วงดนตรีที่ขึ้นชื่อว่ามีการเล่น และดนตรีที่มันส์แบบมีเอกลักษณ์ ที่มีชื่อสั้นๆ ว่า The Yers หลังจากที่สร้างชื่อในวงการ อินดี้จนวันนี้เป็นที่ยอมรับในวงกว้างแล้ว พวกเขากำลังจะออกอัลบั้มใหม่ ในแนวทางที่เรียกได้ว่า ฉีกแนวทางที่เคยทำมานั่นคือการทำเพลงอะคูสติกทั้งอัลบั้ม ตอนนี้มีปล่อยมาให้เราได้ดู ได้ฟัง 2 เพลง คือ “พายุหมุน” และ “เกลียด” ที่กำลังมาแรง ทำไมพวกเขาถึงตัดสินใจแบบนั้น ไปฟัง The Yers เล่าให้ฟังกันดีกว่า
ทำไมทั้ง 2 เพลงอย่าง “พายุหมุน” และ “เกลียด” ถึงเป็นอะคูสติก
The Yers : จริงๆ แล้วทั้งอัลบั้มจะเป็นอะคูสติกหมดเลย เราตั้งใจจะเป็นอัลบั้มที่ไม่มีเครื่องดนตรีไฟฟ้าเลย ซึ่ง Single แรก พายุหมุนก็เป็นอะคูสติกแบบ 100% เลย จนถึง “เกลียด” ด้วย และรวมถึงเพลงที่ยังไม่ได้ยินกันด้วยครับ
พูดถึง “พายุหมุน” ก็ยังมีความดิบอยู่
อู๋ : เป็นเพลงที่ผมเองก็ไม่กล้าปล่อยเป็นซิงเกิ้ลแรก แต่ทางวงและค่ายเหมือนทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นซิงเกิ้ลแรก แต่ด้วยซาวด์และวิธีการเล่นมันพอกีตาร์อินโทรขึ้นมา มันบ่งบอกได้เลยว่ามันเป็นอะคูสติก แบบ The Yers ก็เลยปล่อยให้มันเป็นซิงเกิ้ลแรกครับ มันดูแรงด้วยชื่อล่ะครับ ใช้หลอกคนฟัง (หัวเราะ) ซึ่งเพลงก็จะเป็นสไตล์นี้ทั้งอัลบั้ม
แล้วกับเพลง “เกลียด” ล่ะเป็นอะคูสติกแบบไหน
อู๋ : อยากได้อะคูสติกที่เป็น R&B ครับ ซึ่ง R&B ของ The Yers อัลบั้มก่อนๆ หน้านี้จะมีอยู่แล้ว ซึ่งผมเป็นคนที้บ้าเมโลดี้ของ R&B มาก โดยเฉพาะดนตรี R&Bสมัยใหม่ที่เรียกกันว่า Neo R&B ที่มันเป็นอินดี้ทั้งหลาย คือเราชอบมาก เวลาเขียนเมโลดี้ R&B ออกมาเราก็จะนึกว่าเราเป็นคนผิวสี แล้วเขียนเมโลดี้ออกมามันจะได้รสชาติอะไรใหม่ๆ ที่จะมาเติมดนตรีร็อคที่เราชอบ ก็เลยอยากจะมีอะคูสติกที่เป็น R&B สักเพลงครับ
แล้วได้ถามเพื่อนๆ รึยัง
ต่อ : คืออู๋เขาก็แต่งเองปกติอยู่แล้ว ก็จะถามว่านั้นดีไหมนี้ดีไหม ซึ่งเราก็เห็นด้วยอยู่แล้วที่เขาอยากจะสื่อออกมา พอฟังเพลงนี้ครั้งแรกก็รู้สึก โอ้โห!! จะเล่นอะคูสติกแบบนี้เหรอ ก็คิดในใจกับโบ๊ทว่า เอ๊ะ! มันจะโล่งไปไหม
อู๋ : โบ๊ทหนักสุด (หัวเราะ) เพราะไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้ในชีวิตเลย
โบ๊ท : คือมันก็ต้องฟีลลิ่งมาก ก็ต้องจูนใหม่ปรับใหม่กับการใช้เบสโปร่งด้วย ยากตอนอัดครับ พอไมค์กิ้งมันเข้าหมดเราพลาดอะไรก็ได้ยินชัด
บูม : ของผมนี่พูดจริงๆ ว่าสบายมากครับ (หัวเราะ) พาร์ทกลองพอมันเป็นอะคูสติกเราก็จะเล่นเนิบๆ สบายมันก็จะไม่โฉ่งฉ่าง ก็ได้เพลงช้ามาคั่น เวลาเล่นโชว์พักเหนื่อย (หัวเราะ)
อู๋ : เพลงนี้ต้องให้เครดิต เพียว Polycat ด้วยครับ ที่มาช่วยเพิ่มความเป็นคนผิวสีกับโบ๊ทตอนอัดเบส กับพวกลูกส่งต่างๆ
