ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาการประกวดดนตรีที่พูดถึงและติดเทรนด์ Twitter คือรายการ Reality ดนตรี รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Band Lab ซึ่งหัวเรือใหญ่คือโอม Cocktail โดยการประกวดจะทำการ Audition วงดนตรี คัดจาก 307 วง เหลือ 20 วง และตอนนี้ก็เหลือตัวแทนทั้งหมด 6 วง หลังจากพวกที่พวกเขาผ่าน Stage มากมาย จาก EP ต่างๆ ที่หลายๆ คนคงได้ดูไปแล้ว ทางช่อง GMM25 ตอนนี้พวกเขาได้โจทย์ที่ยากสุดๆ ก็คือการทำคอนเสิร์ตด้วยตัวเอง ซึ่งจะเกิดขึ้นที่โรงภาพยนตร์ Scala ในวันที่ 8 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ แต่ก่อนที่จะเราจะไปดูพวกเขานั้น เรามาทำความรู้จักพวกเขาให้มากขึ้น โดยตัวแทนทั้ง 6 วง จะมาพูดคุยกับเราถึงเรื่องราวต่างๆ และมารู้จักตัวตนของพวกเค้ากัน…..เพื่ออรรถรสในการอ่าน ดูคลิปที่เราได้ถ่ายเอาไว้ด้วยก็ได้นะครับ 55
แนะนำ และพูดที่มาที่ไปแต่ละวง
Terrorbun : พวกเรา ตัวแทนจาก Turrorbun ครับมีผม บอสร้องนำ แชมป์ แล้วก็เต้ครับ พวกเราเล่นกันมา 4-5 ปี ก็ตั้งวงประกวด แล้วชนะเลิศ ใน ม. บ่อยก็เลยคิดว่าจะขยับขยายทำเพลงเอง จนเราเห็น Band Lab เปิด Audition ก็เลยลองสมัครเข้ามาดูครับ
Three Man Down : ผมกิต นักร้องตัวแทนจาก Three Man Down ครับ พวกเราเริ่มต้นที่ มหาลัย วงผมเกิดจากการนัดบอด (หัวเราะ) ตอนแรกผมจะทำวงกับเพื่อนอีกคน แต่ปรากฎว่าเพื่อนคนนี้ บอกว่าอยากจะไปทำกับเพื่อนเก่าของเค้า แต่จะแนะนำมือกลองให้ ก็นัดกันที่ร้านกาแฟ จน เต เดินมา ถามว่า นี่กิตใช่ไหม เราก็ตอบ ใช่ ก็โอเค ไปซ้อมกัน มีมือกีตาร์ รออยู่แล้ว นั่นก็เป็นที่มาเลยครับ จากนั้นเราก็เลยทำเพลง มีผลงานกับ Malama จนในที่สุดก็มาอยู่ที่ Band Lab
Methane : หญิง ตัวแทนจาก Methaneค่ะก็เป็นวงที่เริ่มมาจากการประกวดต่างๆ ได้ชนะเลิศ จาก Hot Wave Music Awards จนมาประกวดที่ Band Lab ค่ะ
สำราญรื่น : ผมเบสตัวแทนจาก สำราญรื่น ชื่อวงเป็นชื่อถนนเส้นนึง ในอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผม แล้วสมาชิกวงทั้งหมดก็เป็นเด็กต่างจังหวัด คือพวกเรามาเล่นกลางคืนในกรุงเทพฯ นั่นแหล่ะครับว่ากันง่ายๆ เสร็จแล้วก็ทำเพลงกันเอง ปล่อยกันเอง จนมีโอกาสมาประกวดที่ Band Lab ครับ
Tilly Birds : เติร์ด ตัวแทนจาก Tilly Birds จริงๆ วง เราถ้าผวนคำจะเป็น เติร์ด บิลลี่ ผม 2 คนทำวงมาด้วยกันตั้งแต่มัธยม ก็ทำเพลงหนักไปทางสากล จนไปเข้า ธรรมศาสตร์ เข้า TU Folksong ได้เจอ ไมโล กับ เบ๊บ เลยรวมตัวกัน พอได้วงเราก็อยากทำเพลงไทยมากขึ้น ประกอบกับที่ผ่านมาเราทำกันเองก็เหนื่อย อยากได้คนซัพพอร์ต ก็เลยมาลองประกวดที่ Band Lab ครับ
