กับวงดนตรีที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน จริงอยู่ที่ว่า ชื่อ Asog (อโศก) อาจจะเหมือนกับเป็นชื่อใหม่ในวงการ แต่เราไปไล่ดูรายชื่อคนที่อยู่ในวง ถือว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์โชกโชนเลยทีเดียว กับการกลับมาอีกครั้งกับเพลงใหม่ นักร้องคนใหม่ มาดูกันว่าผลงานของพวกเขาครั้งนี้จะเป็นแบบไหน และความคิดเห็นต่อแวดวงดนตรีในฐานะที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ขอเชิญอ่านไปพร้อมๆ กันได้เลย
Asog กับเสียงร้องใหม่
Asog : กับนัท นี่เป็นนักร้องใหม่ของเรา มาจากวง Trance Ziztor ซึ่งก็อยู่กันตั้งแต่ Mad Catz แล้ว หลังจากกระจัดกระจายไปใช้ชีวิตกัน ตอนนั้นเรากำลังจะหานักร้องที่จะทำวง Asog อีกครั้ง ก็ต้องหาคนที่ นิสัยใจคอไปได้ ซึ่งนัทนี่เป็นคนแรกเลยที่ ติดต่อเข้ามาก็มาลองออดิชั่นดู ซึ่งก็ลองไปร้องกับเพชร เพื่อลองเสียง ตอนแรกคิดกันว่า ถ้านัทเขายังร้องด้วยวิธีเดิม เสียงเดิม พวกเราจะไม่เอา โชคดีที่เขาร้องไม่เหมือน รวมถึง ลุคส์ด้วย ตอนแรกเขต ไปดูงานเก่าๆ ก็ช็อค ทำไมคนนี้ตัดสกินเฮดแต่เหมือนคนหัวล้านจัง จะรอดไหมวะ (หัวเราะ) คนอื่นตัดแล้วเท่ แต่สุดท้ายก็ได้มาร่วมงานกันครับ
ถ้าหัวใจมีมือ
เพชร : ก็หลังจากที่ UP^G ทำโปรเจ็กต์ Rockcamp By Up^G พี่ ต่อ แสนคม สมคิด ก็ติดต่อให้ผมมาช่วยในงานนี้ เพราะมีน้องใหม่ๆ หลายคน ให้วงเรามาช่วยประคองน้องๆ ใน โปรเจ็กต์นี้ พอเห็นทิศทางตรงนี้ เราก็เลยรู้สึกว่างั้นส่งงานเราไปด้วยเลยดีกว่า ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ซี่งพอส่งพี่ต่อ พี่ต่อก็ชอบ คือมันเป็นเดโม่ ประมาณ 3-4 เพลง แต่เพลงนี้เป็นเพลงที่ พี่ต่อ ฟังแล้วเกิดไอเดียว่า น่าจะไปได้ พอเลือกเพลงยี้มาเราก็มาวางคาแร็กเตอร์ของเพลง เราอยากให้มันเป็น Vintage Rock เนื้อหาเข้าใจง่าย สามารถส่งไปรอบนอกเมืองได้ด้วย ซึ่งเพลงนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดี ดนตรีเราก็ใช้วิธีเก่าเลย คือแจม ในห้องซ้อม แล้วอัดสดพร้อมกันเลย ซ้อมเยอะหน่อย แต่น่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี
เขต : เพลงนี้ได้พี่บอย ไมโครมาช่วยด้วย
เพชร : ใช่คือตอนทำเดโม่เพลงนี้ ผมทำดนตรีแล้วมีพวกเสียง ออร์แกน แบบยุคเก่าๆ ซึ่งคนที่สนิทกับผมแล้วก็เล่นหรือมีเครื่องแบบนั้นก็มีไม่กี่คน พี่บอยก็เป็นหนึ่งในนั้นก็เลยให้แกช่วย ก็ได้อย่างที่ผมต้องการเลย
นัท : ส่วนเนื้อเพลงก็ตามชื่อเพลงเลยครับ ถ้าหัวใจมีมือ มันก็คงจะช่วยยื้อคนที่กำลังจะไปได้ แต่มันไม่มีไง ก็ดึงเขากลับมาไม่ได้ เป็นเพลงที่อยู่ในภาวะที่ผู้หญิงจะไป เราก็อยากจะให้อยู่ ซึ่งก็ยังไม่สรุปนะว่าไปหรืออยู่ ซึ่งเพลงนี้พี่ ต่อก็เขียนเนื้อเพลงให้ ซึ่งเพลงนี้ร้องแล้วเข้าปากดีนะ ส่วน MV ก็ไม่มีอะไรมากครับเรื่องราวความรัก หนุ่ม สาว ทั่วไปครับ
