เสียงร้องที่งดงาม กับแนวความคิดที่ลึกซึ้ง เมื่อ 2 ขั้วนี้มารวมตัว ก็จะก่อเกิดเป็นความงดงามที่ลึกซึ้ง ศิลปินที่เป็นตัวแทนของทั้ง 2 สิ่ง คนนึงคือ “ลุลา” เจ้าของเสียงน่ารัก สดใส เอกลักษณ์ในเสียงร้องที่เรารู้จักกันดี เป็นตัวแทนของความสวยงาม และในด้านที่เป็นความลึกซึ้ง ชาติ สุชาติ แซ่เห้ง เป็นตัวแทนของมุมมอง เนื้อหา ที่ลึกซึ้ง กินใจ และเมื่อทั้ง 2 ความลงตัวนี้มารวมกันในโปรเจ็กต์พิเศษ จะออกมาเป็นยังไง นี่คือเรื่องราว การเดินทางผ่านเสียงเพลงของทั้งคู่
อัพเดตชีวิตของทั้งคู่
ลุลา : ก็ก่อนหน้านี้ไปเวียดนามมา ไปรับรางวัล Best Asian Artist Thailand จากงาน Mnet Asia Music Awards ก็ไปโชว์ 2 เพลง ก็แปลกดี เพราะคนดูก็ไม่รู้จักเพลงเราเลย ซึ่งคนที่นั่นก็น่ารักนะ มีไฟสีโบกไปโบกมา เปลี่ยน Mood ตามเพลงเราด้วย น่ารักดี (ยิ้ม)
สุชาติ : ชีวิตก็มีความสุขดีครับ ปีนี้น่าจะมีอัลบั้มให้ฟัง
ทำไมทั้ง สองคนถึงมีเรื่องระหว่างทางได้ครับ ไปปิ๊งกันตอนไหน เริ่มจากใคร ทำไมต้องเป็น สุชาติกับลุลา
ลุลา : เริ่มจากลุลาจะไปชวนชาติมาทำเพลงให้ในอัลบั้มเราอยู่แล้ว ก็เลยติดต่อไปที่พี่ฟั่น โกมล บุญเพียรผล ที่เป็นโปรดิวเซอร์ของชาติ บังเอิญเราไปได้เรื่องราวมาจากการที่เราไปเที่ยวแล้วได้ยินเรื่องราวของคนที่ใช้ชีวิตที่นิวยอร์ก ที่มันเหนื่อย ที่มันหนักแล้วกลับมาก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ก็เลยเอาเรื่องนี้กลับมาบรีฟกับพี่ฟั่นกับชาติ เขาเลยเอาเพลง “เรื่องระหว่างทาง” มาเสนอ ก็เลยเอาเพลงนี้เลย เพราะอย่างที่บอก เราจะทำอัลบั้มอยู่แล้ว ก็ลิสต์ว่าจะเอาเพลงให้มันเป็นประมาณนี้ ก็มีรายชื่อชาติ ด้วย แต่เขาไม่รู้ตัวหรอกนะ (หัวเราะ) ฝากจีบผ่านพี่ฟั่น (หัวเราะ) ชาติเขาเป็นคนที่มีลายมือชัดมาก ก็มีหลายคนที่สไตล์เค้านะ แต่ลุลาว่า ชาติชัดเจนที่สุด แล้วก็ดูไม่ต่างกับเรามากด้วย แล้วภาษาเขาใช้เฉพาะตัว แต่ก็น่าจะเข้ากับเราได้ พอแต่งมาก็ลองร้องดู
สุชาติ : คือพี่ลุลา เล่าเรื่องให้ฟัง ผมก็สนใจก็ลองเขียนดูด้วยความกังวลมากๆ เราไปจับประเด็นตรงความเหนื่อย ก็เลยอยากจะเขียนอะไรที่เกี่ยวกับการพักผ่อน ดนตรีก็ขึ้นเป็นเดโม่ กีตาร์โปร่งกับร้องดิบๆ เสร็จแล้วค่อยเอาให้พี่ฟั่นเรียบเรียง