Commander : เอ้ ตัวแทนจาก Commander วงผมรวมตัวกันมา 10 ปี ก็เล่นกลางคืนมานาน เริ่มทำเพลงก็มีผลงานแล้ว บ้างแต่ ก็หยุดไป 2 ปี จนมี Band Lab เลยลองส่งมาประกวดอีกครั้ง
ความรู้สึกแรกที่ Audition ผ่าน ของแต่ละวง
บอส Terrorbun : ไม่เคยคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ ก็ตื่นเต้นว่าเราจะได้ทำอะไร ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ บ้าง
กิต Three Man Down : ผมกลัว กลัวการเข้าสู่ดนตรีกระแสหลัก ซึ่งพอเข้ามากำแพง ตรงนี้มันพังทลายไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งรู้สึกดีมากจริงๆ
หญิง Methane : ก็ดีใจที่ได้มาร่วมรายการนี้ เพราะพวกเราไม่เคยมีประสบการณ์ ในหลายๆ เรื่อง ได้ทำอะไรเร็วกว่าที่คิด ดีใจที่ได้ร่วมรายการ
เบส สำราญรื่น : ผมว่ามันมหัศจรรรย์มากจาก 307 วง ทั่วประเทศ เหลือ 20 วง แล้วพอคัด 20 วง แล้วมา เหลืออีก 4 วง มันบีบมาก กดดันมาก ซึ่งรู้สึกดีใจมาก
เติร์ด Tilly Birds : สำหรับผมส่วนตัวไม่ตื่นเต้น เพราะผมไปประกวดมาหมดแล้ว และชินมากกับการถูก ปฏิเสธ (หัวเราะ) ก็บอกเพื่อนที่วงว่าถ้าไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร เราก็เปิดเพลง I Will Survive แล้วก็ทำต่อ (หัวเราะ) แล้วพอผ่านเข้ามาได้ เราก็กลัว เหมือน Three Man Down เพราะเราอยู่ใน กลุ่มอินดี้ เราไม่รู้ว่าการเข้ามาที่ เมนสตรีม แบบนี้จะต้องทำยังไง จะเสียตัวตนไหม มันมีแต่คำถาม แต่พอมาถึงจุดนี้ คำถามถูกตอบหมดแล้ว
เอ้ Commander : ของผมก็เหมือน ทุกวง ดีใจที่ได้ติดเข้ามา มันเป็นโค้งสุดท้ายของพวกผม ที่ผ่านมาเรทำงานกันเอง ทั้ง 4 คน มีเห็นตรงกัน ไม่ตรงกันบ้าง แต่สิ่งที่เราอยากได้อย่างมาก ก็คือ คนที่จะมาตัดกรอบให้พวกเรา ซึ่งพอเราเข้ามา Band Lab เราได้พี่ๆ หลายคนช่วยก็รู้สึกดีมากครับ
ตอน ออดิชั่นผ่าน วางแผนอะไรยังไงบ้าง
เติร์ด Tilly Birds : วงเราค่อนข้างมีความเป็นตัวเองสูงที่ผ่านมาไม่ค่อยสุงสิงกับใคร พอเราเจอ อีก 5 วง เราก็มั่นใจในตัวเองนะ มีอีโก้แหล่ะ แต่ว่า พอเราต้องทำงานร่วมกับวงอื่นในรายการนี้ทำให้ลดตรงนี้ลงไปเยอะ
เอ้ Commander : เอาจริงๆ ไม่มีแผนอะไรเลยครับ (หัวเราะ) อย่าง EP แรกเราก็มาประชุม ว่าจะอะไรยังไง พอถ่ายไป ก็รู้ว่าไม่ต้องประชุมดีกว่า คือ ถ่ายปั๊ป อีก 2 ชั่วโมงเปลี่ยนโจทย์ (หัวเราะ) อย่างนั้นต้องหน้างานอย่างเดียว ผมมาประกวดแบบไม่คาดหวังเลย หัวโล่ง จะเคืองอย่างเดียวให้ผมร้องเพลงผู้หญิง 2 เพลง (หัวเราะ)
