ชุดสีดำ วงดนตรี และชายฉกรรจ์ หลายครั้ง 3 ภาพนี้เมื่อประกอบกันเราจะรู้สึกได้ถึงความหนักแน่น ใช่มันคิอภาพของวงดนตรีร็อคที่ไม่ต้องมีเสียงก็สามารถอธิบายภาพได้ โดยปกติแล้วเรามักจะคิดว่าสีดำกับวงร็อคมันคือความหนักแน่น แต่ในขณะเดียวกันในมุมกลับ สีดำ ก็คือความเศร้าที่ดูมืดมน หรือ ความรักที่ต้องการแสงสว่างได้อีกด้วย เมื่อสีดำถูกถอดความหนักแน่นออกไป จึงเกิดการตีความแบบใหม่ขึ้นมาและวงดนตรีที่จะมอบความหมายให้ สีดำ นี้ก็คือวงดนตรีที่ชื่อว่า The Yers นั่นเอง เราจะมาพูดคุยกับพวกเค้าถึงการทำงานเพลง ที่แหวกออกไปกับอัลบั้ม Cry และอีกมากมายสไตล์ The Yers
ก่อนจะพูดถึงอัลบั้ม Cry ขอถามถึงเพลงล่าสุดก่อนอย่างเพลง ดื่ม ที่เลือกมาทำใหม่ใน Project Play2
อู๋ : เพลงนี้จังหวะมาช่วงเข้าพรรษาพอดี ตอนแรกๆ ผมก็กังวลนะ แต่เราก็คิดกับทีมงานว่าก็เล่นเป็นเรื่อง แบบไม่ต้องดื่มเหล้าก็เศร้าเหมือนกัน (หัวเราะ) เอาจริงๆ เราเลือกเพลงครั้งแรกเราไม่ได้เลือกเพลงนี้ เราเลือกเพลง ประชด ของ Student Ugly คือเพลงนี้สั้นอยู่แล้ว เราก็เอามาทำให้สั้นลงอีกเหลือ 1 นาที กลองเป็นสไตล์ Hard Core Punk เลย (หัวเราะ) แล้วที่สำคัญเราไม่ได้เอาเดโม่ให้ค่ายฟังด้วย ฟังอีกทีเป็นมาสเตอร์เลย แน่นอนว่า ไม่ผ่าน (หัวเราะ) มันห่ามเกินไป เราก็เลยคิดกันใหม่ว่าจะเอาเพลงอะไร ก็มีเพลง มุมมืด ของพี่แมว แต่เพลงนี้ทำใหม่ยากเมโลดี้กับจังหวะค่อนข้างแข็งแรง พันธุ์ทิพย์ ก็มีคิดไว้เพราะเราก็เล่นกันบ่อยๆ สมัยก่อน แต่พอมาคิดถึงวงที่คล้ายๆ เราในแกรมมี่ ที่เป็นวงนอกกระแสหน่อย จะมีหรือเปล่า ก็ปิ๊งวง Skalaxy ขึ้นมาเลยเลือกเพลง ดื่ม เลย ซึ่งส่วนตัวผมก็ชื่นชอบตั้งแต่เด็กอยู่แล้วด้วย
ดนตรีในเพลงนี้
อู๋ : จริงๆ เพลงนี้ดัดยากมาก เพราะฉะนั้นเราแทบไม่เปลี่ยนเลย ยกเว้นวิธีการเล่นนิดหน่อย ก็ตัดคอร์ดยากๆ ออก (หัวเราะ) แต่เราจะไม่เปลี่ยนพวกท่อนโซโล่เลยจะเล่นเคารพต้นฉบับ เพราะมันเป็นซิกเนเจอร์ของเพลงนี้ แต่จะเพิ่มพวกเอฟเฟ็กต์นิดหน่อย อย่างพวก Whammy อันนี้มีเรื่องตลกๆ คือตอนอัด กีตาร์ผมเหยียบ Whammy แล้ว จะให้ ต่อ ใช้มือบิดเพิ่มไปอีกหน่อย (หัวเราะ) แต่ตอนเล่นจริงๆ คงไม่ต้องลงไปบิดขนาดนั้น ส่วนพาร์ทกลอง เบส ก็ไม่ยากมากครับ เล่นรักษาไทม์มิ่งกับจังหวะธรรมดาๆ