เพชร : ซึ่งเพลงนี้พอรวมๆ มาทั้งหมด มันโอเคมาก มันมีความเป็น สไตล์แบบยุค 90 ทั้งตัวภาพ ตัวเพลง ซึ่งพวกเราก็ชอบกันนะ
สมพร : ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเพลงแบบนี้มันเป็นเพลงที่ฟังแล้วสบายดีนะ มีความเป็นยุค 90 เรียบง่าย ซึ่งในยุคนี้ก็ไม่ค่อยมีแบบนี้แล้ว
การทำงานในยุคใหม่
สมพร : วิธีทำงานมันไม่ยากแต่วิธีคิดมากกว่าที่ยาก มีวงเยอะ มีไอเดียใหม่ๆ เราจะใส่อะไรก็ได้ สมัยนี้ เมื่อก่อนกว่าจะคิดแก้อะไร มันค่อนข้างยากกว่า
เพชร : อย่าที่ สมพร บอกตอนนี้จริงๆ มันง่ายไปหมด มันไม่ใช่สมัยก่อนที่เพลงนึงกว่าจะเสร็จ เป็นปี เดี๋ยวนี้เพลงเสร็จ 15 นาทีส่ง ซึ่งมันจะยากตรงที่เราต้องมีกระบวนการความคิดอีกแบบนึงแล้ว ว่าที่ใส่ไปมันพอมั้ย ต้องเพิ่มลดอะไร
เขต : อีกอย่างก็คือเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเพลงจะมามั้ย ไม่ได้หมายความว่าทำเพลงด้วยโปรดักชั่นที่ดีกว่า หรือทำเพลงยากกว่า แล้วจะดังกว่า มันไม่ใช่แบบนั้น
เพชร : พี่ ต่อ จะบอกว่า ตอนนี้เพลงมันดีแล้ว อยู่ที่ว่ามันจะไปสัมผัสคนฟังได้แค่ไหน ซึ่งก่อนที่จะถึงจุดนั้น พวกเราเองต้องชอบกันก่อน ซึ่งตอนนี้เราก็อยู่ในจุดที่ชอบแล้วก็เหลือแต่จะถึงคนฟัง ขนาดไหน
การใช้ชีวิตแบบ คนดนตรีที่ขาดฟรอนท์แมน
เขต : จริงๆ ผมให้น้ำหนัก นักร้องนำ กับวง ครึ่งๆ เลยนะ ถ้าขาดอันหนึ่งอันใดเราก็ต้องหามาทดแทน แต่บางทีการทดแทนก็ต้องใช้เวลา ยากไม่ยาก มันต้องกลับว่าเป็นเรื่องอะไรมากกว่า
สมพร : จริงๆ บ้านเราสำคํญที่สุดคือนักร้อง ซึ่งผมก็อยากให้ทำยังไงก็ได้ที่ไม่ต้องโฟกัสที่นักร้องคนเดียว ต้องมองนักดนตรีเหมือนกัน ไม่มีนักดนตรี ฟรอนท์แมนก็ไม่เกิด แต่บ้านเราไม่ใช่แบบนั้น
เขต : เมืองนอกบางทีลิขสิทธ์เพลงเป็นของ ศิลปิน ดังนั้น สมมติวงแตก บางทีก็เอาเพลงไปเล่นไม่ได้ แต่กลับกันบ้านเราลิขสิทธิ์เป็นของค่ายเพลง ซึ่งพอวงแยกกัน ก็ยังเอาเพลงไปร้องกันได้ ลองให้ศิลปินถือกันเอง จะอยากวงแตกกันไหมล่ะ (หัวเราะ) คือเรื่องแบบนี้มันโทษใครไม่ได้หรอกครับ เพราะเราเซ็ตระบบกันมาแบบนี้ จนกลายเป็นความคุ้นชินไม่มีใครแก้ได้
เพชร : แต่การใช้ชีวิตนักดนตรีก็ไม่ลำบากนะ ถ้าคิดว่าจะเป็นนักดนตรีจริงๆ มันสามารถเปลี่ยนโปรเจ็กต์ไปได้เรื่อยๆ เหมือนกัน บ้านเราก็เริ่มมีแบบนี้มากขึ้น
นัท : ในมุมมองผมในฐานะนักร้อง ผมว่าเรื่องเล่นไม่มีปัญหา การปรับตัวเพื่อไปเล่นกับคนอื่น ก็เหมือนนักฟุตบอล แต่เรื่องความรู้สึกมากกว่า การเปลี่ยนบ่อยๆ ก็ทำให้เสียความมั่นใจได้เหมือนกัน เรื่องดนตรีไม่ใช่แค่เรื่องการเล่น อย่างผมเล่นกับใครก็ได้ เดินไปเจอนักดนตรี แต่ความรู้สึกว่า แล้วเขาเป็นใคร เราเล่นกับใครล่ะ คือการเปลี่ยนบ่อยๆ นี่ไม่ใช่เรื่องที่แฮปปี้เท่าไรในความคิดผม