เบส สำราญรื่น : ผมเหมือนพี่ เอ้ เลย คือ ตอนแรก เราก็ต้องวางแผนรับมือ แต่พอไปๆ มาๆ รายการ มัน Real มาก อาจจะมีเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ก็เลยไม่ต้องวางแผนมันแล้ว
กิต Three Man Down : คือรายการเขายังไม่รู้เลยฮะว่าจะทำอะไรต่อ (หัวเราะ) แชมป์ : เขารู้แต่เขาไม่บอก (หัวเราะ) เอ้ : มีแบบถ่ายๆ อยู่ เปลี่ยนโจทย์ ก็มี (หัวเราะ) เติร์ด : แล้วแต่อารมณ์ พี่โอม เหมือนเขาสนุกเวลาเห็นเราลนลาน (หัวเราะ)
หญิง Methane : พวกหนูสมองเบลอไปครึ่งรายการเลย เพราะแต่ละ Stage มันโหดมาก อย่างแต่งเพลงใน 3 วัน เราไม่เคยทำอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย ก็ต้องอาศัยคำแนะนำจากพวกพี่ๆ
พอมาลุย แต่ละ Stage วงคิดว่า Stage ไหน ยากที่สุดสำหรับวงเรา แล้ว Stage ไหนที่ประทับใจบ้าง
กิต Three Man Down : ของพวกผมคือ ตอนที่เล่นเวทีจริง พวกผมเคยเล่นแต่งานอินดี้ ที่คนรู้จักผลงานของเราอยู่แล้ว คราวนี้เราไปเล่นที่ร้าน Twenty Something ซึ่งคนดู มากินข้าวกัน ประมาณ 200 คน ทางร้านประกาศว่าจะมีการ โหวต โดยให้แปะสติ๊กเกอร์ ซึ่งพวกผมพอขึ้นไปเล่น ได้สตื๊กเกอร์มา 4 ใบ ไม่ต้องแปะก็ได้ คนรู้จักทั้งนั้น (หัวเราะ) คือเราเล่นด้วยความเคยชินของเรา เราไม่ได้เทคแคร์คนมาดูเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราเรียนรู้จากรายการนี้
หญิง Methane : ก็เป็น EP ที่ ต้องทำ MV เอง เพราะวงเราไม่เคยทำด้านนี้เลย ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็ต้องให้พี่ๆ ช่วย
แชมป์ Terrorbun : ของพวกผมเป็น EP 2 ที่ต้องแต่งเพลง คือพวกเราก็มั่นใจแหล่ะ ว่าเรามาต้องได้ที่ 1 ก็วาดฝันไว้เยอะ แต่พอผมแร๊พ ก็ขึ้นไปมั่ว ร้องผิดร้องถูก ปรากฎว่าเราได้ที่โหล่ ซึ่งเฟลมาก รู้สึกรายการนี้ไม่ใช่ที่ของเราแล้ว แต่หลังจากนั้น เราก็เริ่มคิดได้ว่า เออ กู ก็ผ่านจุดที่แยที่สุดมาแล้ว จากนั้นอะไรก็ได้สบายๆ (หัวเราะ)
เบส สำราญรื่น : ของผมจะเป็น EP ที่ทำเกี่ยวกับดนตรีไทย เป็น EP ที่ดีและแย่ สำหรับผมและวงด้วย คือเราตั้งความหวังไว้สูง และประมาณตัวเองมากไป ผมเป็นคนคิดเยอะ เยอะจนคนรอบข้างรู้สึกว่าเราเริ่มคิดเยอะเกินไป พอใน EP นี้เราเอาเพลงที่เราทำไปเล่นปรากฏว่ามีคำพูดนึงที่บอกว่า คุณไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย ซึ่งในหัวผมตอนนั้น มันก็คิดว่าอ้าวก็ถ้าเปลี่ยนเยอะก็กลายเป็นคิดมาก คิดน้อยก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร ซึ่งกลายเป็นว่าเรา นอยด์ นอยด์เพื่อนร่วมวง ลามไปน้องๆ จนมาคิดได้ว่า ถ้าเรายังมีอารมณ์แบบนี้ แสดงว่าเรายังไม่มืออาชีพ เป็น EP ที่เปลี่ยนวิธีคิดผมไปเลย