Cry ความเศร้า ที่สวยงาม และมืดมน บนเสียงอะคูสติก
อู๋ : จุดประสงค์ของอัลบั้มนี้ คือจะเป็นเพลงช้าทั้งหมด แล้วก็ตั้งใจให้คนนั่งฟัง แล้วให้มีอารมณ์ร่วมตั้งแต่ต้นจนจบในแบบที่ผมต้องการจะบอก ในเพลงต่อๆ ไปก็จะเป็นแบบ พายุหมุน กับ เกลียด เราอยากให้ผู้ฟังรับรู้ว่านี่เป็นคอนเซ็ปต์อัลบั้ม ธีมของมันเป็นแบบนี้
เกลียด และ พายุหมุน
อู๋ : ตอนนี้เพลงนี้ทำให้เราสามารถเล่นได้หลายๆ ที่แล้ว ตรงตามเป้าหมาย โดยเฉพาะเพลง เกลียด คืออย่างเพลง พายุหมุนเรายังเล่นได้เป็นบางที่ แต่กับเพลงเกลียด ก็ต้องบอกว่าเกินคาดไปมากๆ เพราะเรากังวลมากๆ ในตอนแรก คืออัลบั้มนี้เพลงมันจะแตกต่างจากเก่าๆ ของเราโดยสิ้นเชิง กลายเป็นว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่อยู่ในลิสต์ที่ต้องเล่นไปแล้ว สดๆ ร้อนๆ นี่เราไปเล่นงานอาหาร ในห้างฯ แห่งนึง เราเล่นเพลงนี้ปุ๊ป คนเริ่มเดินเข้ามาดู เออ ใช้ได้ๆ จากนั้น เราเลยเล่น ระหว่างขับรถ เท่านั้นแหล่ะ ตูมม (หัวเราะ) ก็เลยได้เพลงเพลย์เซฟมาไว้ใช้อีก 1 เพลง ก็ถือว่าเกลียดนี่มาได้อย่างที่คิดก็ดีใจครับ
Cry
อู๋ : เพลงนี้เป็นเพลง บรรเลงเปียโนยาว 1 นาที เป็นโยชิกิเลย (หัวเราะ) คือ มันไม่ได้ยากขนาดนั้น เพลงนี้เราใช้มานาน 1 ปี แล้วครับ ถ้าใครตามไปดูวงเราบ่อยๆ เป็นอินโทรก่อนขึ้นโชว์ของพวกเรา เราจะเปิดเป็น Data เพลงนี้ก่อนขึ้นเวที เหมือนวง Depeche Mode ที่มีอยู่เพลงนึงที่เขาตั้งใจให้เป็น อินโทรก่อนขึ้นเวที เราก็อยากมีเพลงอะไรแบบนั้นบ้าง ก็ถ้างานไหนพิเศษๆ ผมอาจจะใส่เฝือกที่คอแล้วเล่นสด (หัวเราะ)
อยู่ไหน
อู๋ : เพลงนี้น่าจะเป็นเพลงที่เร็วที่สุดในอัลบั้ม แต่มันก็ยังอยู่ใน Mood แบบเพลงช้านะ คือกลองมันจะเป็น Half Time เลยฟังดูช้าแต่จังหวะเท่าเดิม
ต่อ : ผมชอบเพลงนี้นะ ผมว่ามันเป็นเพลงที่เท่ มากในอัลบั้ม
