วงอินดี้สุดเท่ ที่สมาชิกแต่ละคน มีความคูลกันสุดๆ ทั้งสไตล์เพลง และความฉูดฉาดในการแต่งตัว ตอนนี้พวกเขาได้มีผลงานใหม่ เราก็จะมาพูดคุยกับพวกเขาสักหน่อย
แค่อีกครั้งเดียว การเดินทางของ ครั้งใหม่ของเจ้านกสีชมพู
De Flamingo : จุดเริ่มต้นของเนื้อหามันจะเกี่ยวกับการรอคำตอบของคนๆ นึงว่าเขาจะรู้สึกยังไงกับเรา จะชอบเราหรือไม่ชอบ จะไปต่อหรือแยกทางกันไป ซึ่งการที่เราจะตอบอะไรออกมาก็คงต้องคิดมาดีแล้วจริงๆ เลยได้คำว่า “ฉันขอแค่โอกาสแค่ครั้งเดียว” แล้วก็จะไม่มีทางย้อนกลับมาได้แล้ว คือแต่ในใจลึกๆ ก็ยังรู้สึกอยากให้กลับมานะ พอได้คีย์เวิร์ดนี้ เลยเอามาคิดต่อเป็นเพลงนี้ขึ้นมาครับในส่วนของดนตรี จา จะแต่งโครงๆ มาครบทั้งเพลง ทั้งเมโลดี้ ฮุค เวิร์ส และส่งให้โบนัส เพื่อ Edit และแก้เปลี่ยนโครงเพลง เมโลดี้ให้ดีขึ้น แก้จนเหลือเนื้อเพลงที่ จา เขียนไว้แค่สามคำ (หัวเราะ) ก็แก้กันไปแก้กันมา พอเสร็จแล้วก็ได้พี่อู๋ The Yers มาเป็นโปรดิวเซอร์เพื่อตบให้เพลงมันเข้าที่ พี่อู๋จะมีการแก้เนื้อเพลงอีกรอบด้วย ที่ต้องแก้เยอะเพราะเพลงนี้เป็นเพลงช้าเพลงแรกของพวกเรา เลยต้องเน้นสักหน่อย
การร่วมงานกับ อู๋ The Yers
De flamingo : ช่วงที่เราทำอัลบั้ม ตอนที่ทำเพลง ฟังก่อนพวกเรามีโอกาสได้ไปดู The Yers แล้วได้คุยกับพี่ต่อมือกีตาร์ อัพเดตเรื่องราวทั่วไป แล้วพี่เขาก็ถามว่าทำไมวงเราไม่หาโปรดิวเซอร์ ตือพี่ต่อ เขารู้สึกว่าวงเราขาดอะไรสักอย่าง ก็แนะนำว่าทำไมไม่ลองให้พี่อู๋ช่วยโปรดิวซ์ให้ ซึ่งเอาจริงๆ แล้วมันไม่เคยอยู่ในหัวพวกเรา 4 คนเลย พวกเราก็เลยเก็บมาคิด มาคุยกันในวงว่าควรจะหาโปรดิวซ์กันดีไหม แน่นอนพวกเราก็อยากจะร่วมงานกับพี่เขาอยู่แล้ว เลยลองไปคุยกับผู้ใหญ่ในค่าย What The Duck รวมถึงคุยกับพี่อู๋เองด้วย จนทุกสิ่งอย่างก็ได้ลงตัว พี่อู๋ก็ตกลงที่จะมาทำงานกับพวกเราครับ เขามาสอนวิธีเขียนเนื้อให้เข้าใจง่ายและเคลียร์มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาพวกเราเองก็เขียนแบบงูๆ ปลาๆ ไม่มีความรู้มาก่อนเลยว่าวิธีเขียนเนื้อต้องทำยังไง ทำให้วิธีการทำงานเรามีกรอบมากขึ้น ในพาร์ทดนตรีเองก็ปรับเปลี่ยน อย่างตัวหลักๆ เลยก็จะเปลี่ยนคอร์ด ในบางจุด จากคอร์ด 1 ไป 6 หรือเปลี่ยนกีตาร์ตรงนี้แล้วเพิ่มท่อนร้องหน่อย หรือเวลาเข้าห้องอัดพี่เขาก็จะแนะนำว่ากลองตีเป็นสัดส่วนแบบนี้ดีไหม หรือกีตาร์ควรจะเลือกซาวด์ยังไง ก็จะเป็นเรื่องซาวด์และการใช้แอมป์ ซึ่งพี่ อู๋ ช่วยพวกเราเยอะ
MV
