สักวันฉันจะดีพอ Lesson
หลังจากที่คอลัมน์ First Step ทำการสอนพื้นฐานมาช้านาน วิธีการที่จะทำให้เล่นได้เป็นเร็วจริงๆ ก็คือการเล่นจากเพลงที่เป็นเพลงดัง นอกจากเบสิกการเล่นแล้ว ในฐานะแรงบันดาลใจ การที่มีเพลงดังแล้วเราสามารถเล่นได้ด้วย น่าจะเป็นการปูทางไปสู่เพลงที่ยากขึ้น เราจะลองนำเพลงดังๆ หลายเพลง มาแยกส่วนประกอบออกมาเพื่อให้คนที่คิดจะหัดเล่นกีตาร์ได้ลองฝึกกันดู แบบฝึกหัดพวกนี้น่าจะทำให้การเล่นกีตาร์ของคุณสนุกขึ้น อาจจะสนุกขึ้นมากกว่าเล่นแบบฝึกหัดที่เป็นแบบฝึกเป็นโน้ตหรือเป็น Lick เราสามารถนำเพลงเหล่านี้ไปใช้งานได้จริง แล้วเราจะมาดูกันว่าเราศึกษาอะไรจากเพลงดังเหล่านี้ได้บ้าง แบบฝึกที่จะนำเสนอในเล่มนี้เป็นเพลงที่หลายคนรู้จักดี ชื่อว่าเพลง “สักวันฉันจะดีพอ” ของ Bodyslam
แนะนำ : โดยหลักการสิ่งเราจะได้เรียนรู้จากเพลงนี้ มี ใหญ่ๆ อยู่ 3 ข้อคือ การค้างโน้ต, จังหวะยก และการเล่นคอร์ดกับเมโลดี้พร้อมกัน ในท่อนที่ยกมาจะเป็นช่วงท่อน Intro ไปจนถึง Pre Hook จะลองแยกส่วนประกอบออกมาแล้วลองเอาไปฝึกกันดู น่าจะได้ประโยชน์กันไม่มากก็น้อย
Ex.1 คอร์ดค้าง
เริ่มด้วยการเล่นคอร์ดกับ Rhythm หลักๆ ก่อน ในช่วงต้นเป็นคอร์ด G เราลองแยกออกมา เราจะเห็นว่าจะเป็นเขบ็ตหนึ่งชั้น ทั้ง 4 จังหวะใน 1 ห้อง แต่ให้สังเกตโน้ตเขบ็ตหนึ่งชั้นในจังหวะสุดท้าย จะเห็นว่าจะลากเสียงยาวไปที่ตัวแรกของห้องที่ 2 ลองฝึกดีดแล้วนับเท้าไปด้วย จะเข้าใจถึงเวลาที่เราเล่นพวกเสียงค้างที่เรียกว่า Tie Note
Ex.2 เมโลดี้แบบคู่
คราวนี้เราแยกส่วนมาอีก เราจะเล่นเป็นเมโลดี้แบบโน้ต 2 ตัว ในลักษณะขั้นคู่ เล่นที่สาย 1 กับสาย 2 จะเล่นในจังหวะที่คล้ายกับในตัวอย่างแรก แต่ให้ลองดูการเปลี่ยนเมโลดี้ในสาย 1 ที่เฟร็ต 2 กับ 3 ตรงนี้อาจจะยากเล็กน้อยกับคนเล่นกีตาร์ใหม่ ในเมโลดี้ที่สับกันเล่นนี้ต้องใช้นิ้วก้อยสลับกันเล่นกับนิ้วกลาง ซึ่งการเล่นด้วยนิ้วก้อยจะยากพอสมควรกับคนที่เล่นกีตาร์ใหม่ๆ
Ex.3 ผสมผสาน
ลองเล่นแบบในตัวเพลงจริงๆ ในตัวเพลงจะเล่นด้วยคอร์ดผสมกับเมโลดี้ โดยเอาตัวอย่างที่ 1 กับ 2 มารวมกัน คอร์ดกับเมโลดี้ และจังหวะ ตัวที่เป็นโน้ตค้างต้องเล่นให้เสียงออกมาชัดเจน ระวังจังหวะตอนที่เล่นค้างโน้ต โดยเฉพาะสายล่างที่เป็นเมโลดี้
Ex.4 จังหวะยก
ท่อนนี้เป็นท่อน Verse ในเพลงจริงๆ จะเล่นเป็นคอร์ดผสมเมโลดี้ แต่คราวนี้เราลองยกเอาเมโลดี้เดี่ยวๆ ออกมาเล่น ลองดูใน 2 ห้องแรก จะเห็นว่าเราดีดโน้ตในจังหวะที่ 1 ของห้องแรกแล้ว จังหวะที่สองจะเป็นเขบ็ตหนึ่งชั้น แต่ตัวแรกจะเป็นตัวหยุด จะไม่ดีดแต่จะไปดีดเขบ็ตหนึ่งชั้นตัวหลัง พวกโน้ตที่ดีดไม่ได้ลงในจังหวะตก เราเรียกว่าจังหวะยก จะทำให้เสียงฟังดูขัดๆ ความยากอยู่การนับเท้าไปด้วย ดีดไปด้วย ใน 2 ห้องถัดไป จะเป็นการเล่นเมโลดี้ที่มีการเล่นค้างโน้ต ลองฝึกดูครับ
Ex.5 จังหวะยกและคอร์ด เมโลดี้
พอเราฝึกจังหวะยก ด้วยการดีดโน้ตตัวเดียวได้แล้ว ลองเอาคอร์ดมาผสมความยากก็จะเพิ่มขึ้นเพราะคราวนี้เราจะต้องโน้ตในหลายๆ สาย ดังนั้นต้องฝึกแบบฝึกหัดก่อนหน้าให้คล่อง จนจังหวะที่หยุด และยกได้ จากนั้นลองใส่คอร์ดตามเพลงเข้าไปผสม ก็จะได้วิธีที่เราจะเล่นคอร์ดในจังหวะยกแล้ว
Ex.6 Picking And Melody
ท่อนสุดท้ายจะเป็นท่อน Pre Hook จะเป็นลักษณะการเล่นแบบ Picking ที่มีการเล่นในจังหวะยกและ Tie Note ค้างโน้ตยาวไปอีกจังหวะนึง การเล่น Picking สิ่งสำคัญคือการควบคุมเสียงค้างของตัวโน้ต ให้ค่าโน้ตสั้นยาวและชัดเจน ตรงนี้ต้องลองจับรูปคอร์ดแล้วลองฝึก Picking ในท่อนนี้จะมีข้ามสายเยอะ ในท่อนหลังจะเป็นการเล่น Rhythm ค้างคอร์ด และเล่นเขบ็ต 1 ชั้น ลองฝึกแบบฝึกทั้ง 6 อาจจะทำให้เข้าใจเรื่องจังหวะยกเพิ่มมากขึ้น