อู๋ : คือเนื้อหามันเริ่มจากตัวผม ผมเป็นคนติดแฟนมาก ปกติเวลาแฟนไปไหนผมจะตามแล้วถามว่าอยู่ไหน (หัวเราะ) ผมเลยเอาไอเดียนี้มาคิดต่อยอด ผมคิดถึงภาพพวกหนังแฟนตาซีหน่อย ถ้ามีใครคนนึงหลงเข้าไปในป่าเพื่อตามหาอีกคนนึง แล้วก็หาไม่เจอสักที มีสิ่งเดียวที่จะช่วยให้เขาเห็นทางคือแสงจากดาวบนท้องฟ้า ซึ่งคนๆ นี้ ไม่รู้ว่าคนที่ตามหาหลงทาง หรือตั้งใจหนีไปจริงๆ เนื้อหาดูดาร์คๆ หน่อย ฉากจะเป็นตอนกลางคืน แต่ดนตรีไม่ได้ดาร์คมาก จังหวะเป็น Shuffle เร็วๆ เหมือน Country เพลงนี้จริงๆ เป็นไกด์ อัลบั้มของเราเลยว่าจะทำเพลงในอัลบั้มนี้เป็นทิศทางนี้ ซึ่งเป็นเพลงแรกที่แต่งเสร็จ แต่เข้าไปอัดเสียงเป็นเพลงสุดท้าย
คิดเอาเอง
อู๋ : ผมอยากให้เพลงนี้มันฟังดูหนืดๆ มากที่สุดในอัลบั้ม แบบให้ เท็ปโป้ช้าที่สุด แต่ให้ตัวเพลงจบเร็วกลัวคนเบื่อ (หัวเราะ) คือเพลง โบ๊ทอัดเร็วมาก (หัวเราะ) เพลงนี้เนื้อหาเกี่ยวกับว่า คนที่เราคิดถึงเวลานอนหลับเขาจะคิดถึงเรา แต่เปล่าเลยเขาไม่ได้คิดถึงเรา เราคิดไปเองตลอด เขาคิดถึงคนอื่น เพลงนี้ช่วยเขียนกับ พี่ กอลฟ์ Superbaker
โบ๊ท : เพลงนี้ผมดีไซน์เสียงเบส ให้คล้ายกับดับเบิ้ลเบส ส่วนตัวผมไม่เคยเล่นดับเบิ้ลเบสนะ แต่แค่รู้สึกว่า เออ ซาวด์แบบเนี้ยมันจะได้เสียงที่คล้ายๆ ก็ลองใส่ดูแล้วมันค่อนข้างราบรื่น จะยากตรงตอนอัดที่ต้องคุมน้ำหนักหน่อย
อู๋ : แล้วอีกอย่างนึงเพลงนี้เป็นเพลงแบบ 6/8 ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงแรกของวงที่เป็นจังหวะนี้
ต่อ : ความยากของเพลงนี้ก็คือกีตาร์ ผมว่าคนที่เล่นเพลงในจังหวะนี้เก่งๆ พวกไดนามิกในการตีคอร์ดต้องดี ซึ่งพวกเราไม่ใช่คนเล่นกีตาร์โปร่งตลอด
อู๋ : แล้วเพลงนี้มันยากตอนร้องด้วยครับ คือผมร้องเพลงที่ต้องลากโน้ตยาวๆ ไม่ค่อยเก่ง ยังเก็บลมไม่ค่อยได้ ก็เลยจะค่อนข้างยาก
แอบรอ
อู๋ : เพลงนี้เป็นเพลงเก่า ซึ่งในอัลบั้มนี้เพลงที่เป็นเพลงเก่า ผมจะให้เพื่อนเป็นคน อะเรนจ์ แล้วผมกดอัดอย่างเดียว
ต่อ : โดยปกติเพลงของวงเราจะเริ่มจากอู๋ แต่คราวนี้ เพลงนี้จะเริ่มที่ผมเลยซึ่ง ตัวผมเองก็ไม่ได้เรียบเรียงเก่งอะไร แต่แค่รู้สึกว่าเพลง มันควรจะมีฟิลแบบนี้ ออกมาเป็นแบบนี้ เพลง แอบรอ ผมว่ามันเป็นเพลงที่จริงเนื้อหามันเศร้านะ กับการที่ต้องแอบรอใครสักคน เลยสื่ออกมาเป็นอย่างที่ได้ยิน แล้วเพลงนี้ผมลดคีย์ลงนิดนึง เพราะผมว่าอู๋ จะต้องร้องเพลงนี้ยาก
