15 ปีที่รอคอย 15 ปีที่เฝ้ารอ ดูเหมือนกับเป็นเวลาที่เนิ่นนานสำหรับใครบางคน แต่เมื่อวันเสาร์ ที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา คือ 15 ปี แห่ง ”การรอคอย” ของวงดนตรีที่มีชื่อว่า ZEAL จากค่าย ME RECORDS ในเครือ MUZIK MOVE และแฟนเพลงที่คุ้มค่าเป็นที่สุด กับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกใน “Leo Presents Zeal 15yrs Concert”
ซึ่งก่อนจะถึงคิวพระเอกของงาน ได้ประเดิมวอร์มเครื่องกันก่อนกับวง Openning Act. & DOSE (โดส) จากค่าย Muzik Move Records ในเครือ MUZIK MOVE ซึ่งความน่าตื่นตาตื่นใจของวงนี้อยู่ที่ซาวด์วินเทจร็อค ของ 4 สมาชิกอย่าง อริญ-อริญชย์ ภาณุเวศย์ (ร้องนำ), แทน-อติชาต ลี (กีตาร์), บาส-ศรัณย์ ยิ่งเจริญ (เบส) และหลิว-สาริกข์ หลิวอุดมชัย (กลอง) ที่นำมาถ่ายทอดผ่านซิงเกิ้ลต่างๆ เมื่ออินโทรเพลง “ปลิ้นปล้อน” เพลงแรกดังขึ้นริฟฟ์กีตาร์โหมกระหน่ำโสตประสาทให้แฟนเพลงโยกหัวตามโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว แถมการลากเสียงสูงอย่างต่อเนื่อง ในช่วงท้ายเพลงของอริญ ก่อนจะสานต่อความเดือดด้วยซิงเกิ้ลพิเศษอย่าง “ลองของ” และต่อเนื่องด้วยเพลงช้าหนักแน่นอย่าง “ซ้ำซาก” และ “ชะตาขาด” เพลงล่าสุดของวงโดส ที่ในช่วงแร็ปทำเอาแฟนเพลงเซอร์ไพร์สกันทีเดียว เมื่อ เป้-บดินทร์ เจริญราษฎร์ นักร้องนำวง Mild คนแต่งเพลงนี้ ได้ออกมาแร๊ปจนเวทีร้อนระอุ และในช่วงท้ายของเพลงนี้ก็บาดใจเป็นที่สุดกับการโซโล่กีตาร์ของแทน ที่จบทิ้งท้ายได้อย่างงดงาม
และเวลาที่สาวกนับพันคนรอคอยมาถึง 15 ปีเต็มๆ ก็ได้เริ่มขึ้นจากเสียงวอยซ์โอเวอร์อันคุ้นเคย จากช่วงต้นของอัลบั้ม Trip เมื่อปี 2547 ดังก้องขึ้น ในที่สุด ม่านสีดำขนาดใหญ่ก็ถูกปลดลง 5 สมาชิกวง Zeal (ซีล) เป๊กซ์-ปราชญ์ พงษ์ไชย (นักร้องนำ), เคน-ปรัชญา มีบำรุง (กลอง), ชุ-ณัฐบวร เศรษฐกนก (กีตาร์), ป๊อก-ต่อยศ จงแจ่ม (เบส), ศิลา นามเทพ (กีตาร์) ประจำการอย่างพร้อมเพรียงภายใต้ฉาก ที่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็เป็นตัว Z ประเดิมเปิดเวทีเพลงแรกกับ “เหวี่ยง” ทำเอาใจทุกคนเต้นรัวๆ กับแสง สี เสียงที่จัดเต็ม ยิ่งพอเข้าท่อนฮุกอย่าง “ฉันจะเหวี่ยง เหวี่ยงเธอให้สูง…ขึ้นไป” ซึ่งในท่อนนี้สาวกที่อยู่ในธันเดอร์โดม เหมือนนัดกันมากระโดดไปพร้อมกันทำเอาฮอลล์ถึงกับสั่นทีเดียว ก่อนที่จะสาดความมันส์!! กันต่อด้วยเพลง “ ปลุก” และ “จะไปจะมา” ที่ทุกคนพร้อมใจกันกระโดดสุดตัวพร้อมกันอีกครั้ง
