสนใจที่เรา ว่าเราตลกก็ควรจะขำไปสิอะไรอย่างงี้ ส่วนตัวพี่เมื่อก่อนก็รู้สึกว่ามันไม่แฟร์ อยากจะบอกว่าโทษนะน้องพี่ทำไรผิดหรือเปล่า เงินก็เงินพี่ เวลาเพลงเปิดพี่ก็ไม่ได้ขอ เขาเปิดให้เอง เราแค่อยากทำในสิ่งที่เราทำได้ สิ่งที่พี่พูดอย่างหนึ่งก็คืออยากให้คนไทยทุกคนเวลาเราทำอาชีพใดก็ตาม เราทำอะไรได้ก็ทำให้หมดสิ ทำไมต้องไปหยุดตัวเองเอาไว้ด้วย อย่างคุณเป็นวิศวกรแต่บ้านคุณทำผัดไทยอร่อยมาก วันว่างเสาร์อาทิตย์คุณก็มาทำผัดไทยขายได้ แต่ว่าคนไทยเราชอบไปขีดกรอบตรงนี้ หลังๆ พี่ไม่อะไรละใครจะว่าอะไร ไม่สนใจ
ความพิเศษของ ดิ อัลไซเมอร์
พี่กอล์ฟ : คนที่เคยดูคอนเสิร์ต Be My Guest ก็จะรู้อยู่แล้วว่าเราจะขำกันมาก เพลงเพราะก็มีให้ฟังเหมือนเดิม แต่ที่เราใช้ชีวิตกันแบบนี้เพราะพี่คิดว่าการที่เราจะกลับมารวมกันมันต้องมีกิมมิคสักหน่อย ส่วนโชว์คือทุกคนจะได้ฟังเพลงเก่าๆ ของ Be My Guest เหมือนเดิม ทั้งชุดที่ดังและไม่ดัง เอาจริงๆ ที่มันดังมากๆ มันจะดังแค่ 2 ชุดแรก ชุด 3 ชุด 4 มันจะแป็ก เพราะว่าชุด 3 เราออกมาตอนที่บ้านเมืองมีสถานการณ์แบบวุ่นวายมากๆ เพลงมันก็หายเลย ซึ่งชุด 3 เป็นชุดที่พี่ชอบที่สุด พี่รู้สึกว่ามันลงตัวที่สุด เพลงมันดีเราก็เลยรู้สึกเสียดาย อยากจะเอากลับมาทำตลอดเลยนะ แต่ไม่รู้จะเอากลับมาทำด้วยเหตุผลอะไรดี ก็ประมาณนี้อ่ะครับ คือคุณจะได้ฟังทั้งอัลบั้มที่มันดังและไม่ดังด้วย เพราะเราอยากให้ฟัง เพราะเพลงมันเพราะ เราอยากให้ฟัง หลายๆ คนพอได้ฟังแล้วเราเชื่อว่าจะต้องมีคนถามว่า “ชุดใหม่เหรอ” อันนี้คือส่วนหนึ่งที่ได้ดูในคอนเสิร์ต อันที่สองคือคุณจะได้ฟังเพลงเพราะๆ ของพี่เขาเหมือนเดิม แต่มันจะพิเศษคุณจะได้เห็นพี่ๆ เขา จริงๆ ตั้งใจจะปิดไว้เป็นเซอไพรส์แต่จะบอกไว้หน่อยหนึ่ง คุณลองนึกภาพว่าถ้าวันหนึ่งเขาเป็นอัลไซเมอร์จริงๆ แล้วเขาจำเพลงตัวเองไม่ได้ คุณคิดว่าเขาจะร้องเพลงใคร นั่นคือสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นบนเวที นั่นคือแน่นอนว่าเพลงเพราะอยู่แล้ว แต่คุณจะได้เห็นในบางสิ่งที่แบบ โห…เอาอย่างงี้เลยเหรอ มันก็สนุกสนานเหมือนเดิม ทีมันเด็ดมากก็คือว่าโดยส่วนตัวเราเชื่อว่าความอั้นของพี่ๆ เขาสิบคนที่ไม่ได้เจอกัน รวมตัวกัน มันจะปล่อยออกไปเต็มที่มากเพราะ Be My Guest ทุกครั้งที่รวมตัวกันมันจะคือความขำ ความสนุกเสมอ ซึ่งเรามั่นใจว่าอันนี้มันจะทวีคูณมากอย่างแน่นอน
กับตำแหน่ง Show Director
พี่กอล์ฟ : เหมือนเดิมทุกครั้งครับ ครั้งนี้พี่ก็ร่วมกับเพื่อนพี่ที่มาเป็นพาร์ทเนอร์ก็คือ “เชง ประดิษฐ์ สมดังเจตน์ บริษัทมาสเตอร์พีซ ออการ์ไนเซอร์” เราก็ดึงเพื่อนเข้ามาแจมเพราะว่าโดยส่วนตัวงานเราเยอะมาก เลยรู้สึกว่ามีพาร์ทเนอร์ดีกว่า ได้แบ่งส่วนช่วยกันดูแลได้ เพราะที่ผ่านมาที่เราดูแลคนเดียวตลอด มันโอเคไหม มันโอเค แต่เอาเข้าจริงๆ เหนื่อยมาก บางครั้งเรา On Stage ยังแอบห่วงอย่างอื่นอยู่ เรารู้สึกว่ามันต้องมีพาร์ทเนอร์ช่วยดู
ความยากในการเขียนเพลงให้พี่ๆ แต่ละคน