อู๋ : ปัญหาคือเพลงเก่าที่เราเอามาทำใหม่ทุกเพลงเป็นเร็ว แต่ผมต้องมาลองให้ช้า ยืดคำมากขึ้น ซึ่งหลายเพลงมันเข้าปากผมไปแล้ว เวลาร้องช้าๆ มันก็จะติดขัดๆ เวลาร้องผมจะรู้สึกเหมือนเพลงมันสโลว์ (หัวเราะ) ก็เลยค่อนข้างยาก
เสียง
อู๋ : เพลงนี้จะเป็นเพลงที่เป็นซิงเกิ้ลใหม่ของอัลบั้มนี้ ซึ่งเพลงนี้ MVเราไม่ได้เข้าฉากเลย เอาแค่เครื่องดนตรีของเราไปแทน (หัวเราะ) คือเพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ผมเขียนแล้วมันจบแบบแฮปปี้เอนด์ดิ้ง ถึงแม้ว่าโดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าเพลงนี้มีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรงก็ตาม มันพูดถึงการที่เราไม่ค่อยมีคนเชื่อถือ พูดอะไรไม่มีคนฟังไม่ว่าจะจริงใจแค่ไหน ไม่ค่อยมีคนเชื่อที่เราพูด โดนคนไม่เชื่อบ่อย โดนคนไม่ยอมรับอยู่บ่อยครั้ง ช่วงเวลาที่เขียนเพลงนี้ เป็นช่วงเวลาที่ผมเจอเหตุการณ์แบบนั้น เสียงของเราไปไม่ถึงใครเลย แต่ก็มีคนๆ นึงที่รับฟังเราตลอดเวลา คนๆ นี้เป็นกำลังใจให้เราในการใช้ชีวิตต่อไป
ต่อ : ผมแอบช็อคตอนที่ได้ฟังครั้งแรกเพราะว่า อู๋ ไม่เคยมี เพลงอารมณ์แบบนี้เลย ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ดีในการให้กำลังใจคน คนเรามันต้องมีใครสักคนข้างๆ เพื่อให้กำลังใจ แต่คอรัสเสียงสูงมาก (หัวเราะ)
อู๋ : อันนี้คือเพลงให้กำลังใจเพลงแรกของเราเลย เพลงนี้แต่งไม่ยากเพราะมันกระทบกับเราโดยตรง 4 ประโยคใน Verse แรก เป็นประโยคที่ผมพูดมาจริงๆ ตอนที่มีปัญหา นี่คือเสียงของฉันที่พร่ำบอก นี่คือเสียงของฉันที่ไร้การยอมรับ นี่คือเสียงของฉันที่ไม่มีใครตอบ ไม่ว่าดังเพียงใดไม่มีใครรับฟัง เป็นประโยคที่ผมพูดแล้วเอามาแต่งเลย แต่เพลงนี้เล่นจริงๆ เพื่อนผมจะเหงาๆ หน่อย กว่าจะเข้าแบนด์ (หัวเราะ) แล้วกีตาร์โปร่งผมรื้อออกหมดเลย เพราะอัดตอนแรกผมใช้ ปิ๊กเล่น แต่ว่าพอฟังแล้วรู้สึกแข็งๆ เลยใช้นิ้วเกาอัดเข้าไป ซึ่งยากมาก แล้วต่อจากเพลงนี้ในอัลบั้มจะเป็นเพลง เกลียด ซึ่งผมตั้งใจให้มันมาลงตรง โพซิชั่นนี้ในอัลบั้มเลย เพื่อที่เพลงจะได้เรียงต่อกัน คือคนอื่นคิดยังไงไม่รู้นะ แต่ผมฟิน (หัวเราะ) คือมันต่ออารมณ์กันได้พอดี
ความลับของเงา