เติร์ด Tilly Birds : ของผมยากหมด โดยเฉพาะ EP ที่ไปเล่นสดที่ Twenty Something ทางรายการไม่ได้บอกอะไรเราเลย มาถึงมี พรมแดง มีลีมูซีน ไปเล่นก็ไม่ได้เช็คไมค์ ไมค์ดับไปครึ่งเพลง ข้อด้อยที่สุดของวงเรา คือเราไม่ค่อยได้เล่นสด ถือว่าอ่อนที่สุด เราตื่นเวทีมาก แต่ก็บังเอิญได้ที่ 2 (หัวเราะ) กิต : แหม พวกผมนี่เต็มที่ได้ที่โหล่ (หัวเราะ)
เอ้ Commander : ของผม EP 2 วงผมจะถูก Bypass เข้ามาได้แต่งเพลงเลย คราวนี้ผมได้โจทย์จากพี่โอม ตอน 4 ทุ่มครึ่ง ให้แต่งแล้วไปอัดคืนนั้นเลย เพื่อเอาไปใช้ในรายการ มันก็จะมีการปรับแก้ คราวนี้ พอถึงเวลาจริงๆ ด้วยความที่เนื้อร้องผมจะจำตัวแรกที่แต่งไป เลยร้องผิด ร้องถูกอยู่เอยะ ด้วยเวลาที่รีบ ทำให้ผมรุ้สึกว่า EP นี้มันยาก
หลังจากผ่านรายการ Band Lab มีความคิดอะไรที่เราคิดว่าเปลี่ยนไปจากเดิม
เอ้ Commander : สำหรับผมคือ โลกมันเปลี่ยนไปเยอะ เราได้เห็นวงน้องๆ ทำให้เห็นว่า เด็กเก่ง และมีสไตล์ที่หลากหลาย ซึ่งพวกเขามีวิธีคิด มีเครื่องเล่นใหม่ๆ ที่มันตอบโจทย์ดนตรียุคนี้ ทำให้เราต้องค่อนข้างอัพเดตตัวเอง พอสมควร
กิต Three Man Down : อย่างที่บอกตอนต้น คือวงเรามีกำแพง ที่เรากลัว กลัวเข้า Grammy แล้ว กลายเป็น Mass กลัวการเป็น Mainstream แต่พอเราทำลายกำแพง ตรงนี้ไปเราก็ได้คำตอบว่า ก็ นี่คือดนตรีหรือเปล่า มันก็ดนตรีเหมือนกัน เราจะแบ่งแยกทำไม ซึ่งทำลายกำแพงวงอินดี้อย่างพวกผมที่แบบ ไม่อยากจะเล่นเพลงแบบนี้ มันไม่มีอีกแล้ว ทุกคนเล่นดนตรีเหมือนกัน
หญิง Methane : ของหนู คือได้รู้ว่าการทำงานของศิลปินจริงๆ กว่าจะออกผลงานเพลงนึง มันยาก แต่พอเห็นกระบวนการจริงๆ มันยากกว่าที่คิดเยอะเลย ไม่เคยคิดว่าจะต้องมีขั้นตอนอะไรซับซ้อนขนาดนี้ เราต้องรู้รอบด้านจริงๆ ทุกอย่างมีขั้นตอนของมัน แม้เราจะมีทีมที่ทำให้เราอยู่แล้ว แต่ตัวเราเองที่เป็น นักร้อง ศิลปิน เราก็ต้องมีความรู้เพื่อคุยกับทีมงานได้ อะไรที่ปรับจูนกันได้เพื่อให้ได้ผลงานที่ดีที่สุด
แชมป์ Terrorbun : คือตั้งแต่ EP แรกเราก็ได้ที่โหล่แล้ว ทั้งๆ ที่ พวกเรามั่นใจกันมาก ดังนั้นเราเลยค่อนข้างวางแผน แต่สุดท้ายก็อย่างที่บอกมันวางแผนอะไรไม่ได้ เราก็เลยต้องใช้ประสบการณ์ แล้วก็ปล่อยไป คือ รายการ เขาเหมือนจะคอย ประคองให้เราเข้าที่ ซึ่งก็ยังไม่เข้าที่เลย (หัวเราะ) ก็ซีฃั่น 2 ก็น่าจะเข้าที่ได้