ลุลา : ท่อน Bridge เป็นท่อนที่ลุลาขอให้เพิ่ม พอจบ Hook 2 อยากให้มีท่อนที่ฟังซับซ้อนขึ้น เพื่อให้เพลงมันดูไม่เรียบเกินไป ก็เลยเสริมท่อนนี้ขึ้นมา ตรงที่ร้องว่า “ดอกไม้งดงามรอให้ชื่นขม ก็เลยจบมาเป็นเพลงเรื่องระหว่างทาง”
ความยาก-ง่ายในการทำเพลงนี้
ลุลา : คือหลังจากเดโม่ในฝั่งพี่ฟั่นกับชาติ เสร็จ เราเอามาฟังก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ตัวเรา จะทำยังให้อยู่ตรงกลางโดยที่เรา ก็ยังเป็นตัวเองได้ด้วย เลยขอเดโม่มา อะเรนจ์อะไรเพิ่มนิดหน่อย โดยส่งงานให้พี่ฟั่นตรวจตลอดเวลา จนได้แนวเพลงที่พี่ฟั่น เรียกว่าอะคูสเล็คทริก แล้วก็อยู่ตรงกลางระหว่างเรา 2 คนมากที่สุด อีกปัญหานึงก็คือคีย์เพลง แต่ลุลาเคยบอกพี่ฟั่นไว้แล้วว่าตัวเองร้องได้ไม่กี่คีย์ ไม่ D ก็ E แกก็เลยตั้ง E มาก่อนเลย ไม่ได้ถามอะไรเราเลย (หัวเราะ) ซึ่งพอร้องแล้วก็ร้องได้เลย ซึ่งของชาติ ก็ไม่ยากนะ มันมาเจอกันตรงกลางพอดี แต่ก็แก้กันนานนะ คือเกิน 6 เดือน นานที่สุดที่เคยทำเพลงคู่มา
เอ็มวี เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
ลุลา : เราจำลองฉาก Subway ของอเมริกา แต่ถ่ายที่สมุทรปราการ (หัวเราะ) แต่นั่นเป็นฉากของลุลากับชาติ ในส่วนที่เป็นเรื่องราว เราไปถ่ายทำที่ ที่คนแสดงของเราอยู่จริงๆ เลย เราเอาชีวิตเขามา คือทั้งหมดเป็นคนที่ไป ตามหาความฝันจริงๆ ไปทำงาน ไม่ได้ไปเรียนนะ บางคนไปแบบเสี่ยงดวงเลย ซึ่งผู้กำกับไปหา มาจะมีแร๊พเปอร์คนนึงที่อยากไปเป็นศิลปินแร๊พที่นั่น มีครูสอนเต้นแล้วเผอิญเจอแฟน เลยมีลูกอยู่ที่นั่น อีกคนนึงเป็นช่างภาพ ที่ไปทำงานแล้วอยากเป็นช่างภาพที่มีชื่อเสียงที่นั่นให้ได้ คนสุดท้ายก็เป็นช่างภาพที่เราจ้างที่นู่น ซึ่งจุดรวมของคอนเซ็ปต์คือรถไฟใต้ดิน ทุกคนต้องเดินทาง ที่ๆ เขาจะไปก็จะเป็นจุดหมายปลายทาง นั่นก็คือสมุทรปราการนั่นเอง (หัวเราะ) ล้อเล่นนะคะ ซึ่งก็พอดูแล้ว ก็มีแก้อยู่นะ แต่พอเราดูแล้วน้ำตาซึม เราก็ค่อยปล่อยออกสู่สาธารณชน
สุชาติ : ผมดูแล้วรู้สึกได้ถึงชีวิตคนที่อยู่ที่นู่นจริงๆ พอมันมาอยู่ในเพลงที่เดินเรื่องด้วยวิดีโอด้วย ก็ดูเข้ากันดีครับ มีไฟแบบอยากไปบ้าง ไม่ได้ไปอยู่นะครับ แต่ขอไปเที่ยว (ยิ้ม)