โดดกันพอประมาณให้หัวใจได้วอร์มเครื่องกันเล็กน้อย ในเซ็ตนี้เลยจัดเพลงให้ได้พักหายใจกัน สักหน่อยในเซ็ตเพลงช้าอย่าง “โง่เขลา”, “ฉันกำลังจะตาย” และ “บุคคลตัวอย่าง” มาให้แฟนๆ ร้องตามกันกระหึ่ม หลังจากนั้นพาทุกคนในฮอลล์ไปสู่ห้วงอวกาศด้วยเพลง “ดาว” และ “เหยียบดาว” ซึ่งสร้างเสียงฮือทีเดียว กับดวงไฟหย่อนลงมาจากด้านบน เหมือนทะเลดาวที่ลอยเคว้งคว้างอยู่นอกโลกอย่างแท้จริง และ แล้วเซอร์ไพรส์ แรกก็มาถึงเมื่อ ซีล บรรเลงเพลง “แค่ฝันก็เอาแล้ว” ซึ่งในช่วงท่อนแร็ปนี้เอง ปู Blackhead ที่ซีลยกย่องให้เป็นผู้ที่ทำคลอดวงให้ออกมาโลดแล่นในวงการได้ออกมาร่วมสร้างความเดือด ก่อนที่จะมีการเชิญอีกหนึ่ง สมาชิกร็อคหัวดำอย่าง เอก-อภิสิทธิ์ พงศ์ชัยสิริกุล ที่รับหน้าโปรดิวเซอร์อัลบั้มแรกของซีล ออกมาวาดลวดลายกีตาร์ในเพลง “ยิ่งโตยิ่งสวย” และ “ยังไม่ตาย” ที่ดุเดือดเลือดพล่านไม่แพ้กัน โดยเฉพาะช่วงท้ายเพลงนี้ 2 มือกีตาร์อย่าง ชุ และ เอก ฟาดฟันลูกโซโล่กันแบบที่ไม่มีใครยอมใคร
เรียกเสียงกรี๊ดกันอย่างต่อเนื่อง เมื่อ เป๊กซ์ ปรากฏตัวในชุดขาวล้วน นั่งอยู่กับเปียโนหลังใหญ่ อย่างสุดเท่ห์ก่อนที่เพื่อนสมาชิกอีก 4 คน จะออกมาเสริมทัพในคอสตูมสีขาวเหมือนกัน ในเซ็ตนี้เรียกว่าความเป็นวงร็อคแปรเปลี่ยนกลายเป็นวงบอยแบนด์ในทันที เพื่อให้เข้ากับเมดเล่ย์เพลงประกอบละครที่จัดมาให้แฟนๆ ถึง 4 บทเพลง “รักเธอทั้งชีวิต”, “ยิ่งห้ามยิ่งหวั่นไหว”, “หยุดรักยังไง” และ “แบบไหนที่เธอรัก” ไม่มีเพลงไหนเลยที่ไม่มีคนร้องตาม และทิ้งท้ายเซ็ตเพลงนี้ด้วย “คนบ้า”
เพื่อให้หัวใจแฟนเพลงสูบฉีดรัวๆ อย่างต่อเนื่อง ซีลได้ส่งเพลง “เสี้ยม” มาพร้อมกับเซอร์ไพร์สก็อกที่สอง เมื่อ เป๊กซ์ ได้เชิญ UrboyTJ ขึ้นมาแจม แถมในงานนี้ UrboyTJ ยังได้แต่งเนื้อแร็ปสุดเดือดมาเอง อีกต่างหาก รวมไปถึงการแจมกับวง Zeal ในเพลง “ไม่เข้าใจ” และ “วายร้าย” ที่เป็นอีกฟีลที่ทุกคนได้สัมผัส ช่วงนี้เบรกความสนุกหยุดกับเพลงซึ้งๆ สักนิดกับ “วินาที” ที่เป๊กซ์สะพายกีตาร์โปร่งออกมาโชว์เพียงคนเดียว ต่อด้วย “ไม่รู้ทำไม” และเซสชั่นอะคูสติกกับเพลง “โชคดี” และซิงเกิ้ลล่าสุดที่เพิ่งจะปล่อยออกมาอย่าง “Promise (ฉันสัญญา)” ที่เอาบรรยากาศช่วงนี้อบอวลอบอุ่นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
มาต่อเนื่องกันต่อกับบทเพลง “จูบลา” ที่มาพร้อม 4 สาวที่มีอาวุธประจำกายเป็นเครื่องสาย ซึ่งในช่วงนี้ ชุ ได้ออกมาโชว์โซโล่กีตาร์เดียว ก่อนที่จะไปต่อกับ “เตลิด” เพลงช้าสุดฮิตในยุคหลังๆ ของวง รวมถึง “หมดชีวิต (ฉันให้เธอ)” ที่ได้ หมิว-วริศรา อภิรักษ์เดชาชัย นักร้องนำสาวจากวง Boom Boom Cash มาให้เสียงร้องท่อนผู้หญิงได้อย่างไพเราะเพราะพริ้งไม่แพ้ต้นฉบับ ก่อนที่เป๊กซ์จะชวนเอ้ Botcash (เอ้-สัณหภาส บุนนาค) ที่มาพร้อมเพลง “Zero” ในเวอร์ชั่นอิเล็กทรอนิให้ทุกคนได้โดดไปพร้อมกับการโซโล่กีตาร์ของศิลา ทีเด็ดขาดบาดใจ หลังจากนั้นได้ยกเวทีให้กับหมิว เอ้ และกับอีก 2 สมาชิกอย่าง แขก-ชาลาลีคาน อาลีฟ ซันคาน และโอเล่-จิโรจน์ เอี่ยวจินดา ขึ้นมาบนเวที Boom Boom Cash ก็แผ่ซ่านพลังแห่งความตื๊ดในเพลง “One Life” และ “Blur Blur” แบบไม่มีกั๊ก