De flamingo : จริงๆ พอมันเป็นเพลงช้า เราก็เลยอยากให้คนเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งพระเอกที่เล่นหล่อมากด้วยครับ (หัวเราะ) (โบนัสเป็นคนเล่น) เหตุการณ์ก็จะถูกเล่าเรื่องภายในวันเดียว เป็นเรื่องของความสัมพันธ์คนสองคนที่กระท่อนกระแท่นด้วยปัญหาอะไรเราก็ไม่รู้ โดยโบนัสจะเป็นคนร้องเพลงและดำเนินเรื่องและจะเห็นภาพเก่าๆ ที่ทะเลาะกัน เพราะเขามีคนอื่น แต่สุดท้ายก็จบด้วยการนัดกันมาคุยด้วยการรอคำตอบว่าจะเอายังไงต่อประมาณนี้ ซึ่งแฟนๆ ทุกคนก็ชอบนะ จากที่อ่านๆ คอมเมนต์มาว่าเจอกับตัวเองบ้างไรบ้าง เราก็เลยดีใจว่าทำเพลงออกมาแล้วมันกระทบถึงคนฟังที่เขารู้สึกจริงๆ
กระทำการ “แมส”
De Flamingo : ก็คิดว่าเราพยามจะเป็นแบบนั้นอยู่ พยายามที่จะรักษาตัวตนและอยากจะเข้าถึงคนหมู่มากกว่าตอน ที่เป็น EP อัลบั้มด้วย เช่นในเรื่องเนื้อหาอัลบั้มเต็มก็จะเป็นเรื่องความรัก แต่ก็มีบางเพลงอาจจะเป็นความรักที่มีชั้นเชิง ในส่วน EP ที่ออกมาก่อนหน้านั้นเราจะพูดเรื่อง ความฝันของคน 4 คนที่เพิ่งจบมหาลัย และวงของเราจะเล่าเรื่องในช่วงชีวิตนั้นๆ จริงๆ ในช่วงตอนเรียนก็เลยออกมาเป็นแบบนั้น พอจะทำอัลบั้มเต็มก็อยากให้เป็นเรื่องความรักที่จับต้องได้ง่าย มีวิธีคิดอะไรที่ดีมากขึ้นบวกกับได้พี่อู๋เข้ามาช่วย เราก็ตั้งใจให้เข้าถึงแฟนใหม่ๆ ด้วย
De Flamingo คือวงอินดี้ ???
De Flamingo: ถ้าพูดตามตรงเรา 4 คนก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยู่ในกระแสอยู่แล้ว แต่เราปล่อยเพลงด้วยเราไม่รู้ว่าจะมีคนชอบหรือเปล่า หรือมีรสนิยมเดียวกันไหม จากวันนั้นถึงวันนี้เราแค่รู้ว่ามีคนชอบเรา ก็แฮปปี้แล้ว ซึ่งเราก็ไม่ได้รู้สึกว่าเราจะอยู่ในอันดับอะไรเลย กับการที่มีวงเยอะๆ เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าแข่งขันอะไรกันนะ กลับรู้สึกว่ามันเป็นสีสันอีกต่างหาก จากการที่ได้เจอเพื่อนๆ ในวงการเราก็จะมาอัพเดตคุยกันเรื่องเพลง แบ่งปันกัน ซึ่งมันทำให้รู้สึกสนุกมากกว่า
จากวันแรก ถึงวันนี้
De Flamingo: พวกเรารู้สึกว่าวงการนี้อบอุ่นกว่าที่คิดครับ เพราะก่อนที่จะเข้ามาเป็นศิลปิน เราจะรู้สึกว่าพวกที่เป็นศิลปินเข้าถึงยาก แต่พอทุกคนก็รู้จักกัน ก็เฮฮากันหมดครับ เป็นการเปิดโลกให้กับเราด้วยการรู้จักพูดคุยกับพี่ๆ ศิลปินที่เป็นไอดอลด้วย
แผนการในปีนี้