นามสกุลเก่า และผลกระทบกับการทำงาน
เขต : ไม่มีผลครับ คือนามสกุลเก่าเราแค่บอกว่าเรามาจากที่ไหน สำคัญคือเราจะไปไหนมากกว่า ข้างหลังชื่อเรามันเปลี่ยนอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
สมพร : ของเก่ามันคือโปรไฟล์เฉยๆ อนาคตข้างหน้าเราไม่ได้อยู่กับตรงนี้แล้ว และจะให้เราเดินถอยหลังเราทำไม่ได้หรอก เราก็ต้องเดินต่อไป
เขต : อย่าไปให้น้ำหนักมากครับ คือมันเหมือนเราเดินผ่านทางมา พวกนี้คือดินที่ติดเท้าเราเท่านั้นเอง
เพชร : (หัวเราะ) โอ้โห พวกนั้น หรือพวกนี้
เขต : (หัวเราะ) ไม่ได้หมายถึงวงแบบนั้น หมายถึงสิ่งที่เราผ่านมา ประสบการณ์ที่เราผ่านมา เราต้องคิดให้ออกว่าจะเดินไปทางไหนมากกว่า คือไม่ว่าเขาจะชอบหรือเกลียดในส่วนไหนเราก็ยังเป็นเรานั่นเอง
เพชร : ผมเคยโดนคอมเมนต์ว่า ชอบตอนที่อยู่ I Zax มากกว่า แต่ว่าถ้าย้อนกลับไป ใช่นั่นคือตัวผม ตอนนี้ก็เป็นตัวผม ตอนกะลา ก็เป็นตัวผมอยู่คือคนเราจะมีวิวัฒนาการไม่ได้เลยเหรอ วันนี้ผมชอบเล่นแบบนี้ ผมก็ทำตรงจุดนี้ แต่ยังไงก็เป็นตัวผมอยู่ดีไม่ว่าจะต่อท้ายด้วยวงอะไรก็ตาม
การเดินทางของ Asog
นัท : จริงอยู่ว่าที่ผ่านมาเรามีผลงานมาบ้าง แต่สำหรับผม ผมว่าครั้งนี้เป็นการก้าวเริ่มของเราจริงๆ แล้ว ด้วยแนวทาง ภาพลักษณ์ต่างๆ ถ้ามีใครถามว่า วงเรามีแนวเป็นทางแบบไหน ผมก็จะให้ฟังพลง ถ้าหัวใจมีมือก็ถือว่าเป็นลายมือที่ชัดเจนของเราแล้ว และเดี่ยวจะได้เจอกับพวกเราอีกแน่นอน
อุปกรณ์ดนตรี
เขต : ผมใช้แอมป์ Carlsbro ตัวท๊อปสุด เป็นแอมป์หลอด ใช้อัดด้วย เบส ผมใช้ Tobias Killer Beeเบสสำรองผมเป็นแฮนด์เมด อันนี้คือเซ็ตที่ใช้โชว์นะครับ
สมพร : กลองผมใช้ Pork Pie สีเขียว ใช้ตั้งแต่ Labanoon ทุกวันนี้ยังใช้อยู่ 20 กว่าปีแล้ว ยังไม่พังเลย อยากเปลี่ยนอยู่นะ แต่ก็ไม่อยากใช้อะไรมากเพราะมันก็อยู่มือแล้ว
เพชร : ของผมก็ไม่ค่อยเปลี่ยน หลักๆ กีตาร์ เป็น Gibson Reissue 59 หัวแอมป์ Blackstar Series One 100 วัตต์ ส่วนพวก Modulation ก็ใช้ข้างนอกเอา เออ ผมมีเรื่องเล่าในเพลง หัวใจไม่มีมือ ตรงอินโทร จะมีเสียงคันโยก ตอนแรกที่ผมคิดอินโทรนี้ผมได้ยินเสียงในหัว
เขต : นี่คุณหลอนเหรอ ได้ยินเสียงในหัว ไปโดนตัวไหนมาเนี่ย (หัวเราะ)
เพชร : (หัวเราะ) ไม่ใช่แหมก็ผมทำงานผมก็คิดภาพไว้ก่อนไง ผมอยากได้เสียงคันโยกหน่อย ตอนอัดเลยใช้ Maya อัดตอนขึ้นนิดนึง
นัท : ผมมีกีตาร์โปร่งของ Takamine และกีตาร์โปร่ง กับ D.I. LR Baggs ถ้าจะมีผู้ใหญ่ ใจดีจะกรุณาได้เลยนะครับ (หัวเราะ) ไมค์ผมใช้ Shure Beta 58 ผมว่า ผมชอบมาก ไม่ค่อยมีปัญหา
ฝาก
นัท : เพลง หัวใจที่มีมือ เป็นเพลงที่บอกถึงจุดเริ่มต้นของพวกเราได้ดี ทั้งแนวทางและหลายๆ อย่าง ก็อยากให้ลองติดตามครับ แล้วก็ติดตามความเคลื่อไหวของวงได้ตามทุกช่องทาง โซเชียล รวมถึงเพจของ UP^G ด้วยนะครับ