ความคาดหวังในเพลงนี้
ลุลา : จริงๆ อยากพักเพลงรัก เลยชวนชาติมาทำ เพราะเรามองว่าเขาคือดนตรีแบบเพื่อชีวิตสมัยใหม่ ตอนนี้เราคิดว่าอายุงานตอนนี้ ควรมีเพลงเพื่อทำอะไรให้สังคมบางแล้ว ไม่ได้คาดหวังว่าเพลงกระแสมันจะแรงมากอะไร เพราะมันไม่ใช่เพลงรัก แต่พอไปเช็กฟีดแบ็คแล้วรู้สึกดี เพราะมีหลายคนที่อยากได้แรงใจตรงนี้เยอะ จะบอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงให้กำลังใจ ตรงๆ ไม่เกี่ยวกับความรัก เป็นเพลงแรกๆ เลยก็ได้ เพราะเราสัญญากับตัวเองว่าในอัลบั้มที่กำลังจะทำต่อไป จะทำเพลงให้กลับสู่โลกมนุษย์มากขึ้น เพราะที่ผ่านมามันแบบ ท้องฟ้า สายรุ้ง ก็เลยจะทำแบบชีวิตจริงบ้าง คอนเทนต์อาจจะหนักสักหน่อย ซึ่งตอนนี้ก็กำลังปั่นอัลบั้มอยู่
ความรู้สึกที่ได้มาร่วมงานกัน
ลุลา : ก็ดีใจ เพราะว่าเราไม่คิดว่าเขาจะตอบตกลงนะ เพราะที่ผ่านมาเขาก็แต่งเพลงเป็นตัวเองเยอะ เป็นศิลปินที่ไม่ค่อยแต่งเพลงให้คนอื่น พอเขาตอบรับมาเราก็ดีใจ ข้อ 2 เรารู้สึกว่าเขาจริงใจกับงาน ต่อให้เป็นศิลปินที่เก่งขนาดไหนแต่ไม่ตั้งใจกับงาน เราก็จะรู้สึกเฉยๆ แต่ชาติเขาตั้งใจมาก เขาเต็มที่
สุชาติ : นี่เป็นครั้งแรกของผมที่แต่งเพลงให้คนอื่น พอมันเป็นครั้งแรกก็เกิดความกังวล หลายๆ อย่าง ก็กลัวจะออกมาไม่ดี แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับผม ที่ได้หลุดกรอบตัวเองด้วย
ลุลานี่ไม่ค่อยร่วมงานกับสาวๆ เลยนะ ชอบแจมกับชายหนุ่ม
ลุลา : ก็จริงๆ ก็เคยมีกับลูกหว้า พิจิกานะ คืออย่างนึงเราอยากได้คนที่มาร้องเป็นเสียงทุ้มๆ มากกว่า เพราะลุลาเสียงเล็ก เวลาร้องกับผู้หญิงมันจะทำให้มีย่านสูงมากเกินไป ก็เลยคิดว่า ถ้าเป็นผู้ชายมันจะเข้ากันมากกว่า เลยแจมกับผู้ชายเยอะ อีกอย่างศิลปินหญิงบ้านเราก็น้อยด้วย
เรื่องระหว่างทางของ สุชาติ และ ลุลาระหว่างทางไปทัวร์ อะไรที่ขาดไม่ได้
ลุลา : ผ้าพันคอค่ะ เวลาเดินทาง ไปที่พัก เจอแอร์เย็นๆ หรือบางทีก็ไม่ค่อยเย็น ก็จะมีผ้าพันคอติดตัวตลอด ไม่มีแล้วกระวนกระวาย กลัวไม่สบาย