โบ๊ท : เพลงนี้เป็นเพลงเก่าของเรา ซึ่งแน่นอนมันช้าลง ปัญหาคือผมไม่ใช่คนเล่นกีตาร์ ผมไม่ได้เก่งเรื่องหาคอร์ดหรือเทคนิคอะไรมาลงได้ ก็เล่นเท่าที่ทำได้ คราวนี้ฟิลเพลงผมได้ไอเดียมาจากการดู Placebo แบบ Unplugged ก็เลยใช้วิธีการวางท่อนแบบนั้น แต่เล่นกีตาร์แบบผม แล้วให้บูมเขียนกลองให้ จากนั้นก็ให้อู๋ ตัดขอบให้ ซึ่งก็มีเติมนิดหน่อย แล้วให้อู๋เปลี่ยนคีย์ เพลงนี้ผมชอบท่อนท้าย มันเดือดดี เดือดแบบสไตล์ผม ต้องลองฟังกัน (หัวเราะ)
คลาย
อู๋ : เพลงนี้เป็นเพลงบรรเลงเพลงแรกที่เราทำกัน โดยใช้วิธีแจม คือไหนๆ จะทำอัลบั้มพิเศษแล้ว ก็เลยอยากทำอะไรพิเศษๆ ที่เราไม่เคยทำก็เลยทำเป็นเพลงบรรเลงขึ้นมา
ต่อ : ซึ่งเป็นเพลงแรก ที่เราแจมแล้วได้เป็นเพลง (หัวเราะ)
อู๋ : เพลงนี้ถ้าใครฟัง Streaming เพลงนี้จะเป็นเพลงสุดท้ายของอัลบั้ม ซึ่งเมโลดี้ของมัน คือ เมโลดี้เดียวกับท่อนบรรเลงเปียโน มันจะตอบคอนเซ็ปต์รวมของอัลบั้มนี้ได้ คืออัลบั้มนี้ผมเสียน้ำตาคือ Cry แต่ดนตรีเรามัน คลาย คือ ผ่อนคลาย ก็เลยเอาเมโลดี้ มาแล้วหาคอร์ดแจมวนกัน อัดอยู่ 2-3 เทค เรียกมาแจมคิดอะไรกันออก ก็อัดเลย ตั้งใจว่า ถ้าใครฟังเป็น Streaming มันจะวนกลับไปข้างบน เป็นเมโลดี้แรกในเพลง Cry กลับมาร้องไห้อีกรอบ (หัวเราะ)
เทศกาล
ต่อ : ผมมองว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ค่อนข้างสว่างของวงอยู่แล้ว มันเป็นเพลงแรกๆ ที่เราเคยปล่อย ก็นึกถึงเพลงฟิลอะคูสติกที่ง่ายๆ เท่ๆ ก็นึกถึงหลายๆ วงที่เขาเอาเพลงมาตีความใหม่เป็นอะคูสติก แล้วก็คิดว่าถ้าเป็นเราจะทำออกมาแบบไหน ก็หาคอร์ดเล่นง่ายๆ เท่าที่ทำได้ อีกอย่างผมชอบฟังเพลงสว่างๆ อยู่แล้ว เลยเข้าทาง
โบ๊ท : ซึ่งต่อจะทำเพลงแบบนี้ได้ดี เวลาเอามาแจมในห้องซ้อม มันโอเคมาก เสียอย่างเดียวไม่มีเบสเลย ดังนั้นตอนเล่นจริงๆ ผมต้องมานั่งคิดไลน์เบสอีก (หัวเราะ)
บูม : เขาไม่ต้องการพวกผมแล้ว (หัวเราะ)
อู๋ : เอาง่ายๆ เพลงนี้เราสามารถ ทัวร์กับพี่ลุลาได้เลยล่ะ (หัวเราะ) ซึ่งมันโอเคมากเลยนะ คือเล่นแล้วต้องยิ้มเลยล่ะ
เสียสละ
โบ๊ท : ผมจะตรงข้ามกับต่อเลย คือเพลงผม มันต้องมืด หนืดๆ (หัวเราะ) คือเพลงผมจะเป็นสไตล์นี้เลย แบบผมจะเห็นภาพ เศร้าๆ อยู่ในโบสถ์ มีเทียนจุด แล้วสักพักไฟไหม้ ลุกจากกองไฟมาล้างแค้น (หัวเราะ) นี่สงสัยผมแม่งมาผิดสายแล้ว (หัวเราะ)