เบส สำราญรื่น : พวกเราเล่นกลางคืนกันมาก่อน เป็นนักดนตรีกลางคืนที่มีประสบการณ์ ในสังคมกลางคืน พวกเราจะคิดว่าเราเล่นได้ดีแล้ว เก่งแล้ว จนมาในรายการนี้ เราเห็นน้องๆ เพื่อนๆ ทำเพลงมาในแบบที่เราไม่เคยได้ยิน มันทำให้เราต้องหยุดดู หยุดคิดนะว่าโลกสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เราต้องถีบตัวเอง ซึ่งตอนนี้ พอเราได้อยู่กับน้องๆ ทำให้เราคิดว่า Band Lab ไม่ใช่แค่การประกวดแล้ว ตอนนี้ทุกคนคือครอบครัว ทุกคนคือ Gene Lab ที่ต้องช่วยกัน ต่อไป
เติร์ด Tilly Birds : ตอนแรกเรามองว่า ทุกคน ก็ต่างคน ต่างทำงานในวงตัวเอง แต่พอมารวมกัน ได้ทำงานร่วมกัน เรารู้สึกว่า เออ เราเจอกลุ่มคนที่ใช่นะมันผูกพันกัน คือถ้าวงเราไม่ได้มา Band Lab เราก็คงอยู่แต่ในถ้ำของเรา ไม่ได้เจอผู้คน ไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวัน ซึ่งพอมาทำให้เราได้เจอคนมากขึ้น ได้เปิดโลกมากขึ้น
พูดถึง พี่โอม Cocktail และโค้ชแต่ละท่านหน่อย
แชมป์ Terrorbun : พี่โอม หลายคนอาจจะมองว่าเขาซีเรียส จริงๆ พี่เขาเป็นคนน่ารัก (หัวเราะ) เขาค่อนข้างเทคแคร์พวกเราดีเลย แต่ด้วยคาแร็กเตอร์ที่เขาเป็น อย่างมี EP ที่เราไปเล่นสด แล้วพี่โอมแกเล่นมุก ซึ่งเวลาแกเล่น เราก็ไม่รู้ว่าแกเล่นหรือเอาจริง ซึ่งใน EP นี้เราจะไม่รู้ว่าจะมีใครมาดูเราบ้าง เขาเดินมาถามผม แชมป์ พ่อมึงสบายดีหรือเปล่า คือ แกจะเล่นมุกนั่นแหล่ะ แต่ด้วยคาแร็กเตอร์เค้า เราก็เลยสงสัย เอ๊ะ พ่อกูเป็นอะไรเปล่าวะ (หัวเราะ) แต่ผมก็ตอบนะ ว่า สบายดีครับ ที่วง ก็เลยนึกว่า จะเชิญ พ่อผมมาดู (หัวเราะ) แต่พ่อผมวันนั้นก็อยู่บ้านนะ (หัวเราะ)
เติร์ด Tilly Birds : ตอนแรกรู้สึกว่า พี่โอม ดูเคร่งขรึม น่ากลัว พออยู่ไปเรื่อยๆ ก็อย่างที่บอกว่าแกเป็นน่ารัก เทคแคร์คนอื่นดี เหมือนพ่อ ของค่าย ส่วนพี่ ฮอน เป็นแม่ พี่หมี เป็นลุง (หัวเราะ) แชมป์ : พี่หมีเป็นลูก ลูกพี่โอม พี่ฮอน (หัวเราะ) เติร์ด : คือพอมันเป็นการทำงานแบบนี้ มันไม่ใช่เจ้านายลูกน้อง มันก็เลยค่อนข้างสบายใจ แล้วแกทุ่มเทมาก จำลองประสบการณ์ทุกอย่าง มาอยู่ในรายการนี้ เพื่อให้พวกเราจริงๆ
เบส สำราญรื่น : อย่างผมเองก็เป็นคนที่ ทัศนคติแย่นะระดับนึง จนมาเจอพี่โอม พี่โอมบอกว่าเราจะเห็นตัวเราได้จากกระจกที่ผ่านจากสายตาคนอื่น เขาจะบอกว่าเราเป็นยังไง
กิต Three Man Down : ผมขอพูดถึงโค้ชผมหน่อย คือ พี่ อู๋ The Yers เขาเป็นตัวพ่ออินดี้ อยู่แล้ว แต่เขาก็มาอยู่ใน เมนสตรีมด้วย เหมือนผมตามรอยเขาอยู่ เขาบอกผมว่าเหมือนเห็นตัวเองตอนเด็กๆ ซึ่งเขาบอกผมอยู่ตลอด
หญิง Methane : ของหนูเป็นโค้ช พี่ เจ๋ง ซึ่งพี่เจ๋ง จะไม่ได้ให้คำแนะนำมาก พูดไม่เยอะ แต่ค่อนข้างตรงจุด คือพูดนิดเดียวก็ได้เลย
เติร์ด Tilly Birds : มีรอบ Battle มั้งแกมาดู แล้ว แบบเอนหลังเอาหมวก ปิดหน้า เราก็นึกว่าแกหลับ (หัวเราะ) พอเล่นเสร็จแกก็ลุกขึ้นมา บอกให้ปรับนี่ นั่นนิดหน่อย ผมก็ถามพี่ฟังใช่ไหมครับ แกบอก ฟังๆ (หัวเราะ)