สุชาติ : ก็ต้องหมวกล่ะครับ ลืมไปเล่น คนดูไม่รู้ว่าใครเลยนะ (หัวเราะ) มันเป็นคาแร็กเตอร์ผม ไม่มีขึ้นมา คนอาจจะจำไม่ได้
ระหว่างทางไปเล่นในผับกับอีเว้นท์กลางแจ้งชอบแบบไหนมากกว่ากัน
ลุลา : ช่วงหลังเล่นผับน้อยลง ชอบเล่นอีเว้นท์ จนค้นพบว่าชอบงานอีเวนท์ มากกว่า ความรู้สึกเป็นแบบแนวแฟมิลี่ บางคนไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน พอเขาดูเราก็จะเป็นเรื่องแปลกใหม่ และทำให้ดูมีความสุขได้ง่าย ยิ้มง่าย เข้าผับเล่นเที่ยงคืน ป้าง่วงนอน (หัวเราะ) แต่ก็ยังรับงานผสมๆ กันอยู่นะ
สุชาติ : ผมก็อีเวนท์นะ น่าจะดีกว่า คือความคาดหวังน้อยกว่า ในผับมันมีความคาดหวังเรื่อง การเอ็นเตอร์เทน แล้วผมไม่ค่อยเก่งด้านนั้น งานอีเวนท์บางทีไม่ต้องเอ็นเตอร์เทนมาก แต่เล่นให้เพราะ ให้เนียน ผมชอบแบบนั้นมากกว่า
ระหว่างทางไปทัวร์ถ้าหิว ขึ้นมาจะแวะกินอะไรบ่อยสุด
ลุลา : ถ้าสะดวกซื้อก็แฮมโบโลน่าพริก กับฝรั่งค่ะ กิน 2 อย่าง
สุชาติ : ผมจะแวะข้างทางกินข้าวจริงจังเลย ถ้าเข้าสะดวกซื้อ ก็จะซื้อขนมขบเคี้ยว
ระหว่างทาง เคยเจอเรื่องเหนือธรรมชาติบ้างไหม
ลุลา : เจอตลอดแต่ไม่สนใจ เพราะถ้าสนใจก็ไปกันใหญ่ เคยเจอโหดๆ เหมือนกัน แต่พยายามจะไม่คิด
สุชาติ : ไม่มีครับ ไม่มีอะไรให้เล่าเลย แย่จัง (หัวเราะ)
ระหว่างทางเคยไปเล่นที่ไหนแล้วหน้าแตกสุดๆ บ้างไหม
ลุลา : เคยมีแต่ล้มบนเวที คนดูเป็นพัน ลงบันได แล้ววันนั้นกระแดะใส่ส้นสูง ล้ม เจ็บนะ แต่อายมากกว่า (หัวเราะ) แล้วลุกมากระเผลกๆ มาร้องต่อๆ
สุชาติ : ซิบไม่รูดครับ แล้วคนดูก็เยอะ เล่นไป 2-3 เพลง เจ้าของร้านต้องมาบอก เราก็ใช้วิธีเนียนๆ โดยการปรับตู้ ปรับมอนิเตอร์ไป (หัวเราะ)
ฝากเพลงนี้
ลุลา : เรื่องระหว่างทางเป็นอีกเพลงที่ลุลา ภูมิใจ ได้ร่วมงานกับ สุชาติด้วย แล้วพอออกมาเป็น เพลง เป็น MV ให้ทุกคนได้ชมกัน ถ้าเพลงนี้ทำให้วันแย่ๆ ของใครสักคน ก็ถือว่าเราแฮปปี้มากแล้ว ก็ฝากเพลงนี้ด้วยค่ะ
สุชาติ : เพลงนี้เป็นเพลง ของการให้ ผมแต่งให้ใครที่เหนื่อยกับการตามความฝัน พักลง แล้วค่อยเดินต่อ ฟังกันครับ เพราะผมคิดว่าเพลงนี้มีประโยชน์ครับ
ขอขอบคุณ : ทราย, อี๊ด, ฝ้าย ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์ครับ