อู๋ : ผมเข้าใจฟิลเขาเลยนะ แต่ต้องเอาออกบ้างเดี๋ยวจะโหดไป (หัวเราะ) เพลงนี้จะให้เป็นเพลงปิดท้ายอัลบั้มจริงๆ ผมอยากให้ปิดมืดๆ หน่อย
Cry Session
อู๋ : แน่นอนครับว่าเราปูมาขนาดนี้ก็ต้องมีโชว์พิเศษของอัลบั้ม อย่างที่ผมบอกความตั้งใจแรกที่จะทำอัลบั้มอะคูสติกก็คือ เวลาไปเจอสถานที่ ที่ไม่เหมาะกับเรา เราจะได้สามารถนำเพลงในอัลบั้มนี้ไปเล่นได้ อย่างที่สอง ผมอยากมีอัลบั้มอะคูสติกเป็นหนึ่งในไดอารี่ของวง และที่เป็นเหตุผลหลักก็คือ ผมอยากทำคอนเสิร์ตอะคูสติกที่มันเนิบ ตั้งแต่ต้นจนจบ คนทุกคนตั้งใจมาฟังดนตรีที่มันเพียวจริงๆ เราอยากได้ฟิลแบบ Unplugged จริงๆ สักที เราอยากให้ดนตรีสัมผัสกับคนโดยไม่ต้อง ทำบิวท์คนให้สนุก คือไม่ใช่แบบนั้นไม่ดีนะครับ แต่ผมอยากได้ฟิลแบบ Nirvana Unplugged ที่คนมาเสพดนตรีแบบนั้นเลย บรรยากาศแบบนั้นสักครั้ง ก็เลยมีแน่นอน ในวันที่ 29 กันยายน ชื่อว่า Cry Secret Session ที่ About Studio ซึ่งเราจะไม่ขายบัตร เราจะให้คนที่ซื้อ CD และมีโค้ดลับ และในโค้ดลับต้องมาลงทะเบียน สุ่มชื่ออีกที อาจจะมีการตอบแบบสอบถามเล็กน้อย คืองานนี้เป็นงานสำหรับคนที่ชอบเรามากๆ จริงๆ และอยากให้คนที่อยากดูคอนเสิร์ตแบบนี้ได้ลองมาดูกัน ส่วนอัลบั้มจะเริ่มขายวันที่ 6 กันยายนนี้ครับและอาจจะมีไปแจกลายเซ็นต์ด้วย
ฝาก
อู๋ : อัลบั้มนี้ ซีดีของ The Yers เราตั้งใจทำให้มันเป็น Rare Item ในทุกๆ อัลบั้ม อัลบั้มนี้ก็เช่นกัน อยากให้แฟนเราจริงๆ ซื้อในช่วงเวลานี้ ส่วนตัวผมเป็นคนที่โหยหาช่วงเวลาแบบที่ออกไปซื้อซีดี กลับมาฟังอ่านปก อ่านเครดิต ซึ่งผมอยากให้แฟนๆ เรามีช่วงเวลาแบบนั้นเช่นกัน และถ้าคุณเต็มที่กับเราโดยการไปซื้อ ซีดี คุณจะได้ของขวัญจากพวกเราเป็น 2 เพลง โบนัสแทร็คแน่นอน ก็ฝากอัลบั้มนี้ด้วยครับ อ๋อ นอกจากกดแชร์กดไลค์ ฝากกด See First ด้วย และขอบคุณ The Guitar Mag ด้วยครับ
สมาชิก
ยศทร บุญญธนาภิวัฒน์ (อู๋)
พนิต มนทการติวงค์ (ต่อ)
นิธิศ วารายานนท์ (โบ๊ท)
ถิรรัฐ ภู่ม่วง (บูม)
ขอขอบคุณ : พี่แก้ว genie records ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ครับ