โบ๊ท : เพราะเวลาแต่งไลน์เบสผมก็นึกลูกส่งสไตล์นี้ไม่ออก เลยนึกถึงเพียวก็เลย เฮ้ย! ป่ะกินข้าว (หัวเราะ) ก่อนสอนก็เลยเลี้ยงข้าว ใช้ของกินหลอกล่อกันก่อน (หัวเราะ) ซึ่งผมก็คิดลูกเบสมาประมาณนึงละ พอเจอเพียวก็จะช่วยปรับเปลี่ยนโน้ตนี้ๆ หน่อยก็จะออกมาเป็น R&B ที่ถูกต้องทันทีครับ
เนื้อหาเพลงนี้เกี่ยวกับอะไร
อู๋ : เพลงนี้มาจากการไปชอบคนนึง อยากจะแต่งเพลงๆ นึงที่จะไปบอกคนๆ นี้ว่าเกลียดคนๆ นึงมาก คิดไปคิดมาแล้วมีช่วงหนึ่งที่ผมไปทำงานแล้วขับรถกลับบ้าน ก็เลยนึกถึงเพลงนี้ขึ้นมาว่า เฮ้ย!! เราไม่ได้เกลียดเขาแต่เกลียดตัวเราเองมากกว่า ว่าคิดถึงเขาอีกแล้ว ซึ่งก็ได้เป็นท่อนฮุคขึ้นมา มาคล้ายๆ กับเพลงระหว่างขับรถเลยครับ(หัวเราะ) คือมันพุ่งขี้นมาแล้วมันแบบ เออ..มันใช่จริงๆ ตรงที่ว่า ถ้าเรานึกถึงเขา เราจะไม่เกลียดเขาเลย ก็เกลียดตัวเองมากๆ ที่แบบเช้าก็คิดถึงเขา เที่ยงก็คิดถึงแต่เขา เย็นก็นึกถึงประมาณนี้
พอรวมแล้วเนื้อหาตรงกับที่เราคิดไว้ว่าเป็น Neo R&B มั้ย
อู๋ : ตรงมากๆ คือเพลงนี้ไม่ได้เป็น R&B ที่เราอยากได้ 100% เพียงแต่ได้กรู๊ฟมันมา แล้วพอมาอยู่กับอะคูสติกผมว่ามันพอดีมาก มันทำให้น่าฟังและฟังได้เรื่อยๆ ซึ่งเป็นเพลงเดียวของผมเองเลยที่อยู่กับมันมานานจนปล่อยมาถึงทุกวันนี้ก็ยังฟังอยู่ครับ
กับความเป็น Neo R&B เพลงนี้ร้องยากไหม
อู๋ : คือผมจะชอบร้องหลบอยู่แล้วกับท่อนฮุค เลยไม่ยากเท่าไร เพราะเมโลดี้ไม่ได้แตะไปสูงมาก ท่อนฮุคผมจะร้องหลบเพราะถ้าร้องเต็มเสียงมันจะเป็นอะไรที่ไม่น่าฟัง
MV เป็นอย่างไรบ้าง
บูม : เกี่ยวกับผู้หญิงที่อกหักมาทำงานอยู่ร้านอาหารละก็ลูกค้าที่มาดันเป็นแฟนใหม่ของแฟนเก่า เลยเกิดความหึงหวงขึ้นประมาณนี้ครับ ไม่ใช่ชีวิตจริงคนในวงนะครับ (หัวเราะ) ซึ่งเราก็ชอบกันมาก
การปรับมาเป็นอะคูสติกยากขนาดไหน
อู๋ : คนจะกลัวมากว่าจะเปลี่ยนเป็นอะคูสติกแล้วมันจะไม่สนุกไหม แต่เปล่าเลยเราเล่นโชว์เหมือนเดิมทุกอย่างแต่เพิ่มโชว์อะคูสติกเข้าไป คือผมคนเดียวด้วยซ้ำที่เปลี่ยนจากกีตารไฟฟ้ามาเป็นกีตาร์โปร่ง ที่เหลืออย่างเพลงเกลียดและพายุหมุนยังเป็นกีตาร์ไฟฟ้าและกลองเหมือนเดิม พร้อมการอะเร้นจ์ให้โชว์มันไม่หงอย เอากันตรงๆ ก็คือเพลง เป็นอะคูสติก แต่เวลาไปโชว์ ยังเต็มแบนด์เหมือนเดิม อย่างพวกเสพติดความเจ็บปวด คืนที่ปวดร้าว เพลงเก่าๆ เราก็เล่นเหมือนเดิม
คาดหวังอย่างไรบ้าง
อู๋ : เราอยากจะมีเพลงที่เป็นโหมดซอฟท์ในแบบของ The Yers เพื่อที่เราจะเป็นอะคูสติกเมื่อไรก็ได้ เพราะเราเจอสถานการณ์อย่างร้านอาหารที่คนนั่งกินปลาหมึกนึ่งมะนาว ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา อะไรแบบนี้ (หัวเราะ) เราสามารถบอกเทคนิเชียลว่าเอากีตาร์ไฟฟ้าไปเก็บแล้วเอากีตาร์โปร่งมาก็ปรับเป็นวงแบบนั้นได้ทันที แล้วเราก็อยากมีคอนเสิร์ตๆ นึงที่เราเล่นอะคูสติกจริงๆ นิ่งจริงๆ อย่างวงที่เราชอบอย่าง Korn Unplugged แล้วแบบโอ้โห…จากวงที่มันกระโชกโฮกฮากมากๆ พอมาเล่นอะคูสติกแล้วแบบกลายเป็นโชว์ที่ลื่นไหลไปตลอดโชว์ตั้งแต่ต้นจนจบ คนฟังโฟกัสกับการเล่นมากๆ เลยอยากทำแบบนั้นบ้าง และอาจจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางทำมาหากินของเราครับ (หัวเราะ)