วินาทีที่สาวๆ รอคอยก็มาถึงเมื่อ เคน มือกลอง จัดเซ็ตโซโล่กลองอย่างอลังการ แต่อยู่ๆ ก็มีเสียงหวอฉุนเฉินดังขึ้นพร้อมวีทีอาร์ขึ้นประกาศ “สงครามกำลังจะอุบัติขึ้น” นาทีนี้ทำเอาทุกคนใจเต้นรัวทีเดียว เมื่อ เคน มือกลอง ถูกจับตัวออกจากตำแหน่งประจำ แล้วได้มาปรากฏตัวอีกครั้งในชุดสีส้มจี๊ดเจ็บถึงใจ และนี่คือเซสชั่นโซโล่กลองที่ไม่ใช่ แค่การนั่งตีกลองตีฉาบเหยียบกระเดื่องเพียงอย่างเดียวเพราะโชว์นี้ เคน ลุกขึ้นมาวาด ลวดลายตีๆ เคาะๆ ด้วยจังหวะที่เร้าใจ เรียกว่าไม่ว่าขยับตัวตีอะไร เคาะอะไร ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ได้ทุกจังหวะ และทั้งหมดนี้ก็เพื่อนำเข้าสู่เพลง “สมรภูมิไฟ” ที่สร้างความร้อนระอุไปทั่วทุกพื้นที่กับไฟที่พุ่งขึ้นมาจากเวที และกับการโบกธงของเป๊กซ์ ให้ได้ตื่นตาตื่นใจ และก็ถึงคราวของ ป๊อก ที่ลีลาการสแลปเบสช่างยียวนทว่าน่าฟังยิ่งนัก ส่งต่อไปสู่ “หลังชนฝา” ที่เพิ่มดีกรีความเดือด พุ่งแตะจุดสูงสุดอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ที่ทำเอาแฟนเพลงเซอร์ไพร์สแบบไม่ทันตั้งตัว เมื่อ เป๊กซ์ กระโดดลงเวทีลงไปร้องเพลง “อย่าอยู่คนเดียว” และ “พบเพื่อเพียงผ่าน” กับแฟนๆ แบบใกล้ชิดสุดๆ ก่อนที่กลับมาขึ้นเวทีกระชากโหมด ความเดือดกัน ต่อกับ “ไม่ต้องการเห็นบางคน (ที่ไม่รักกัน)” และ “ล้มทั้งยืน” ที่เท้าของทุกคนไม่อยู่ติดพื้นกันแล้ว
“Leo Presents Zeal 15yrs Concert” ในที่สุดก็เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ต ที่เล่นผ่านมาเกือบ 3 ชั่วโมง เป๊กซ์ก็ได้เดินไปสวมกอด ป๊อก ชุ เคน และ ศิลา ที่ในช่วงนี้น้ำตาของลูกผู้ชายไหลริน ออกมาจากความปลื้มปิติ ก่อนที่จะส่งไปสู่เพลงแรกของซีล คือเพลง จากตรงนี้ และปิดฉากสุดท้ายอย่างสวยงดงาม และดังสนั่นที่สุดของที่สุดกับ สองรัก เพลงแจ้งเกิดของซีล
คงไม่มีคำบรรยายใดๆ ที่จะบอกได้ถึงมิตรภาพ และความเป็นเพื่อน ความผูกพันระหว่างวงซีลกับแฟนเพลงนับพันๆ คนที่มาร่วมร้องร่วมกระโดด ร่วมมันส์ ไปด้วยกันได้เท่ากับทุกเพลงที่ทุกคนร้องออกมา ได้ทุกเพลงโดยที่ไม่ต้องดูเนื้อ แต่เพียงได้ฟังเมโลดี้ของเพลงเกือบ 40 เพลง ทั้งหน้า A และหน้า B เท่านั้น ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าทุกคน คือตัวจริง และพลังนี้ก็จะแรงขับที่จะเป็นกำลังใจให้วงซีลทำผลงานออกมาเพื่อแฟนๆ ตลอดไป
ขอขอบคุณ : จ๋า, มน, เต็นท์, นัท และทีม Muzik Move ทุกคนที่อำนวยความสะดวกครับ