พี่กอล์ฟ : เอาจริงๆ ยากมาก เพราะอย่าลืมว่าอันดับแรกสิ่งที่คุณต้องทำเลย มันโดนอยู่ 2 ด่านเลยนะด่านแรกก็คือต้องทำให้พี่เขาชอบก่อนและด่านที่สองคือต้องทำให้แฟนเพลงเขาชอบด้วย คือมันยากมาก คือแต่ละเพลงกว่าจะได้มามันต้องคัดแล้วคัดอีก ทิ้งแล้วทิ้งอีก จนรู้สึกว่าบางเพลงยิ่งเป็นเพลงที่พี่เขาไม่มั่นใจ เราต้องแบบ…พี่เชื่อผม ลองดู อย่างพี่จุ๋มมาแรกๆ พี่จุ๋มไม่ยอมร้องเลยนะ เพราะพี่จุ๋มเขามากับแจ๊ซ ผมเลยบอกพี่จุ๋มเชื่อผม ลองป็อปดู แต่ถ้าบางเพลงพี่เขาชอบอยู่แล้วเราก็สบายเลยคราวนี้ ทำงานง่าย
กับ “ธันเดอร์โดม” สถานที่จัดงาน
พี่กอล์ฟ : เอาจริงๆ เราไปที่อื่นแล้วเขาไม่ให้เราทำ (หัวเราะ) ก็อยู่ในเกรดที่เรียกว่าพอไหว เราพอเสี่ยงได้ว่ามีเปอร์เซ็นต์เจ็บตัวน้อย อาจจะเสมอตัวไม่เป็นไร เพราะอย่างที่บอกเรามีจุดมุ่งหมายที่อยากจะรวมตัวกัน หนึ่งคือคิดถึง สองคือเราจะได้เจอแฟนเพลงชัดๆ เป็นการระดมพลเข้ามาทีเดียว ถ้าคอนเสิร์ตจัดไปเสร็จมันจะเท่าทุนก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้ซีเรียสตรงนั้น
คาดหวังอย่างไรกับคอนเสิร์ตครั้งนี้ครับ
พี่อุ้ย : อย่างแรกเลย ได้กลับมาเจอกัน เพราะไม่ได้เจอกันนานแล้ว แล้วก็ไม่ได้เล่นอะไรสนุกแบบนี้มานาน จากคอนเสิร์ตครั้งที่แล้ว พี่คิดว่าอย่างแรกคาดหวังว่าพวกเรากันเองก็คงต้องสนุกมาก คงปล่อยของกันเต็มที่
พี่กอล์ฟ : พี่อุ้ยอาจจะเดินใส่เกาะอกมาเลย (หัวเราะ) อย่างพี่อุ้ยบอกเลยว่าเรากันเอง เราแฮปปี้มาก เพราะว่าเราไม่ได้รวมกันนานมาก แล้วทุกครั้งที่เราแยกกันไปทำงานเวลาไปร้องอีเว้นท์ไปร้องคอนเสิร์ตที่แยกกันไปคนสองคน มันก็ไม่สนุกเหมือนรวมกัน บรรยากาศมันไม่ใช่ คนดูเขาก็อยากเห็นตอนเรารวมกัน เพราะเวลาเรารวมกันแล้วไม่มีใครยอมใคร คนดูก็สนุกมีอารมณ์ร่วมตลอด เพราะเวลาเราเล่นไม่ได้เล่นกันเอง เล่นกับคนดูด้วย
ฝากถึงคอนเสิร์ตที่กำลังจะเกิดขึ้นสักหน่อยครับ
อันดับแรกขอบคุณทุกคนที่ผมไปเจอ ถามถึง Be My Guest ตลอด เราดีใจที่วันนี้งานนี้เหมือนเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์วงการเพลงไทย เราเชื่อว่าอีกสิบปียี่สิบปี ถ้าพูดถึงวงการเพลงไทย Be My Guest น่าจะเป็นหนึ่งหัวข้อที่ทุกคนพูดถึง มันคือโปรเจ็กต์ที่ศิลปินคุณภาพเขามารวมกัน อันนี้ขอบคุณทุกคนที่ชื่นชอบพวกเรา รักพวกเราไม่ได้เจอกันนาน แล้วหวังว่าทุกคนจะมา เพราะว่าที่เราเริ่มปล่อยไปทางไอจีบ้างก็มีกระแสตอบรับค่อนข้างดี เราก็แฮปปี้ที่บางคนเข้ามาแล้วแท็กหาเพื่อนว่าไปไหม ไปดูแถวเเรกเหมือนเดิม อ่านแล้วมีความสุขว่าแฟนเพลงเรายังอยู่ ขอบคุณทุกคนและหวังว่าจะเจอกัน
“BE MY GUEST The Alzheimer COMEDY CONCERT” (บี มาย เกสท์ ดิ อัลไซเมอร์ คอมเมดี้ คอนเสิร์ต) เปิดการแสดงในวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม 2561 เวลา 19.00 น. ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ราคาบัตร 3,500/3,000/2,500/2,000/1,500 จำหน่ายบัตรทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้กับมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง, มูลนิธินักแสดงอาวุโส และมูลนิธิโรคอัลไซเมอร์แห่งประเทศไทย ติดตามข้อมูลความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook : Be My Guest concert