De Flamingo : ก็อยากจะทำอัลบั้มให้คนเข้าถึงง่ายด้วย ด้วยเพลงช้า แค่มีคนหนึ่งหรือสองสามคน ได้เอาเพลงนี้ไปใช้กับชีวิตตัวเอง เยียวยาความรู้สึกในการรอ หรือทำให้การรอมันสั้นลง แค่นี้พวกเราก็รู้สึกว่ามันสำเร็จแล้วครับ ดังนั้นก็ขอฝากซิงเกิ้ลใหม่ “แค่อีกครั้งเดียว” ด้วย เป็นเพลงที่พวกเรา 4 คนตั้งใจมาก และใช้เวลาทำนานด้วยความที่อยากจะให้มันออกมาดี และเป็นเพลงช้าเพลงแรกของ De Flamingoด้วย หากใครที่ยังไม่รู้จักพวกเราก็ลองฟังเพลงนี้กันก่อนก็ได้ครับ
เบาๆ กับ 4 หนุ่ม
ถ้า De Flamingo เดินเข้าร้านแผ่นเสียง แต่ละคนจะหยิบแผ่นอะไรขึ้นมากันบ้าง
ปอม : Sigur Ros ผมชอบวงนี้มาก ขนาดตอนจะเรียนจบ ทางมหา’ลัย จะให้สอบจบโดยให้จัดเป็นงานเล่นดนตรี ผมยังเล่นเพลงของวงนี้เลย ไปตัดเสื้อตามนักร้องของวง ไปสำเพ็งซื้อ พู่ ซื้ออะไรมาติดเป็นเรื่องเป็นราว ชอบมาก
บีม : Jack White เขาเป็นอีกด้านของผมที่จะดิบๆ ร็อคๆ หน่อย เขาชอบประดิษฐ์เครื่องดนตรี ชอบทดลอง เขามีโปรเจ็กต์หลายวง และแต่ละวงจะมีคาแร็กเตอร์เสียงกลองไม่เหมือนกัน เจ๋งมาก
จา : The Beatles ทำไมถึงชอบใช่ไหมครับ เอางี้ดีกว่า ผมตั้งชื่อ Facebook ว่า จา เลนนอน อ่ะ (หัวเราะ) ขนาดชื่อปกติของผมเขียนว่า Jar ผมยังเปลี่ยนเป็น Jahr ให้เหมือน John ก็คิดดูละกันครับ (หัวเราะ)
โบนัส : Dive นักร้องนำวงนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมรู้สึกว่า กูก็น่าจะร้องเพลงได้นะ (หัวเราะ) คือเขาจะร้อง งึมๆ งำๆ แล้วเพลงเป็นอินดี้ร็อคแบบ Low Fi มันส์มาก ไม่ค่อยมีคนฟัง ผมรู้ว่าได้แรงบันดาลใจมากๆ
สิงค์โปร์ ดินแดนแห่งความทรงจำ ของทั้ง 4 หนุ่ม
จา : จำได้เลยว่าข้าวมันไก่อร่อย (หัวเราะ) คือตอนนั้นเรา 4 คนไปดูคอนเสิร์ตด้วยกันที่สิงค์โปร์ เป็นเทศกาลดนตรีของที่นั่น ส่วนใหญ่จะไม่ได้ไปพร้อมกัน แต่มีครั้งนึง ที่เราหนีบโบนัสไปได้ เอาจริงๆ จะไปดู Dive กันนี่แหละ เพราะว่ามันมีชื่อมาเล่น แต่พอไปถึงวงมันดันแคนเซิ่ล (หัวเราะ) โบนัส นี่เซ็งเลย
ที่พึ่งของทุกคน
De Flamingo : เวลาพวกเราโชว์ แล้วเล่นพลาด คนแรกที่เราจะมองก็ คือบีม (หัวเราะ) ไม่ใช่บีมที่เล่นหลุดนะ แต่พวกเรานี่แหละหลุด (หัวเราะ) ก็จะแกล้งเนียนๆ หันไปยิ้ม ไปโยกหัวให้ จนบางครั้ง บีมเองก็งงว่า เอ๊ะ นี่คือกูเล่นหลุดเหรอ (หัวเราะ) ส่วนโบนัส เวลาลืมเนื้อ จะทำเป็นเล่นกีตาร์แล้วโยก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม โบนัสต้องหิ้วกีตาร์ (หัวเราะ)
เพลงของ De Flamingo ที่เหมาะกับแต่ละคน
ปอม : “รั้น”
บีม : “คนสำคัญ”
จา : “ฟังก่อน”
โบนัส : “แค่อีกครั้งเดียว”
ขอขอบคุณ : เฟิร์ส/วิ What The Duck ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ครับ