The Yers กับ ประสบการณ์ที่มากขึ้น
g19
อู๋ : งานนี้ ทำให้เราได้รู้เลยว่าใน 20 วงเรายังเป็นวงที่ 20 และต้องสู้อีกเยอะมาก เพราะเราต้องฝึกอีกเยอะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแนะนำตัวให้คนหมู่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ ผม ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นเรื่อยๆได้ทีโอกาสทำเพลง ธีมงาน ซึ่งทำให้รู้ว่าเรายังเป็นแค่เด็กคนนึงที่เราต้องสู้อะไรที่เยอะมากจากการที่เราอยู่หลังเวทีที่ได้เห็นวงอื่น แบบ โอ้โห เราเตรียมงานน้อยมาก เมื่อเทียบกับวงอื่น
โบ๊ท : ประสบการณ์กับเวทีใหญ่จริงๆ กับราชมังคลาฯ ซึ่งผมก็ไม่เคยรู้หรอกว่านักร้องที่ไม่ใส่ Ear Monitor แล้วเดินไปข้างหน้าจะได้ยินไม่เท่ากันจากการดีเลย์และสัญญาณแทรกเวลาเล่น ซึ่งทำให้เป็นประสบการณ์ใหม่ แล้วเราจะได้ประสบการณ์ใหม่ด้วย
กับฟักแฟง No More Tears มาเป็น Guest ได้ยังไง
อู๋ : ผม กับ บูม , เต้, ไอซ์ เรียนคลาสเดียวกันที่ศิลปากร แล้วผมก็นึกถึง Guest ว่าจะเป็นใครดี โดยที่ genie ให้ส่งเพลงว่าจะ Coverเพลงอะไรไหมหรือจะรับเชิญใครไหม ซึ่งเราก็ไม่อยากซ้ำรอยเดิมอย่างที่แฟนๆ รีเควสมาเยอะมาก “ขอ ดีแต่ปากครับพี่ๆ” คือแบบว่าเล่นมาตั้งแต่ g16 ก็แบบไม่อยากจะขายของเดิม ก็เลยคิดไปคิดมาก็นึกถึง 1 ในเพลงที่เราชอบก็คือเพลง “ความพยายาม” ซึ่งถ้าเรา Cover เราก็ต้องร้องเสียงต่ำ ทั้งเพลง คนเดินออกแน่ ก็เลยโทรหาฟักแฟงเลย ก็ได้รับการตกลงเลยซึ่งเป็นเรื่องที่ดีใจมาก เพราะเอาจริงๆ แล้วฟักแฟงเอง ก็ถอดใจกับการร้องเพลงไปแล้ว แต่ผมก็ประหลาดใจที่เขาตอบตกลง ผมว่านะลึกๆ แล้วคนเล่นดนตรี ร้องเพลงมา มันทิ้งไม่ได้หรอกแล้วก็คิดว่าฟักแฟงก็คงอยากจะร้องเพลงอยู่และมีความสุขกับการร้องเพลงไม่มากก็น้อย ไม่งั้นคงถ้าชวนคงไม่ตอบรับเรามาอย่างนี้ครับ ซึ่งหลังจากงานนี้ จะมีเพลง ฟักแฟง มั้ย……..ก็ต้องรอลุ้นครับ (หัวเราะ)
ฝากอัลบั้มและเพลงกันครับ
The Yers : ฝากอัลบั้มใหม่ของเราขอให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นอัลบั้มอะคูสติก เป็นเพลงอะคูสติกทั้งอัลบั้ม แต่การโชว์ก็ยังเป็นรูปแบบเหมือนเดิมครับ แค่เติมเพลงใหม่ๆ เข้าไป แล้วเราจะมี กระเป๋าด้วย ของที่ระลึก ของเรามีเยอะครับ (หัวเราะ) อย่าลืมอุดหนุนกันได้ พร้อมอัลบั้มเลย อาจจะแถมมีบัตรจับมือด้วย แต่เราจะทำเป็น บัตร จับอะไรก็ได้ แล้วขายถูกกว่า (หัวเราะ)
โบ๊ท : ปรึกษาผมหน่อยครับ (หัวเราะ) ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็ไหน เราไม่ถือตัว เรามั่นใจ จับเลย (หัวเราะ)
Members
ยศทร บุญญธนาภิวัฒน์
พนิต มนทการติวงค์
นิธิศ วารายานนท์
ถิรรัฐ ภู่ม่วง
ขอขอบคุณ : โอ๋ genie records ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ครับ