เพลงของแมกซ์ เจนมานะ หลายเพลงมีดนตรีที่น่าสนใจมาก เพลงไวน์ก็เป็นเพลงนึงที่มีท่อนกีตาร์เท่ๆ อยู่ในเพลง วิธีการเล่นในคอร์ดวน เป็นชุดจะทำยังไงให้ฟังดูเท่ และมีสไตล์ ให้เพลงไวน์เป็นคำตอบเพลงที่มีกีตาร์โปร่งนำ จากพี่แมกซ์ เจนมานะ เพลงนี้อยู่ในคีย์ จะเป็น D Major ความเร็วเพลงนี้อยู่ที่ 90 ท่อน Intro จะเป็น การเล่นกีตาร์ในคอร์ดหลัก ผสมกับการเล่น Lick กีตาร์ผสมกับคอร์ด ท่อน Verse-Verse 2 จะ เป็นท่อนที่ต่อยอดมาจาก Intro มีการเปลี่ยนรายละเอียดเล็กน้อย ท่อน Pre Hook จะเปลี่ยนคอร์ดจากท่อน Verse เล็กน้อย ท่อน Hook จะเป็นคอร์ดปกติใช้ส่วนโน้ตที่ง่ายๆ ท่อน Break จะเป็นคอร์ด คล้ายๆ Intro มีการเล่นเมโลดี้เล็กน้อย ท่อน Solo จะเป็นพวก Lick ดันสายกับ Double Stop ท่อน Hook End สุดท้าย จะเป็น การเล่นคอร์ดที่ต่างจาก Hook นิดหน่อยก่อนจะจบด้วย คอร์ด หลักจาก Intro
Intro : จะเริ่มด้วย โน้ตเบสตัว G เฟร็ต 3 สาย 6 เล่นบนคอร์ด Gmaj7 ไปคอร์ด Bm7 ตรงนี้จะผสมการสไลด์ เมโลดี้ อยู่ด้วย แล้วก็จบด้วย Dadd9 แบบ Open Voice อีกชุดนึงจะเป็น Gmaj7-F#7-Bm7 และเล่น Double Stop เป็นเมโลดี้ ตรงเฟร็ต 7-9 สาย 5-3 สไตล์แบบ Hendrix เพลง Little Wing จากนั้นกลับคอร์ดหลัก แล้วเล่นเมโลดี้ที่สายล่าง ตรงนี้จะมีการเล่นผสมสายเปิดด้วย
Verse-Verse 2 : คอร์ดที่เล่นเป็นคอร์ดคล้าย Intro แต่จะต่างกันในท่อนที่เป็น Fill in แต่ละท่อน ส่วนใหญ่จะเล่นในสายบน ช่วงเฟร็ตที่ 5-9
Pre Hook : จะเปลี่ยนจากคอร์ดหลัก จากที่เริ่ม Gmaj7 จะกลายเป็น D จังหวะส่วนโน้ตจะคล้ายๆ กับเล่นคอร์ดหลัก คอร์ดสุดท้ายจะเป็นคอร์ด F#7#5 เป็นคอร์ดในสไตล์แบบพวก Jazz ใช้
Hook : จะเป็นการที่คอร์ด บาร์เบสิก และเล่นในส่วนโน้ตแบบเขบ็ต 1 ชั้น ท่อนส่งก็จะเล่นส่วนโน้ตต่างจากเดิมเล็กน้อย
Break : จะเป็นการเล่นคล้ายๆ ท่อน Intro เปลี่ยนเมโลดี้เล็กน้อย
Pre Hook 2 : คล้าย Pre Hook ท่อนแรก แต่จะจบด้วย การส่งแบบ 6 พยางค์ ใน 2 ชุดสุดท้าย
Solo : ท่อนSolo จะเริ่มจากการเล่น Unison Bend ที่เฟร็ต 4 สาย 3 กับเฟร็ต 2 สาย 2 เป็นโน้ต C# ที่เป็นตัว 9th บนคอร์ด Bm จากนั้นจะเล่นเมโลดี้ผสมกับ Double Stop บนโน้ต Pentatonic จากนั้นจะย้ายโน้ตไปเล่นใน Position สูง ตรงสาย 2-1 บนเฟร็ต 14-17 เล่นเป็น Unison Bend ก่อน จะจบด้วยเมโลดี้ จากนั้นต่อเนื่องมา เป็นท่อนคอร์ด เล่นเป็นโน้ต Chromatic เช้า Bm7 จบด้วยคอร์ด D-F#7-Bm7 แล้วเล่นเขบ็ต 1 ชั้นส่ง
Hook-End : จะต่างจากท่อน Hook แรก ที่ในคอร์ด D ไป F#7 จะเล่นในจังหวะยก ในตัวสุดท้าย นอกนั้นจะเป็นส่วนโน้ตแบบเขบ็ต 1 ชั้นหมด ก่อนจะทิ้งคอร์ด Gm และ จบด้วยคอร์ดชุดเดียวกับ Intro
Guitar-Effect : กีตาร์ที่ใช้ในเพลงนี้จะมี 2 ส่วน ในภาคกีตาร์โปร่งไฟฟ้าเป็นสายเหล็ก ผสมกับเอฟเฟ็กต์ Reverb เล็กน้อย ตอน Solo จะเป็นกีตาร์แบบ Telecaster เล่นกับเสียงแตกเบาๆ และ Reverb กับ Delay แบบ Slapback
Chord Scale : เพลงนี้จะเป็นคอร์ดลักษณะ Open Voice บนคอร์ด 4 เสียง ซึ่งจะเล่นโน้ตเบส กับโน้ตที่เป็นคอร์ดแบบข้ามสาย เมโลดี้และตอน Solo ส่วนใหญ่อยู่ใน B minor Pentatonic จะมีโน้ต C# เข้ามาผสม (เราอาจจะเรียกว่าเป็น Scale แบบ Hexatonic เป็น Pentatonic ที่มี 6 เสียง ส่วนใหญ่จะบวกตัว 9th เข้ามา)
ข้อควรระวัง : การเล่นคอร์ดในเพลงนี้จะใช้นิ้วโป้งจับโน้ตเบสเยอะมาก และมีการค้างจังหวะ ในการลากคอร์ดอยู่หลายท่อน เพราะฉะนั้น ต้องนับจังหวะ ตลอดเวลา เพราะบางครั้งจะค้างแล้วลงใน บีทที่ 4 หรือจังหวะยกอยู่หลายท่อน ซึ่งอาจจะทำให้หลงจังหวะได้