เบส สำราญรื่น : พี่เจ๋งพูดไม่เยอะ เจอพี่หนุ่ม แนะนำผมง่ายๆ เลย EP ที่ผมนอยด์ๆ น่ะ แกแนะนำบอกว่า “เราว่าดีแล้วนะ” (หัวเราะ)
แชมป์ Terrorbun : ของวงผมแกก็บอกแบบนี้ พี่ได้ที่ 5 ใช่ไหม ผมที่โหล่ (หัวเราะ) อันนี้ไม่ได้โทษโค้ชนะ (หัวเราะ)
มาถึงตอนนี้จะมีคอนเสิร์ต อยากให้เล่าที่มาที่ไป ของคอนเสิร์ตหน่อย ใครทำอะไรบ้าง มีเป้าหมายและหน้าที่อะไรกันบ้าง
กิต Three Man Down : พวกเรากำลังจะมี Band Lab Live Concert เป็นงานที่พวกเราทำกันเองโดยที่พี่โอม โยนเงินมาให้ แล้วบอกว่าขอให้ได้คนมากกว่า1,000 คน ขอให้โชคดี (หัวเราะ) แล้วก็เดินหายไป พวกผมก็อึ้งเลย งานนี้พวกเราก็ทำงานกันเองตั้งแต่หาสถานที่ เครื่องเสียง Lighting ต่างๆ ทำโปสเตอร์ โปรโมต ทุกวงจะมีหน้าที่ทำตามที่ถนัด โปสเตอร์ ทีเซอร์ทำกันเอง ก็ตอนนี้ได้ที่เล่น ที่ Scala ครับ ด้วยโจทย์ที่ต้องการคน 1,000 คน กับงบที่ให้มา เราก็ต้องพยายามจัดโชว์ ซ้อม เราก็ลงแรงไปเต็มที่ ซึ่งผลลัพธ์ก็ดีเกินคาด เพราะบัตร Sold Out ไปแล้ว (แต่มีแจกอยู่ในเพจ The Guitar Mag) เล่นวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ ประตูเปิด 17.00 แต่คนที่มารับบัตร Register เร็วหน่อย สักบ่ายสาม มาเล่นเกมส์ กิจกรรมมากมาย
ฝากผลงาน
Terrorbun : ฝากติดตามวงเราใน Band Lab ได้เลยครับ แล้วก็เพลงที่มีให้ทุกคนฟัง ตอนนี้มีชื่อเพลงว่า ไปดูหนัง ติดตามได้ทุกช่อง Streaming และ Social
Three Man Down : หลังจบรายการ น่าจะมีเพลงใหม่ชื่อเพลง ผ่านตา แล้วก็สามารถตามหาผลงานเก่าๆ ของเราได้ มี่ทุกๆ Channel ทุกช่องทาง Social
Methane : ก็ติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่ Methane Official แล้วก็เป็นดูพวกเราได้ทาง Band Lab ทุกวันเสาร์ 5 โมงเย็น ทางช่อง GMM25 ด้วยค่ะ
สำราญรื่น : ฝากติดตาม Band Lab ด้วยครับ กำลังเข้มข้น และติดตามพวกเราได้ใน Page ของพวกเรา และจบรายการ น่าจะมีเพลงกับ Gene Lab สัก 1 Single ครับ
Tilly Birds : ติดตามพวกเรา ได้ใน ทุกช่องทาง Social และ Streaming เราก็มีเพลงเก่าๆ ให้ได้ฟังกันพอสมควร ฝากติดตามด้วยครับ และที่ขาดไม่ได้ Band Lab Live Concert เล่นด้วยแขน และเครื่องดนตรี เสมอมา (หัวเราะ) ในวันที่ 8 กรกฎาคม ครับ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป
Commander : ก็ฝากรายการ Band Lab และ น้องๆ ทุกวงด้วยครับ ส่วน Commander ก็ติคตามพวกเราได้ที่ Fan Page นะครับ สุดท้ายก็ฝากคอนเสิร์ตของ Band Lab ด้วยนะครับ